ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 13

ตกเย็นวันนั้นข้าวของที่ฮูหยินใหญ่สั่งบ่าวไพร่ให้ยกมาให้เรือนท้ายจวน พร้อมทั้งเอ่ยสอบถามเรื่องการซ่อมแซมและปรับปรุงเรือนท้ายจวนหนังนี้ หลังจากที่นางได้รับหน้าที่จากผู้เป็นสามีให้เป็นผู้ดำเนินการจัดการดูแลเรื่องเรือนแห่งนี้ที่อยู่สองแม่ลูกคู่นี้ นางนั้นเคยใช้อุบายขับไล่นางทั้งสองคนแม่ลูกใหมาอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้กลับเป็นนางที่ต้องเป็นผู้ดูแลนังสองคนนี่ นึกแล้วให้เจ็บใจนัก แต่จะทำเช่นไรได้เล่า คำสั่งสามีของนาง อีกทั้งเจ้าหกนี้สามารถทำให้นางคืนตำแหน่งดูแลบัญชีนี้กลับมาได้เห็นทีนางต้องมองสองแม่ลูกนี้ใหม่เสียแล้ว เรื่องของการซ่อมแซมทั้งปรับปรุงนาง ให้เป็นหน้าที่ของพ่อบ้านจัดการตามความเหมาะสม ครั้งเมื่อตอนที่นางไปเยือนเรือนหลังนั้นมีบางจุดที่ต้องเร่งซ่อมแซม จัดการเสียทีเดียวส่วนเรื่องเครื่องใช้ที่หมดการใช้งานนางสั่งบ่าวให้ขนเปลี่ยนให้หมด ยังเอ่ยสำทับอีกว่าเครื่องประดับที่เป็นสินเดิมนั้นบางส่วนสามารถเรียกคืนไถ่ถอนคืนได้ แต่บางชิ้นทางโรงจำนำนั้นได้ปล่อยของไปบ้างแล้ว นางจะชดเชยเป็นเงินแทน จากนั้นฮูหยินใหญ่เดินกลับเรือนของนางเพราะเสร็จเรื่องนี้แล้วไม่รู้นางจะอยู่ทำไม

ห้องโถวซึ่งภายในที่ดูทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด สองแม่ลูกนั่งคุยกันระหว่างมื้ออาหาร อนุป๋ายไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพียงความบังเอิญ!? เพราะมันดูช้างบังเอิญเกินไป!! และไม่สมเหตุสมผลอีกด้วย! นางมองหน้าลูกสาวที่ตั้งใจกินไม่สนใจใครอย่างนึกสงสัย จนฉือฮั่วรู้สึกตัวเงยหน้ามองตอบมารดาของตน ในใจดรุณีน้อยรู้เห็นเรื่องของวันนี้ที่เกิดขึ้น เพราะอย่างไรแล้วแต่นางจงใจสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น นางนั้นต้องการเพียงโอกาสเท่านั้น และโอกาสนั้นก็มาถึง แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงคือไม่เท่าแต่โอกาสเท่านั้นที่นางมีครั้งนี้นางไดเมีโชคด้วย โชคที่นางสามารถเล่นงานสองแม่ลูกคู่ชั่วนั่น และคืนของท่านแม่เท่านั้นที่นางตัดใจนำสินเดิมรักษาร่างของดรุณีน้อยนางนี้ที่นางยึดเป็นร่างของตัวเอง

“มีอันใดเจ้าคะท่านแม่!? เหตุใดท่านหยุดกินแล้วมองหน้าข้า (=^・^=)เช่นนี้” ตะเกียบที่ถืออยู่นำกับข้าวเข้าปากจากนั้นถามออกไปแล้ววางตะเกียบลงรอฟังสิ่งที่ค้างคาใจของท่านแม่

“เรื่องทั้งหมดเจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่” นางเอ่ยถามลูกสาวพร้อมทั้งใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาส่งให้เด็กน้อยตรงหน้า

“คิกคิก ท่านแม่ จะเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไรเจ้าคะ ข้าเพิ่งกี่หนาวเองเหตุใดจะกล้า” ข้าหัวเราะไปกับคำพูดของมารดาอันที่จริงคือเรื่องทั้งหมดมันคือสิ่งที่ตนวางแผนจริงๆแต่ไม่สามารถบอกท่านแม่ได้ (เพราะข้าจะทำมันมากกว่านั้น)

“หากไม่ใช่คือเรื่องดี แต่หากใช่ขึ้นมาเจ้าต้องระวัง” นางเอ่ยเตือนลูกสาว เพราะตั้งแต่นางฟื้นจากป่วยไข้นิสัยของลูกเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

“ขอบคุณท่านแม่ที่ห่วงใย” ท่านแม่รู้หรือ? (ถึงท่านรู้ไปหาใช่ปัญหา)

“พรุ่งนี้เจ้าออกไปเดินตลาดระวังด้วย เจ้าได้คิดแล้วหรือไม่ที่จะคิดทำการค้าด้านใด”

“ท่านแม่ ข้ามิรู้เลยว่าต้องทำอะไร ข้าต้องออกไปดูก่อนเจ้าคะ”

“ตามใจเจ้า” และแล้วบทสนทนาระหว่างแม่ลูกจบลง พี่เสี่ยวชุ่ยเข้ามาเก็บสำหรับอาหาร จากนั้นแม่ลูกแยกย้ายไปทำสิ่งที่ตัวเองยังค้างอยู่

ตั้งแต่ฟื้นมาแล้วรู้ตัวเองว่าอยู่ที่ใดยุคใด ทุกๆวันในช่วงสามวันตื้นเช้าหลังล้างหน้าล้างตาเสร็จฝึกคัดอักษร ตัดบทกวี อย่าน้อยๆได้รื้อตัวอักษรโบราณและใช้พู่กัน และตัวอักษรที่ใช้เขียนค่อนข้างเล็ก ตกกลางคืนก่อนนอกก็ฝึกเช่นเดียวกันแต่ เขียนเป็นจดบันทึกชีวิตของตัวเอง (ไดอารี่)ที่ชาติก่อนตัวเองเขียนอยู่เป็นประจำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว