สยบรัก นิยาย บท 94

"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ

"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้

"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน"

"ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน

"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้

"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว"

"จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม

"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้

"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม่จะตีเธออีก

"ก็ดูรักกันดีนี่ แล้วทีแรกทำไมถึงเอามาคืนแม่เขาล่ะ"

"เธอหุบปากไปเลยนะตั๊กแตน!" คนที่ตวาดตั๊กแตนก็คือเสกสรร

"ฉันเป็นพี่สาวนะทำไมจะพูดไม่ได้"

"พี่สาวงั้นเหรอ พี่สาวหมาๆ น่ะสิ" ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงป่านนี้คงถูกจระเข้ฟาดหางของเสกสรรเข้าให้แล้ว

จั๊กจั่นแอบสะใจที่เขาพูดแบบนั้น เพราะถ้าเธอเป็นคนพูดคงถูกแม่ตีแน่

"พี่เป็นผู้ชายทำไมกล้าพูดแบบนี้ให้ผู้หญิง" ตั๊กแตนรู้สึกเสียหน้า

"ผู้ชายก็มีปากทำไมจะพูดไม่ได้"

"ฉันไม่อยู่ตรงนี้แล้วก็ได้ คนอุตส่าห์เป็นห่วง เห็นเถลไถลไม่อยู่บ้าน" ว่าแล้วตั๊กแตนก็รีบชิ่งหนีไปจากตรงนั้น อีกนัยหนึ่งมันคือการเอาตัวรอด เพราะตัวเองพูดว่าเขาไว้เยอะ

อัมพรหันมองไปที่เสกสรร เหมือนไล่ทางอ้อม

แล้วเสกสรรก็ทำตาม เพราะตอนนี้เธอคงปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มหันหลังให้แล้วเดินออกมา

พอเขาหันหลังให้เท่านั้นแหละน้ำตาของเธอก็ไหล ถ้าแต่ก่อนเขาดูมีใจให้แบบนี้สักนิด เรื่องทุกอย่างคงจะไม่เกิดขึ้น ป่านนี้คงมีความสุขกันไปแล้ว

จั๊กจั่นก็เป็นอีกคนที่คิดเหมือนผู้ใหญ่ กลัวว่าเสกสรรคนเดิมจะกลับมา คนที่ตะคอกไล่ทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้ เธอก็เลยพยายามห้ามใจตัวเอง ไม่ให้ถลำลึกไปเหมือนครั้งก่อน

เช้าวันต่อมา..

"มึงมานอนนี่ตั้งแต่เมื่อไรวะ" เหนือตะวันลงมาจากชั้นบน ก็เห็นว่าเพื่อนนอนอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน

"ตั้งแต่เมื่อคืน"

"ทำไมมึงทำหน้าเหมือนเซ็งๆ อย่างนั้นล่ะ"

"เป็นห่วงจั๊กจั่น"

"เป็นอะไรอีก"

"ทำไมแตนมันเป็นคนแบบนั้นวะ"

"เป็นคนแบบไหน" ผู้ชายส่วนมากจะดูผู้หญิงไม่ค่อยออกหรอก ว่าใครเอานิสัยจริงออกมาใช้ หรือเป็นแค่การตบตา เพราะผู้หญิงมีหลายร้อยเล่มเกวียนที่จะดึงออกมาใช้ต่อหน้าคนอื่น

"ช่างมันเถอะ แล้วนี่เมียมึงไปไหน"

"มึงถามหาเมียกูทำไม"

"หวงจังนะเมียเนี่ย"

"อ้าวไม่หวงเมียแล้วจะให้หวงใคร"

"กูไม่ทำอะไรเมียมึงหรอกน่าา แค่อยากจะให้ไปดูสถานการณ์ที่บ้านนั้นให้หน่อย"

เพียงไม่นานมิลานก็เดินลงมา ที่จริงเธอก็ได้ยินที่ทั้งสองคุยกันแล้ว

"ไหนบอกว่าจะยังไม่ลงมาไง เดินดีๆ นะ เดี๋ยวตกบันได" เหนือตะวันรีบเดินเข้าไปรับ

"มิลานช่วยพี่หน่อยนะ"

"ช่วยอะไร"

"ช่วยไปดูจั๊กจั่นให้หน่อย"

"หิวข้าวแล้ว" มิลานแกล้งเสกสรรโดยการไม่สนใจ แต่หันไปพูดกับสามีแทน

"หิวเหรอ เดี๋ยวพี่หาให้" คนที่กุลีกุจอจะหาอาหารมาให้ก็คือเสกสรร

"มันท่าจะบ้าแล้ว" เหนือตะวันนึกขำ เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนมีท่าทีแบบนี้

บ่ายคล้อยของวันเดียวกันนั้น

"ฉันยังไม่ตายหรอกน่า" มันคือคำพูดของจั๊กจั่น ที่พูดกับมิลาน

"พูดอะไรไม่เป็นมงคล แล้วนี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง"

"ยังไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องกินจะค่ำแล้วเนี่ย"

"ช่างมันเถอะกินมาตั้งแต่เล็กจนโตแล้วแหละ แล้วนี่เธอมามีอะไร"

"มีคนคิดถึง ก็เลยให้ฉันมาเป็นทัพหน้า"

"ใครคิดถึงฉัน"

"ผัวเธอไง"

พอได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่บูดบึ้งก็แอบมีรอยยิ้มขึ้นมา เธอตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของเขา แต่ก่อนรักยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำ

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน ตั๊กแตนก็ได้เดินผ่านมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก