เวลานี้น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนก็ได้ดังขึ้นจากด้านข้าง : “น้องอาอู่ ท่านย่าสงสารเจ้าและอาสะใภ้รองหญิงหม้ายลูกติด ให้เจ้าแต่งงานออกเรือนโดยเร็วแค่หวังให้เจ้ามีที่พึ่งพิง เหตุใดเจ้าถึงได้เข้าใจผิดในความหวังดีของท่านย่าเช่นนี้? ผู้ที่แต่งงานออกเรือน ก็ต้องเชื่อฟังสามี ไม่มีเหตุที่ต้องทำร้ายสามี”
คำกล่าวนั้นเป็นของพี่หญิงในตระกูลท่านลุงของเมิ่งอู่ นามว่าเมิ่งเจียนเจีย
ข้างกายของนางก็คือน้องหญิงคนที่สามนามว่าเมิ่งซวี่ซวี่ ซึ่งเมิ่งซวี่ซวี่กล่าวคล้อยตามด้วยน้ำเสียงชิงชังว่า : “นั่นนะสิ”
เมิ่งเจียนเจียเป็นดอกไม้อันเพริศพริ้งที่ได้รับการยอมรับจากคนในหมู่บ้าน อ่อนโยน งดงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ส่วนเมิ่งซวี่ซวี่ได้รับการตามใจจนเสียคน ปกติแล้วสองพี่น้องคู่นี้มักจะมาวางอำนาจบาตรใหญ่กับเมิ่งอู่อยู่เสมอ
เมิ่งอู่มองไปยังสองพี่น้องคู่นั้นด้วยแววตาเรียบเฉย และกล่าวว่า : “เสแสร้ง”
เมิ่งเจียนเจียแสดงสีหน้าไม่ได้ความเป็นธรรม เมิ่งซวี่ซวี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยังไม่ทันรอให้สองพี่น้องโต้กลับ ท่านลุงของเมิ่งอู่ก็เดินออกมาและก่นด่าไปฉากใหญ่
สุดท้ายตระกูลหวังและตระกูลเมิ่งก็ได้เรียกร้องให้เมิ่งอู่โดนจับถ่วงน้ำ ชาวบ้านที่รายล้อมก็ช่วยกันโน้มน้าวเช่นกัน
ถึงอย่างไรหวังสี่ซุ่นผู้ต่ำช้าเลวทรามก็ถูกเมิ่งอู่จัดการไปแล้ว ต่อไปแม้แต่ทายาทก็ไม่สามารถมีได้อีก หญิงสาวในหมู่บ้านคงจะแอบดีใจกันไม่น้อย
น่าเสียดายที่แม้ว่าตระกูลหวังจะกดขี่ข่มเหงไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แต่พวกเขากลับไม่กล้าลงโทษ อีกทั้งนี่ก็เป็นเรื่องของสองตระกูล คนนอกจะเข้าไปแทรกได้อย่างไร?
ผู้ใหญ่บ้านผู้นี้ก็อายุมากแล้ว หวังแค่อยากเกลี่ยกล่อมให้ยุติความขัดแย้ง ยิ่งไปกว่านั้นหวังสี่ซุ่นก็ถูกเมิ่งอู่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ถือว่าใส่ร้ายนาง จึงตัดสินให้ขับเมิ่งอู่ถ่วงน้ำ
ใบหน้าของแม่เฒ่าหวังสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง พร้อมกับจ้องเขม็งไปทางเมิ่งอู่อย่างโหดร้าย และกล่าวว่า : “เจ้าทำร้ายลูกชายของข้า ข้าจะไปรายงานตรงต่อท่านอ๋องเหยียน!”
นางเฮ่อและลุงเมิ่งตระกูลเมิ่งต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ขอเพียงแค่เมิ่งอู่ตาย เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอันจบ เหลือไว้เพียงแม่ที่ป่วยหนักผู้นั้น คาดว่าคงจะฝืนไปได้อีกไม่กี่วัน ต่อไปที่นาของเมิ่งอู่และนางเซี่ยก็จะกลายเป็นของพวกเขา
จากนั้นก็มีชายในหมู่บ้านรุดหน้าขึ้นมา จับขาของเมิ่งอู่มัดด้วยเชือกอีกครั้ง ปลายเชือกยังถูกมัดด้วยก้อนหิ้วที่มีมวลน้ำหนักมากก้อนหนึ่ง
ขอเพียงแค่โยนก้อนหินลงไปในน้ำ ยิ่งเมิ่งอู่พยายามว่ายน้ำแค่ไหนก็ยิ่งถูกดึงให้ลึกลงไปเรื่อย ๆ ยากที่จะขึ้นมาได้
เพียงแต่เมิ่งอู่กลับมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้แสดงอาการกระวนกระวายใจแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สวามีข้าโฉมงามดั่งปุบผา
คุณแอดมินมาอัพเดทบทต่อไปทีนะคะ อยากอ่านมากๆเลย...