สตรีชุดดำรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จากนั้นจึงพบว่าตนเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นตาแห่งหนึ่ง
เบื้องล่างคือธารน้ำไหลรินไม่ขาดสายเส้นแล้วเส้นเล่า รอบด้านมีทิวเขาทอดยาวอยู่ใกล้ไกล สูงขึ้นไปบนท้องนภามีลูกบอลเพลิงมหึมาสามลูกคล้ายดวงตะวันกำลังแผ่แสงสีขาวแสบตาออกมา
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมีเพียงสีขาวดำสองสี ไม่มีสีอื่นใดอีก จึงแลดูค่อนข้างไร้ชีวิตชีวา
สตรีชุดดำสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อกวาดสายตามองรอบด้านก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว มุมปากเผยรอยยิ้มหยันจางๆ ออกมา
“คิดจะอาศัยอาวุธเวทมิติลับแลมากักขังข้า ช่างเพ้อฝันโดยแท้!”
เวลานี้สองแขนของนางกลับสู่สภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว บนฝ่ามือทอแสงสีเขียว เคียวสำริดด้ามยาวหน้าตาโบราณชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นมาก่อนจะแหวกผ่านอากาศ คมแสงพร่ามัวสายหนึ่งพุ่งเร็วจี๋ออกมา
เสียงดังสนั่นก้องฟ้าดิน!
สายน้ำและทิวเขารอบด้านต่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ท้องฟ้าถูกฉีกเป็นรอยแยกมิติขนาดมหึมาเส้นหนึ่ง
ร่างกายของสตรีชุดดำขยับวูบเดียวก็พาเงาเลือนรางสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในรอยแยกมิติทันที
ทว่าในตอนนี้เองประกายแสงสีดำสายหนึ่งกลับพุ่งพรวดออกมาจากที่ใดไม่ทราบแล้วโจมตีลงบนรอยแยกมิติ คลื่นปราณล่องหนสายหนึ่งทะลักออกมาจากรอยแยกอย่างบ้าคลั่งทำให้สตรีชุดดำชะงักเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกันอากาศรอบด้านกลับมีแสงสีขาวแสบตาสายแล้วสายเล่ารวมตัวเข้ามาที่รอยแยกไม่หยุด ทำให้รอยแยกมิติสั่นไหวเบาๆ แล้วประสานสนิทดังเดิมอีกครั้ง
ต่อจากนั้นเงาคนสองร่างก็ปรากฏตัวขึ้น ผู้เฒ่าชุดขาวผู้มีใบหน้าอ่อนเยาว์แต่เส้นผมขาวโพลนกับผู้เฒ่าหน้าดำที่สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบสีดำผู้หนึ่งขวางอยู่หน้าสตรีชุดดำอย่างเงียบเชียบ
ลมปราณที่แผ่ออกมาจากร่างของทั้งสอง แม้จะด้อยกว่าสตรีชุดดำอยู่หลายส่วน แต่ก็เห็นชัดว่าบรรลุระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์แล้ว
แทบจะในเวลาเดียวกันประกายแสงสีเทาก็ฉายสว่างด้านหลังนาง ผู้อาวุโสเสวียนอวี๋ปรากฏตัวหลังร่างนาง ทั้งสามคนยืนเป็นรูปสามเหลี่ยมล้อมสตรีชุดดำไว้ตรงกลางทันที
สีหน้าของสตรีชุดดำเคร่งขรึมขึ้นในที่สุด
……
หุบเขาของยอดเขาแสงอัสดงในยามนี้เรียกได้ว่ามีแต่ความเละเทะ สิ่งที่เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่งคือเศษหินระเกะระกะกับซากศพของเหล่าแมลงที่นอนกระจัดกระจายอยู่
ยามนี้ทั่วทั้งหุบเขาเงียบกริบ ไม่มีเสียงดังแม้แต่น้อย
นับตั้งแต่ผู้อาวุโสเสวียนอวี๋ปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหัน จนสตรีชุดดำติดกับถูกดึงเข้าไปในพายุหมุนสีดำ เป็นเวลาเพียงชั่วครู่สั้นๆ เท่านั้น การประมือของผู้แข็งแกร่งระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์สองคนประหนึ่งดอกถานฮวาบานชั่วข้ามคืน
