จะด่าผู้ใดได้อีก ก็ต้องด่าผู้ที่เหยียบย้ำข้าวฟ่างของนางนะสิ ด่าลามไปถึงบรรพบุรุษด้วย ด่าชนิดที่ว่าทนฟังเข้าหูไม่ได้เลย
นางเซี่ยได้ยินจากในห้อง ย่อมฟังออกว่าเป็นเสียงของนางเฮ่อ จึงเอ่ยถามออกไป : “นางด่าผู้ใดอีก?”
เมิ่งอู่ยกยิ้ม และกล่าวว่า : “ด่าบรรพบุรุษของตนเองเจ้าค่ะ”
แต่นี่เป็นเหตุการณ์หลังจากนั้น
เมิ่งอู่ถือต้นข้าวฟ่างเข้ามาในห้อง จากนั้นก็นั่งลงข้างกายของอินเหิง หยิบข้าวฟ่างขึ้นมากัดเปลือกแข็งด้วยฟันของตน เก็บแกนกลางสีขาวไว้
นางเซี่ยจะวางใจหลับลงได้อย่างไรกัน นางไอออกมาสองครั้ง และถามออกไป : “อาอู่ เจ้าทำอะไร?”
เมิ่งอู่กัดแกนกลางไปหนึ่งคำ เคี้ยวตุ่ย ๆ พลางตอบกลับไปว่า : “ป้อนให้เขากินเจ้าค่ะ”
ในขณะที่นางเตรียมจะนำน้ำหวานสดจากข้าวฟ่างป้อนในเขานั้น นางเซี่ยก็เหมือนจะมองเห็นเหตุการณ์ผ่านม่าน และกล่าวว่า : “อาอู่ เจ้าเป็นลูกผู้หญิง ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน”
เมิ่งอู่ประกบปากเรียวบางของอินเหิงพลางกล่าวตอบกลับด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า : “อึก อื้อ ท่านแม่วางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้น”
แม้ว่าชายผู้นี้จะหลับใหล แต่เมื่อมีน้ำหวานไหลเข้ามาในปากของเขา เขาให้ความร่วมมือและกลืนมันลงไป
เมื่อป้อนน้ำหวานจากข้าวฟ่างแล้ว ก็ทำการป้อนยาให้เขาอีกหนึ่งถ้วย จากนั้นเมิ่งอู่ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงกับนางเซี่ย
เมื่อยามสาม เมิ่งอู่ที่หลับไปแล้วก็ได้ตื่นขึ้นมา สบโอกาสตอนที่นางเซี่ยกำลังหลับ ลุกขึ้นและเดินไปดูอาการของเขาที่นอนอยู่หลังม่าน
เมิ่งอู่เอื้อมมือไปลูบหน้าผากของอินเหิง เป็นอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ หน้าผากของเขาร้อนจนน่าตกใจ
เขาเริ่มมีไข้แล้ว
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน หากปล่อยให้ไข้สูงต่อไป ถึงจะช่วยชีวิตได้ แต่โง่เขลาขึ้นมาจะทำเช่นไร? ไม่เสียดายใบหน้าที่แสนงดงามเช่นนี้แย่หรอกหรือ
เมิ่งอู่เไปยกอ่างน้ำเย็นเข้ามาอย่างเบาที่สุด ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำและนำมาวางบนหน้าผากเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายให้กับเขา
ผ้าขนหนูผืนที่สองถูกเปลี่ยน เมิ่งอู่แทบจะไม่ได้นอนเลยครึ่งคืน
ในปากของเขาพร้ำเพ้อขอน้ำ เมิ่งอู่จึงป้อนน้ำให้กับเขา
นางไม่เคยดูแลคน ๆ หนึ่งมากเช่นนี้มาก่อน
ก็ต้องโทษที่เขาหน้าตางดงามเกินไปมิใช่หรือ!
รอให้เขาฟื้น หากพลีกายตอบแทน ก็ต้องโทษที่นางยุ่งจนไม่ได้เปลื้องผ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สวามีข้าโฉมงามดั่งปุบผา
คุณแอดมินมาอัพเดทบทต่อไปทีนะคะ อยากอ่านมากๆเลย...