ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 135

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 135 เงาร่างปีศาจ
ตอนที่ 135 เงาร่างปีศาจ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เสียงดัง “ตู้ม!”

ลูกเปลวไฟระเบิดตัวในถ้ำลึกใต้ดินในชั่วพริบตา หลังจากที่เปลวไฟคุโชนขึ้นมา พื้นที่บริเวณนั้นก็สว่างขึ้นมา

ถ้ำแห่งนี้เป็นแค่เส้นทางคดเคี้ยววกวน ผนังรอบด้านล้วนเป็นดิน มันนำดิ่งลงไปสู่ถ้ำที่ลึกลงไป

ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรกระโดดลงไปในนั้น

หญิงร่างอรชรลังเลเล็กน้อยแล้วก็กระโดดตามลงไป

พอเท้าของชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเหยียบลงบนพื้นดิน เขาก็หยิบมุกสีขาวขนาดเท่าไข่ไก่ออกมาจากอก หลังจากที่โยนมันไปในอากาศมันก็กลายเป็นแสงสีขาวลอยอยู่เหนือศีรษะ มันส่องแสงจนทำให้มองเห็นพื้นที่บริเวณนั้นได้อย่างชัดเจน

ทางเดินมีลักษณะเป็นวงกลม เต็มไปด้วยกลิ่นความชื้นของดิน

หลังจากที่ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก็ถือดาบเดินไปตามทางเดินอย่างระมัดระวัง ม่านแสงสีฟ้าบนตัวที่มีในตอนแรกยังคงไม่หายไปไหน ประจักษ์ชัดว่าเขากลัวว่าจะมีอะไรมาจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

ทั้งสองเดินไปตามเส้นทางวกวนอยู่ไม่หยุด หลังจากที่เดินลึกลงไปสิบกว่าจั้ง ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรที่อยู่ด้านหน้าก็หยุดฝีเท้าในทันที เขาจ้องมองรอยเลือดที่เริ่มกลายเป็นสีดำเล็กน้อยบนผนังดินด้านหนึ่งด้วยตาที่เป็นประกาย

“นี่คือ…” หญิงร่างอรชรอดที่จะถามออกมาไม่ได้

ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่กลับคว้าเอาดินที่เปื้อนเลือดสีดำมาดมเบาๆ

“ไม่ผิด นี่คือสิ่งที่เจ้ามังกรแดงตนนั้นทิ้งไว้” ครู่ต่อมาชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรก็กล่าวออกมาด้วยความดีใจ

หญิงร่างอรชรพยักหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรมาก

พี่ชายของนางโยนดินในมือทิ้งลงไปด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินต่อไป

ผ่านไปไม่นาน ถ้ำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงปลายทางด้านหน้า

สองพี่น้องตระกูลหลานเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่ดูเยือกเย็น

แต่พอชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเดินเข้าไปในถ้ำและกวาดสายตามองขึ้นไปด้านบนแล้วก็ต้องตกใจจนขวัญกระเจิง

บนอากาศ มังกรแดงยาวสิบกว่าจั้งหมุนตัวโผล่หัวอันอัปลักษณ์ออกมา สายตาทั้งคู่ของมันจ้องมองทั้งสองด้วยความโหดเหี้ยม

“แย่แล้ว ถอยไปน้องพี่!”

ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรสะบัดแขนเสื้อโดยไม่ต้องคิด พอเขาแกว่งดาบในมือมันก็กลายเป็นดาบวาววับยาวหลายฉื่อ หลังจากที่เขาตะโกนเสียงต่ำออกมาก็คิดที่ทำการจะโจมตีมังกรแดงในทันที

“ช้าก่อน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่สิ่งที่ตายไปแล้ว!” ชั่วพริบตาที่หญิงร่างอรชรมองเห็นมังกรแดงก็มีสีหน้าซีดขาวเช่นกัน แต่หลังจากที่จ้องมองดูดีๆ ก็มองออกถึงความผิดปกติบางอย่าง

“ตายแล้ว! ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรได้ยินก็ตะลึงงัน ตอนนี้เขาถึงค้นพบว่ามังกรแดงในอากาศไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ดวงตากลมๆ ของมันก็ไม่มีการกะพริบเลย

“หรือว่ามังกรตนนี้จะบาดแผลกำเริบจนเสียชีวิต! ข้าจะทดสอบดูสักหน่อย!” ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรรู้สึกตกใจระคนดีใจในทีเดียว หลังจากที่ลังเลเล็กน้อยก็กวัดแกว่งดาบในมือ และแสงเย็นสะท้านก็ม้วนตัวโจมตีเข้าใส่มังกร

เสียงดัง “เพล้ง!”

