ชวี่เทียนส่งเงิน?
เขากล้ารับเหรอ? ถ้ารับไปต้องตายแน่!
แต่ถ้าหากไม่รับ แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเขาล้มละลายเหรอ?
หลังจากที่ไต่ตรองสักพัก สุดท้ายเขาก็คิดว่าชีวิตสำคัญกว่า
"ลุงเทียน คือว่า…เงินไม่ต้องให้แล้ว เงินแค่นี้ถือว่าผมแสดงความเคารพต่อคุณเถอะ" หลินฟู่หรงพูดทั้งน้ำตา
"ดีมาก! ผมชอบเจ้าอ้วนที่ฉลาดอย่างคุณ!"
ชวี่เทียนตบไหล่ของหลินฟู่หรงเสร็จแล้วหันมาพยักหน้าให้กับหลินหยาง หลังจากนั้นก้าวขึ้นรถโดยตรง
"รถเบนซ์คันนี้ก็ขับไปด้วย" ชวี่เทียนยื่นหัวออกมาแล้วตะโกนทิ้งท้ายแล้วหายลับตาไป
เพียงแค่พริบตาเดียว หลินฟู่หรงกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรสักอย่าง
ผู้คนที่อยู่โดยรอบมองตาค้าง
ส่วนซูหยูที่อยู่ด้านข้างพูดอะไรไม่ออกตั้งนานแล้ว
"ต่อไปพวกเขาจะไม่มายุ่งกับเธออีกแล้ว กลับบ้านเถอะ"
หลินหยางพูดกับซูเสี่ยวชิง
"ขอบคุณมากพี่เขย" บนใบหน้าของซูเสี่ยวชิงเต็มไปด้วยความชื่นชม
"ต่อไปถ้ามีปัญหาอะไรมาหาพี่เขยได้ตลอด"
"อืม"
ดวงตาของซูเสี่ยวชิงเป็นประกาย
"รอก่อน" ซูหยูตะโกนขึ้นด้วยความเร่งรีบ
"มีอะไรอีกเหรอ?" หลินหยางเงยหน้าขึ้น
ซูหยูเม้มริมฝีปากสักพัก กัดฟันแน่นแล้วพูด "หลินหยาง…ตกลงนี่มันอะไรกันแน่? รถพวกนี้…เป็นของนายจริงเหรอ? แล้วเมื่อกี้ชวี่เทียนมันคืออะไรกัน? ในเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลซูไม่ใช่เหรอ? มีแต่คนว่านายเป็นคนไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ? ทำไม…ทำไมนายถึงมีของพวกนี้?"
ซูหยูทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
คำพูดพวกนี้เธออดกลั้นมาสักพักแล้ว
เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของหลินหยางมาสักพักหนึ่งแล้ว
ตอนนี้…ในที่สุดเธอก็ถามมันออกมา
หลินหยางเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นยิ้มเล็กน้อย
"มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังมีคนรู้สึกว่าผมเป็นคนไร้ประโยชน์อีกเหรอ? ไม่รู้ว่าคนแบบนี้ต้องโง่มากแค่ไหนถึงจะคิดได้?"
หลังจากที่พูดจบ หลินหยางหันหลังแล้วเดินจากไป
ซูหยูยืนอยู่ตรงที่เดิมด้วยท่าทางที่เหม่อลอย
"พี่…" ซูเสี่ยวชิงเรียกเธอ
"บางทีคุณย่าคิดผิดมาโดยตลอด…" ซูหยูพูดพึมพำกับตัวเอง
....
หลินหยางไม่ได้รู้สึกดีอะไรต่อซูหยู ที่เขายอมยื่นมือเข้าไปช่วยทั้งหมดก็เพราะซูเสี่ยวชิง
กลับมาถึงบ้าน หลินหยางนั่งอยู่บนโซฟาเตรียมตัวอ่านหนังสือ
แต่ในตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงสะอื้นของซูเหยียนดังออกมาจากห้องนอนของเธอ
"ฮืม?"
สีหน้าของหลินหยางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบก้าวเท้าเดินตรงเข้าไป
แต่แล้วเขาพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านใน
"เสี่ยวเหยียน คุณกำลังทำอะไรอยู่ด้านใน?"
"ฉัน…ฉัน…กำลังทำอะไรอยู่?" เสียงของซูเหยียนฟังดูกระวนกระวายเล็กน้อย
"เสี่ยวเหยียน เปิดประตู"
"ฉัน…ฉันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า…ไม่สะดวก…"
"เปิดประตู!" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก
ซูเหยียนไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ของหลินหยางมาก่อน
เธอลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตัดสินเปิดประตูออกอย่างเชื่องช้า
ทันทีที่ประตูเปิดออก ลมหายใจของหลินหยางหยุดนิ่งทันที
ผมของซูเหยียนยุ่งเหยิง บนใบหน้ามีรอยฝ่ามือสีแดง ที่มุมปากมีคราบเลือดติดอยู่เล็กน้อย สีหน้าดูซีดขาว
"ใครเป็นคนทำ?" หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"ไม่…ไม่มี ฉัน…ฉันไม่ทันระวังหกล้ม…"
"ผมไม่ได้โง่…บอกผมมา!"
"ฉันบอกคุณแล้วคุณจะทำอะไรได้? ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตระกูลจางไม่ใช่ตระกูลซู ถึงแม้คุณจะรู้จักตระกูลหนิงและตระกูลชวี่ แต่เมื่อเทียบกับคนฝั่งนู้นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี" ซูเหยียนก้มหน้าลงพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"ตระกูลจาง? จางเป่าชวี?" แววตาของหลินหยางเย็นชาลง เขาเข้าใจทั้งหมดแล้ว
"คุณมานี่"
เขาดึงมือของซูเหยียนเดินมาที่ห้องรับแขก หลังจากนั้นนำผ้าเช็ดหน้าไปต้มและไข่ต้มสุกหนึ่งฟอง มาประคบหน้าของซูเหยียนและนวดอย่างเบามือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...