หลังจากพายุหมุนสีดำหายไปไม่นาน กองเศษหินจุดหนึ่งบริเวณขอบหุบเขาก็ระเบิดออกมา เงาคนที่มีปราณสีดำหุ้มอยู่ร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากเศษหินที่กระจายไปทุกทิศทาง เหาะออกไปไม่กี่ครั้งก็มาโผล่ใกล้กับทางเชื่อมมิติกลางหุบเขา
เมื่อปราณสีดำสลายไปร่างของหลิ่วหมิงก็เผยออกมา
เขามองไปที่ทางเชื่อมมิติ ดวงตาทอประกายวาวโรจน์แล้วยกมือเรียกกระจกโบราณบานหนึ่งออกมา มันก็คือกระจกหุนเทียนที่เทียนเกอเจินเหรินมอบให้นั่นเอง
หลิ่วหมิงท่องมนตร์ออกจากปากอย่างรวดเร็ว สองมือกลายเป็นเงาเลือนราง เคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าพุ่งเร็วจี๋ออกไปตกต้องบนกระจกหุนเทียน
ผิวของกระจกหุนเทียนเปล่งแสงสว่างไสวแล้วโต้ลมขยายขนาด พริบตาเดียวขยายจนสูงเท่าตัวคน ในเวลาเดียวกันนั้นบนผิวกระจกพลันเกิดคลื่นกระเพื่อม อักขระอันลี้ลับตัวแล้วตัวเล่าปรากฏขึ้นมา
หลิ่วหมิงสูดหายใจลึกยาวเฮือกหนึ่ง ก่อนจะอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งลงบนกระจกหุนเทียน ลำแสงมืดหม่นสายหนึ่งพุ่งเร็วจี๋ออกมาจากผิวกระจกพุ่งหายวับเข้าไปในรอยแยกมิติ
ขณะที่หลิ่วหมิงใช้วิชาควบคุมอาวุธอยู่นั่นเอง หลุมลึกที่ถูกเศษหินขนาดยักษ์นับไม่ถ้วนถมทับอีกจุดหนึ่งในหุบเขาก็เกิดระเบิด แสงสีเลือดสายหนึ่งพุ่งเร็วรี่ออกมา
เงาสีเลือดพุ่งออกมากลายเป็นเงาครึ่งคนครึ่งแมลงร่างหนึ่ง มันก็คือบุรุษเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์ที่ถูกเสวียนอวี๋เล่นงานครั้งเดียวจมไปอยู่ใต้ดินตัวนั้น
เวลานี้มันดูค่อนข้างสะบักสะบอม ครึ่งร่างอาบเลือด บาดแผลหลายแห่งบนร่างยังมีเลือดไหลริน เปลือกสีเลือดสามชิ้นบนแผ่นหลังมีรอยปริร้าวหลายเส้น แต่ลมปราณของมันยังนับว่ามั่นคงเหมือนกับว่าไม่ได้บาดเจ็บถึงพลังปราณ
บุรุษเผ่าหนอนผีเสื้อเปลือกสีเลือดเห็นการกระทำของหลิ่วหมิงก็คำรามเกรี้ยวกราดในทันใด ร่างกายพาเมฆโลหิตสายหนึ่งกระโจนเข้ามา กระบี่ยักษ์สีเลือดขนาดร้อยจั้งสามเล่มพุ่งออกจากเปลือกบนแผ่นหลังแล้วฟันเข้าใส่หลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงเปลี่ยนสีหน้าไปทันที ความคิดแล่นเร็วจี๋ในใจ สองมือส่งเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าผสานเข้าไปในกระจกหุนเทียนต่อ ลำแสงที่พุ่งออกมาจากบานกระจกหนาขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันบนร่างพลันเปล่งแสงสีเหลือง อาวุธเวทมุกบรรพตธาราสิบสองเม็ดโผล่ออกมา
มุกบรรพตธาราเปล่งแสงสีเหลืองเข้มสว่างจ้า แสงของมุกสิบสองเม็ดเชื่อมประสานเป็นหนึ่งกลายเป็นยอดเขามหึมาขนาดหลายสิบจั้งลูกหนึ่งขวางอยู่หน้ากระบี่ยักษ์สีเลือดสามเล่ม
เปรี้ยง!
เสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าดังขึ้นในหุบเขา ยอดเขาสีเหลืองเข้มส่งเสียงปริแตก รอยร้าวคดเคี้ยวใหญ่ยักษ์สามเส้นลากจากยอดเขาจรดตีนเขา
อึดใจต่อมากระบี่ยักษ์สีเลือดสามเล่มพลันสะท้านอย่างรุนแรงแล้วแตกสลายเสียงดัง
ทั้งหุบเขาสั่นไหวรุนแรงตามอยู่ชั่วครู่ วงแสงสีเหลืองเข้มกับสีเลือดตัดกันวุ่นวาย แผ่ขยายไปรอบทิศ
แมลงที่ยังหลงเหลืออยู่ในหุบเขาเดิมทีกำลังเหาะเข้ามาหาหลิ่วหมิงเช่นกัน แต่เมื่อปะทะกับคลื่นแรงสั่นสะเทือนทั้งสองสาย ร่างกายก็สั่นสะท้านกลายเป็นเศษเนื้อกองหนึ่งในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา