“ขอบคุณนายท่านยิ่งนัก นับตั้งแต่เซียเอ๋อร์เข้าสู่ระดับแก่นแท้ก็แปรเปลี่ยนพลังหยินหยางได้เองอย่างอิสระ เปลี่ยนปราณแห่งฟ้าดินกลายเป็นปราณหยินยมโลกได้ ท่านดู!” เซียเอ๋อร์หัวเราะร่าเริง แล้วโบกมือราวกับจะอวดสมบัติ ปราณจิตวิญญาณแห่งฟ้าดินมารวมตัวกันก่อนจะวนเวียนรอบร่างของนาง
หน้าผากของหญิงสาวเปล่งแสงสีทองวูบหนึ่ง ปราณจิตวิญญาณฟ้าดินที่วนล้อมรอบร่างประหนึ่งถูกสีดำย้อม กลายเป็นสีดำหม่นหมองอย่างรวดเร็ว พลังหยินหนาวเสียดแทงกระดูกแผ่ออกมา เย็นยะเยือกยิ่งกว่าปราณยมโลก
“นี่…”
ยังไม่ทันที่หลิ่วหมิงจะอุทานตกตะลึงจบ ปราณหยินหนาวเสียดแทงกระดูกรอบร่างเซียเอ๋อร์ก็พลันเปลี่ยนกลายเป็นปราณจิตวิญญาณแห่งฟ้าดินสีขาวน้ำนมอีกครั้ง
หลิ่วหมิงมองจนตะลึงอึ้งค้าง!
เขาก็นับเป็นผู้ที่รอบรู้กว้างขวางผู้หนึ่ง ทว่าการเปลี่ยนคุณสมบัติของพลังปราณได้ตามใจเช่นนี้อย่างเซียเอ๋อร์ จวบจนวันนี้เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
ทว่าเมื่อเขาเห็นแสงสีทองที่ยังคงไม่เลือนหายบนใบหน้าของเซียเอ๋อร์ ในใจก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันที
อสูรประหลาดซือเฉินที่เซียเอ๋อร์กลืนกินลงไปครอบครองความสามารถเปลี่ยนพลังหยินหยาง ยามนี้หลังจากเข้าสู่ระดับแก่นแท้คงกระตุ้นความสามารถที่มีมาแต่กำเนิดบางอย่างของอสูรประหลาดซือเฉินจนได้พลังประหลาดเปลี่ยนพลังหยินหยางประการนี้มา
“ดี ในเมื่อเจ้ามีพลังเช่นนี้ก็คงไม่ต้องให้ค่ายกลทานตะวันวารีนี่ช่วยแล้วจริงๆ ถ้าเช่นนั้นก็อยู่ที่นี่ฝึกฝนให้ดี เร่งเลื่อนระดับในเร็ววันเถิด” หลิ่วหมิงพยักหน้าพลางเอ่ยสั่งเช่นนี้
ยิ่งเซียเอ๋อร์พลังแข็งแกร่งก็ยิ่งช่วยเหลือเขาได้มาก
“นายท่านโปรดวางใจ เซียเอ๋อร์เข้าใจ” หญิงสาวอาภรณ์สีดำผงกศีรษะรับติดกันหลายครั้ง
หลิ่วหมิงกำชับกำชาอีกสองสามประโยคก็กลับมายังห้องลับสำหรับฝึกฝนของตนอย่างรวดเร็ว เขาไม่เริ่มฝึกฝนทันทีแต่หยิบคัมภีร์หยกสีเทาเล่มหนึ่งออกมา
นี่คือสิ่งที่อินจิ่วหลิงมอบให้เขา ด้านในคือข้อมูลจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับวังเจดีย์และศิษย์ลับ
แม้ยามนี้เขากลายเป็นศิษย์ลับแล้ว ทว่าศิษย์ลับความจริงมีสิทธิประโยชน์อันใดบ้าง ต้องทำภารกิจชนิดใด เขากลับรู้น้อยยิ่งนัก
เรื่องนี้ก็ไม่แปลก เขามักไม่อยู่ที่นิกาย เรื่องบางอย่างในนิกายยอดบริสุทธิ์ เขายังรู้ไม่เท่าศิษย์สายนอกบางส่วนเสียด้วยซ้ำ คัมภีร์หยกเล่มนี้เป็นสิ่งที่ยามนี้เขาต้องการพอดี
หลิ่วหมิงหลับตาปล่อยจิตสัมผัสสายหนึ่งแทรกเข้าไปด้านใน
หลังจากนั้นเนิ่นนานเขาจึงลืมตาขึ้น ดวงตาฉายแววประหลาดใจจางๆ
นิกายยอดบริสุทธิ์ให้ความสำคัญแก่ศิษย์ลับและมอบสิทธิประโยชน์ให้มากยิ่งกว่าที่เขาคาดคิดไว้เสียอีก ส่วนภารกิจ ในคัมภีร์หยกกลับกล่าวไว้ไม่ละเอียด เขียนไว้เพียงประโยคเดียวว่าศิษย์ลับอยู่ในความรับผิดชอบของท่านประมุขเทียนเกอ
หลิ่วหมิงสงสัยในเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่จากนั้นก็ส่ายศีรษะทันที เรื่องเหล่านี้ชั่วครู่ชั่วยามยากจะทำความเข้าใจได้ชัดเจน ภายภาคหน้าหากมีโอกาสค่อยถามเอาจากฉิวหลงจื่อก็ได้