แสงเย็นสะท้านดีดตัวกลับมาจากร่างของมังกร มังกรตนนั้นกลับได้รับการกระทบกระเทือนจนลอยออกไปไกลหลายจั้ง

“ไม่ถูกต้อง ตัวเบาเช่นนี้ราวกับว่าไม่ใช่ศพของมังกรแดง!” หญิงร่างอรชรเห็นฉากนี้ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

ชายหนุ่มก็ค้นพบความผิดปกติเช่นกัน เขาจึงเหาะขึ้นไปยังด้านหน้าของมังกรแดงแล้วตรวจสอบดูอย่างละเอียด จากนั้นจึงได้หลุดปากกล่าวออกมา

อันนี้เป็นแค่คราบที่ลอกออกมาเท่านั้น ตัวมังกรแดงที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่นี่!”

หญิงร่างอรชรได้ยินเช่นนี้ก็ใจกระตุกขึ้นมา นางรีบเหาะขึ้นไปในทันที พอได้สังเกตด้านบนของมังกรแดงอย่างละเอียดแล้ว ก็ค้นพบว่าบนหลังของมันมีรอยแตกยาวๆ ปรากฏอยู่

หญิงร่างอรชรใช้เท้าเรียวเล็กแตะมังกรแดงเบาๆ ทำให้มันแกว่งไหวไปมาก็พบว่ามันมีน้ำหนักเบามาก และมันเป็นแค่คราบของมังกรแดงเท่านั้น ซึ่งไม่มีเลือดเนื้ออยู่ข้างในเลย

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? มังกรแดงที่แท้จริงหายไปไหนแล้ว ทำไมข้าถึงไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้ในดินแดนลึกลับแห่งนี้” ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรจ้องมองคราบว่างเปล่าของมังกรแดงด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้เป็นอย่างมาก

“มังกรลอกคราบได้นั้นมีได้แค่สองกรณีเท่านั้น กรณีแรกคือฝึกฝนจนร่างขยายขนาดขึ้นจนต้องลอกคราบออกไปหนึ่งชั้น จะได้รองรับร่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ อีกกรณีหนึ่งก็คือพลังของมันเข้าถึง ‘กลับคืนแก่นแท้’ ตามในตำนาน ซึ่งสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ก็มีน้อยมากที่เข้าถึงระดับนี้ได้ ได้ยินว่ามังกรทั้งหมดที่มีพรสวรรค์พลังอภินิหารเช่นนี้ จะทำเช่นนี้ในตอนที่พวกมันใกล้จะตายซึ่งต้องแลกกับระดับการฝึกฝนที่ลดลง มังกรที่ลอกคราบเดิมออกไปจะจัดกลุ่มเลือดเนื้อขึ้นมาใหม่ และจะได้รับโอกาสฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง” หญิงร่างอรชรค่อยๆ กล่าวออกมา

“ด้วยสภาพที่มังกรบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่กรณีแรกแล้ว เช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าอสูรมังกรตนนี้เป็นสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ที่พบเจอได้น้อยมาก ถึงได้มีพลังอภินิหารลอกคราบกลับคืนแก่นแท้เช่นนี้ หรือว่าตอนนี้จะฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บแล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้มันอยู่ในระดับการฝึกฝนใดแล้ว ทำไมข้าถึงไม่สามารถรับรู้ถึงสถานที่ที่มันอยู่ได้!” หลังจากที่สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปมา ก็สูดลมหายเข้าด้วยความเสียวสะท้าน และกล่าวออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา