อาวุโสใหญ่เอ่ยปากพูด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง
เห็นได้ชัด
คำพูดของหลินหยางล้ำเส้นซูโม่หยุนโดยตรง
และล้ำเส้นอาวุโสของทุกคนด้วย
นี่เป็นการท้าทายอำนาจของพวกเขา!
สงสัยความน่าเกรงขามของพวกเขา!
"อาวุโสซู ผมพูดผิดตรงไหนเหรอ?"
หลินหยางมองซูโม่หยุน "แม้แต่หยูหลิงและเฝิงซีหยวนก็แพ้ให้กับอีกฝ่าย คุณสั่งให้พวกเขาไป พวกเขาจะสู้ได้สักกี่กระบวนท่า? แบบนี้ไม่ใช่กันรนหาที่ตายแล้วมันคืออะไร? คุณเคยสนใจความเป็นความตายของคนพวกนี้หรือเปล่า?"
"เอาชนะคนคนนี้เพื่อแย่งแหวนศักดิ์สิทธิ์ตงหวง เพื่อคัดเลือกเจ้านิกายตงหวง! ทั้งหมดก็เพื่อตงหวง! เพื่อทุกคนของนิกายตงหวง! เป็นหน้าที่ของลูกศิษย์ทุกคนที่ต้องยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง! มันผิดตรงไหน? หรือคุณต้องการให้ลูกศิษย์ของนิกายเป็นคนรักตัวกลัวตายทุกคนอย่างนั้นเหรอ? คนแบบนี้ มีสิทธิ์อะไรมาเป็นคนของนิกายตงหวง?" ซูโม่หยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ในเมื่อเป็นแบบนั้น แล้วทำไมอาวุโสอย่างพวกคุณไม่ไปเอง? ทำไมต้องเอาแต่หลบอยู่ข้างหลัง? มองดูลูกศิษย์ของตัวเองตายต่อหน้าต่อตา?" หลินหยางถามกลับทันที
ซูโม่หยุนขมวดคิ้วไม่พูดอะไร
พวกลูกศิษย์รู้สึกผิดหวัง
พวกเขาไม่ใช่คนโง่ มีหรือที่จะมองไม่ออก?
เกรงว่าแม้กระทั่งอาวุโสพวกนี้ก็คงไม่สามารถรับมือคนเฝ้าสุสานคนนี้ได้หรอกมั้ง?
ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะกลัวตาย แหวนศักดิ์สิทธิ์อยู่เพียงแค่เอื้อม พวกเขาจะยอมนิ่งดูดายอยู่แบบนั้นเหรอ?
หลิ่วซื่อเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ "คนแซ่หลิน คุณอย่าพูดจาเหมือนเป็นคนมีความชอบธรรมมากนักเลย! คุณบอกว่าพวกเรากลัวตายไม่กล้าลงมือเอง! แล้วคุณล่ะ? ถ้าคุณเก่งขนาดนี้ คุณไปสู้กับผู้อาวุโสคนนั้นเองเลย!"
"ใช่ คุณบอกว่าคุณเป็นเจ้าตำหนักของตำหนักชิงเหอไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนั้น คุณก็เป็นคนของนิกายตงหวง! คุณหาว่าพวกเรารักตัวกลัวตาย! แล้วตัวคุณล่ะ? ก็เป็นได้แค่เต่าหดหัวอยู่ในกระดองไม่ใช่เหรอ!" มีอาวุโสอีกคนพูด
"ท้ายที่สุด! คุณก็กำลังว่าตัวเองอยู่ไม่ใช่เหรอ?"
"อย่าคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น! แน่จริงคุณก็ลงมือ!"
"ลงมือสิ!"
"ตัวคุณไม่กล้าเสียสละเพื่อนิกายตงหวง ก็เลยมาห้ามลูกศิษย์ทุกคนไม่ให้ต่อสู้เพื่ออนาคตของนิกายตงหวงเหรอ? เหอะเหอะ คุณมันก็เป็นได้แค่คนประเภทปากอ้างคุณธรรมแต่จิตใจคิดคด"
"ถูกต้อง!"
อาวุโสคนอื่นก็เริ่มตำหนิหลินหยาง
แต่ละคนพูดถึงแต่เรื่องของความชอบธรรม
แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางเอ่ยปากพูดอย่างกะทันหัน
"พวกคุณต้องการให้ผมลงมือ ได้งั้นผมลงมือเอง!"
พูดจบ เสียงพูดตำหนิที่อยู่โดยรอบเงียบลงทันที
ทุกคนเบิกตากว้างมองหลินหยางอย่างไม่เชื่อสายตา
"หลินหยาง คุณบ้าไปแล้วเหรอ?"
หรงซิงหงหน้าถอดสี ตะโกนด้วยความร้อนใจ
เจิ้งตานดีใจอย่างบ้าคลั่ง
ซ่าวไห่ถึงกับปรบมือโดยตรง "ดี! ดี! ดูเหมือนเจ้าตำหนักชิงเหอของเราเตรียมใจพร้อมที่จะเสียสละแล้ว! ไม่เลว!"
คราวนี้ยอมรับว่าหลินหยางคือเจ้าตำหนักชิงเหอแล้ว…
ซูโม่หยุนขมวดคิ้วแน่น
หลิ่วซื่อเฟิงรู้สึกตกใจ
กุยโซ ซีมู่หลิน พระจิ่วโหรวและอาวุโสคนอื่นหันไปสบตากัน
ตกลง…หมอนี่กำลังคิดอะไรอยู่?
ไม่มีใครสามารถเข้าใจความคิดของเขา
หลินหยางปัดฝุ่นบนร่างกายตนเอง เดินไปที่เนินสูงแห่งหนึ่งแล้วพูดกับทุกคน "พวกคุณฟังให้ดี ที่ผมยอมก้าวออกมาไม่ได้เพื่อต้องการแหวนศักดิ์สิทธิ์ตงหวง แต่ผมไม่ต้องการเห็นลูกศิษย์มากมายตายต่อหน้าต่อตา! ผมแตกต่างจากพวกคุณทุกคน! ผมเคารพทุกคน! พวกคุณทุกคนไม่สมควรตาย!"
พูดจบ หลินหยางหันหลังแล้วเดินเข้าไปหาคนเฝ้าสุสาน
ลูกศิษย์ทุกคนมองเขาด้วยความตกตะลึง
คำพูดเรียกง่ายเพียงแค่ประโยคเดียว กลับทำให้หัวใจของลูกศิษย์ทุกคนเกิดความรู้สึกสับสน
สีหน้าของหลิ่วซื่อเฟิงดูน่าเกลียดมาก
กุยโซก็เช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...