หลังจากเขาเก็บคัมภีร์หยกก็โบกมือ แสงสีน้ำเงินสว่างขึ้น ในมือมีปีกสีครามขนาดเล็กคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมา นั่นก็คือปีกจักจั่นแก้วที่ผู้อาวุโสเสวียนอวี๋มอบให้นั่นเอง
หลังจากหลิ่วหมิงได้สมบัติชิ้นนี้มาก็ยังไม่ทันได้ผูกพันธะ ศึกใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อาวุธลับรักษาชีวิตเช่นนี้ เขาต้องกำไว้ในมือให้มั่นโดยเร็วจึงจะดี
เขาโยนปีกให้ลอยอยู่กลางอากาศด้านหน้า จากนั้นอ้าปากพ่นเพลิงจิตวิญญาณสีดำสายหนึ่งออกมาแล้วใช้ปลายนิ้วนำเพลิงจิตวิญญาณวนล้อมรอบปีกจักจั่นแก้วเป็นชั้นๆ อย่างระมัดระวัง…
ระหว่างที่หลิ่วหมิงเก็บตัวอยู่ในถ้ำที่พัก วิหารหลักของนิกายยอดบริสุทธิ์ยามนี้กลับมีคนมากมายนั่งอยู่เต็มแน่น ผู้ควบคุมยอดเขาจากแทบทุกยอดเขาของนิกายสายในล้วนอยู่กันพร้อมหน้าที่นี่
บนตำแหน่งประธานเทียนเกอเจินเหรินก้มหน้ามองแผ่นค่ายกลสื่อสารชิ้นหนึ่งในมือด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ด้านข้างของเขามีผู้อาวุโสสูงสุดระดับดาราพยากรณ์สิบกว่าคนนั่งอยู่ แต่ผู้อาวุโสระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ทั้งสี่ไม่อยู่ที่นี่แม้สักคน
“ครั้งนี้นิกายได้รายละเอียดการรุกรานของเผ่าหนอนผีเสื้อมาจากการค้นวิญญาณแมลงระดับสูงจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ได้ส่งสารไปแจ้งผู้ควบคุมยอดเขาทุกท่านแล้ว” เทียนเกอเจินเหรินลูบแผ่นค่ายกลกลางฝ่ามือแล้วเอ่ยแช่มช้า
เมื่อคำนี้เอ่ยออกมา ผู้ควบคุมยอดเขาทั้งหลายต่างกระซิบกระซาบแผ่วเขาเหมือนกำลังสนทนาบางอย่างกันอยู่
“จากการสืบข่าวหลายทาง พวกเราตามหาสาเหตุที่เผ่าหนอนผีเสื้อรุกรานแผ่นดินจงเทียนครั้งนี้พบแล้ว สาเหตุเป็นเพราะเผ่าหนอนผีเสื้อมีราชินีหนอนผีเสื้อถือกำเนิดขึ้นมาตัวหนึ่ง…” เทียนเกอเจินเหรินเลื่อนสายตาไปมองผู้คนเบื้องล่าง จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวของราชินีหนอนผีเสื้ออย่างละเอียด
ผู้ควบคุมยอดเขาทั้งหลายในห้องโถงฟังจบแต่ละคนล้วนหน้าถอดสีอย่างห้ามไม่ได้ ผู้อาวุโสระดับดาราพยากรณ์จำนวนหนึ่งกลับไม่ได้ตกตะลึง เห็นชัดว่าล่วงรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย หากพลังของราชินีหนอนผีเสื้อตัวนั้นเหนือกว่าระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ พวกเราจะรับมือเช่นไร!” ผู้ควบคุมยอดเขาแห่งนิกายสายในผู้หนึ่งตกตะลึง ลุกขึ้นมาประสานมือเอ่ยถามเทียนเกอเจินเหริน
ผู้ควบคุมยอดเขาคนอื่นต่างก็พยักหน้าคล้อยตาม สายตามองมาทางเทียนเกอเจินเหรินอย่างพร้อมเพรียง
“เรื่องราชินีหนอนผีเสื้อ ผู้อาวุโสสูงสุดระดับเชี่ยวชายมหัศจรรย์ทั้งสี่ของนิกายเรากับผู้อาวุโสระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ของสามยอดนิกายที่เหลือหารือกันจนได้มาตรการรับมือขั้นต้นมาแล้ว แต่เรื่องนี้ยังมิอาจเปิดเผยได้” เทียนเกอเจินเหรินตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา