"ไอ้พี่เสกบ้า! ทำอะไรไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง!!" เมื่อหญิงสาวเป็นอิสระก็เริ่มต่อว่าเรื่องที่เขาจูบเธอ
"อยากดื้อทำไมล่ะพูดอะไรก็ฟังกันหน่อยสิ รู้ไหมว่าไอ้นั่นมันเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนตายด้วย"
"อะไรนะ"
"อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลย จะไปโรงพักด้วยไหมเนี่ย" คนที่ตะโกนเข้ามาก็คือเหนือตะวัน พอได้ยินเสียงโวยวายก็รู้แล้วว่าทั้งสองคงจะแยกกันแล้ว
จั๊กจั่นก็เลยรีบเดินออกมาข้างนอกแล้วตรงไปขึ้นรถ ความอายก็ยังคงมีอยู่ ใครจะไม่อายล่ะถูกจูบต่อหน้าคนทั้งบ้านแบบนี้
[สถานีตำรวจ]
"รถคุณพ่อนี่ครับ" พอรถวิ่งเข้ามาก็เจอว่ารถของผู้เป็นพ่อจอดอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
"เราเข้าไปข้างในกันเถอะ" ประไพเริ่มหัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้ว่าจะได้เห็นหน้าสามีเก่า แต่นางก็พยายามทำให้ปกติที่สุด เพราะอดีตยังไงก็คืออดีต
ทั้งสี่ก็เลยเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน ส่วนมิลานสามีไม่ให้ตามมาด้วยเพราะที่นี่ไม่เหมาะกับคนท้อง
"สวัสดีครับคุณพ่อ" เหนือตะวันยกมือไหว้ทักทายพ่อก่อน และอีกสองคนก็ไหว้ตาม
"คนนี้เหรอที่เป็นคนเสียหาย" สำราญมองหน้าจั๊กจั่น เพราะเพิ่งเคยเห็นเธอเป็นครั้งแรก
"ใช่ครับ"
ประไพอดไม่ได้ที่จะมองสายตาของสามีเก่า เวลามองเด็กสาวแบบนี้ แต่สายตาคู่นั้นดูเปลี่ยนไป ไม่เหมือนทุกครั้งที่เห็นหน้าสาวๆ สวยๆ
และคดีนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ แต่วันนี้สามารถปิดคดีได้ โดยการร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย แถมยังพ่วงด้วยคดีเก่า เพราะเจอตัวคนร้าย..นั่นก็คือเกม
เหตุจูงใจที่เกมตัดสายเบรกของหัวหน้าฝ่ายคนก่อน เพราะอยากจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายสะเอง แต่เกมยังไม่ทันได้เลื่อนตำแหน่ง เด็กเส้นอย่างเสกสรรก็เกิดอยากทำงานขึ้นมาเสียก่อน ก็เลยต้องได้ฝากเข้าที่แผนกนี้
เกมคิดว่าจะรอเวลาจัดการกับเสกสรรอีกที แต่มาเกิดเรื่อง โปรเจคนี้ขึ้นก่อน ซึ่งเกมยอมสารภาพทุกอย่าง แต่ถึงแม้จะไม่สารภาพ หลักฐานทุกอย่างก็ชี้ชัดมาที่ตัวเขาอยู่แล้ว ถ้าสารภาพอาจจะได้ลดโทษ
[คฤหาสน์หลังใหญ่]
พอทุกคนออกจากโรงพักก็ตรงกลับมาที่บ้าน รวมทั้งพ่อของเหนือตะวันด้วย
"ผมอยากจะขอพาจั๊กจั่นกลับบ้านครับ" เสกสรรกล่าวขึ้นเมื่อทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากัน
"ฉันไม่กลับ" จั๊กจั่นตอบกลับไปทันควัน..ด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"แม่ไม่อยากให้กลับเลย แต่ถ้าจะกลับไปเยี่ยมบ้านพอให้สบายใจก็ไม่เป็นไรนะ" ประไพคิดว่าจั๊กจั่นคงจะเป็นห่วงนางก็เลยตอบอนุญาตออกไปในตัว
ส่วนหนึ่งก็เป็นห่วง แต่อีกส่วนก็ห่วงตัวเองที่จะกลับไปเจออะไรเดิมๆ เพราะเธอแอบหนีออกจากบ้านมา ถ้ากลับไปคงเจอหนักกว่าตอนที่อยู่แน่
"ถ้างั้นรอกลับพร้อมกัน ผมฝากพ่อดูแลบริษัทด้วยนะครับ ผมจะพาภรรยาไปฮันนีมูนที่หมู่บ้าน"
"เอางั้นเลยเหรอวะ" เสกสรรสะกิดถามเพื่อน เพราะการฮันนีมูนน่าจะพาไปที่ต่างประเทศมากกว่า
"ไม่ได้กลับไปนานแล้วคิดถึงบ้าน ไม่รู้ป้ากับลุงเป็นยังไงกันบ้าง"
"เห็นว่าพ่อตาดูแลบริษัทดีอยู่ไม่ใช่เหรอ" คนที่พูดออกมาก็คือสำราญ และมันก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้เหนือตะวันเลยที่ท่านรู้ เพราะเขาคิดว่าต้องมีคนรายงานท่านอยู่แล้ว
"ผมอยากจะให้พ่อกลับมาดูช่วยอีกแรง" ตอนนี้เขาขอคุยกับพ่อแค่สองคน และทุกคนต่างก็ออกจากห้องนั้นไปหมดแล้ว
"ถ้าพ่อกลับมา แกไม่กลัวว่าพ่อจะผลาญเงินแกหมดเหรอ"
"ไม่กลัวหรอกครับ ถ้ามันจะหมดมันคงหมดไปนานแล้ว" เขารู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อสร้างขึ้นมาเพราะเขาโดยเฉพาะ ผู้หญิงพวกนั้นอาจจะเป็นแค่ของหวานสำหรับท่าน
"ในระหว่างที่ผมไม่อยู่ ผมฝากพ่อแวะเวียนมาดูแม่ด้วยนะครับ" และอีกอย่างที่เขาเห็นในแววตาของพ่อและแม่ พวกท่านมองกันเหมือนยังเป็นห่วงเป็นใยกันและกัน มันอาจจะเป็นผลดีที่ให้พวกท่านได้รู้ใจตัวเองก็ได้
"ได้สิ"
"ขอบคุณครับ" เหนือตะวันมองตามหลังของผู้เป็นพ่อออกไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
"พี่ทำอะไร"
"เก็บเสื้อผ้าไง"
"พี่มาเก็บเสื้อผ้าฉันทำไม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก