เหยียนเจวี๋ยหยิบโล่เล็กสีทองออกจากตลับ และค่อยๆ ยกขึ้นมาด้านหน้าพร้อมกับกล่าวออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
พอได้ยินเหยียนเจวี๋ยพูดถึงอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่มีสามสิบเอ็ดชั้นจำกัด ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา หลิ่วหมิงที่เหลือบมองด้วยสายตาเยือกเย็น ก็รู้สึกใจเต้นขึ้นมาไม่น้อย
อย่างที่รู้ว่าอาวุธจิตวิญญาณที่แฝงด้วยยี่สิบแปดชั้นจำกัด ก็พอจะเรียกว่าเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดได้แล้ว อาวุธจิตวิญญาณที่แฝงด้วยสามสิบเอ็ดชั้นจำกัดนี้ ย่อมเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดขั้นกลางแล้ว
แม้ว่ากระบี่จันทราทองคำในมือเล่มนั้น ก็เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดเช่นกัน แต่ก็มีแค่ยี่สิบแปดชั้นจำกัดเท่านั้น และพออาวุธจิตวิญญาณมีชั้นจำกัดเกินยี่สิบแปดชั้นขึ้นไป แต่ละชั้นของมันล้วนสามารถทำให้อานุภาพของอาวุธจิตวิญญาณแตกต่างจากก่อนหน้านั้นมาก
อาวุธจิตวิญญาณที่มีชั้นจำกัดมากเช่นนี้ หลิ่วหมิงเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ขณะนั้นเขาจ้องมองโล่เล็กโดยไม่กระพริบตา และคิดวกไปมาอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่รู้สึกตกใจเหมือนกับหลิ่วหมิงย่อมมีไม่น้อย
เพราะก่อนที่เหยียนเจวี๋ยจะหยิบโล่ชิ้นนี้ออกมา ทุกคนต่างคิดว่าอาวุธระดับสุดยอดในงานประมูลนี้ คงเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับกลางขั้นต่ำ ที่แค่ใช้วัสดุหายากในการหลอมเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงอานุภาพเพิ่มขึ้นทวีเล็กน้อยท่านั้น
ตอนนี้กลับคิดไม่ถึงว่า อาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดขั้นกลางนี้ จะทำให้ผู้คนบนเกาะตะพาบน้ำฮือฮาขึ้นมา
ต่อให้จะเป็นผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนพลังเกี่ยวกับธาตุน้ำ แต่หากมีอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดชิ้นนี้ ก็พอที่จะทำให้พลังของตนเองเพิ่มทวีขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนเหยียนเจวี๋ยจะรู้สึกพอใจที่เห็นท่าทีอันตกตะลึงเช่นนี้ หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งแล้ว ก็ฟั่นหนวดกล่าวต่อ
“อาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอด ‘โล่คลื่นทะเล’ เริ่มประมูลที่ราคาหนึ่งล้านหินจิตวิญญาณ เสนอราคาได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น เริ่มประมูลได้!”
พอเหยียนเจวี๋ยเปล่งคำพูดนี้ออกไป ก็มีเสียงสูดหายใจเข้าด้วยความเยือกเย็น คนจำนวนมากไม่ได้รู้สึกตกใจกับราคานี้
แม้จะบอกว่าอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่ปรากฏในโลกภายนอก ต่างก็อยู่ในงานประมูล และราคาประมูลในตอนท้าย ก็อยู่ที่หนึ่งล้านกว่าหินจิตวิญญาณ แต่ในเมื่อโล่คลื่นทะเลเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดขั้นกลาง ดังนั้นราคาเริ่มต้นที่หนึ่งล้านหินจิตวิญญาณ ก็ไม่นับว่าเป็นราคาที่สูงมากนัก
ผู้คนภายในถ้ำใต้ดินเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่ารอให้คนอื่นเอ่ยปากเสนอราคาขึ้นมาก่อน
เหยียนเจวี๋ยเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด เขาเพียงแค่มองดูผู้คนที่อยู่ด้านล่างอย่างเงียบๆ โดยไม่เปล่งอะไรออกมา
“หนึ่งล้านหินจิตวิญญาณ ในเมื่อสหายทุกท่านเกรงใจกันเช่นนี้ ข้าจะประเดิมก่อนก็แล้วกัน” หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง น้ำเสียงเยือกเย็นของชายผู้หนึ่งก็ดังมาจากมุมห้อง ร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทาควันบุหรี่
“หนึ่งล้านหนึ่งแสนหินจิตวิญญาณ” พอคนแรกเสนอราคาเสร็จ ก็มีคนเสนอราคาตามมา
“หนึ่งล้านหนึ่งแสนห้าหมื่น”
“หนึ่งล้านสองแสน”
ตั้งแต่มีคนเสนอราคาของโล่คลื่นทะเลออกมา ราคาของมันก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์ไม่พอแต่คิดอยากจะลองประมูลดู มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวพวกเขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป
แม้หลิ่วหมิงจะยังนั่งอยู่ในนั้นด้วยสีหน้าปกติ แต่ก็แอบรู้สึกตกใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าราคาของอาวุธจิตวิญญาณชิ้นนี้ จะดึงดูดผู้ที่ทีกำลังทรัพย์เช่นนี้ได้
ดูท่าต่างก็คงมาจากตระกูลใหญ่หรือกลุ่มอิทธิพลต่างๆ
และที่เขารู้สึกแปลกใจก็คือ หญิงเผ่าเจ้าสมุทรกับคนใส่หมวกคลุมสีเหลืองสามคน ที่แย่งประมูลโซ่ตรวนสะกดวิญญาณกับเขาในก่อนหน้านั้น กลับรักษาท่าทีสงบเอาไว้ได้
เมื่อราคาประมูลทะลุไปถึงหนึ่งล้านห้าแสนหินจิตวิญญาณ คนเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะนั่งไม่ติดอีกต่อไป และผู้ที่เสนอราคาอยู่ก็เหลือไม่กี่คน
“หนึ่งล้านหกแสนหินจิตวิญญาณ ข้าเป็นตัวแทนของราชวงศ์ชังไห่ ที่มารับอาวุธจิตวิญญาณชิ้นนี้ หวังว่าทุกท่านจะยืดหยุ่นให้เล็กน้อย” เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงแก่หง่อมดังมาจากข้างกายหญิงเผ่าเจ้าสมุทร
ทันใดนั้น พลังกดดันที่มีเฉพาะผู้ฝึกฝนระดับผลึก ก็แผ่ออกมาจากร่างของเขา ทำให้ผู้ฝึกฝนที่มีดีระดับไม่สูง เริ่มรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา
พอคำว่า ‘ราชวงศ์ชังไห่’ ออกมาจากปาก ประกอบกับพลังกดดันของพลังจิตที่ขาดๆ หายๆ ทำให้ผู้ที่ยังเสนอราคาอยู่เริ่มหยุดการเสนอราคาลง
“หนึ่งล้านหกแสนห้าหมื่น ฮึ! ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นสหายลี่คุนจากเผ่าเกล็ดเงินนั่นเอง ราชวงศ์ชังไห่อะไรกัน ต่อหน้าราชาปีศาจสมุทรในเขตทะเลชังไห่ ใครก็ไม่กล้าเรียกตนเองว่าราชวงศ์ได้อีก” ชายผู้เสนอราคาในก่อนหน้านั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง น้ำเสียงดูเยือกเย็นและแฝงด้วยการยั่วเย้า
“เผ่าเกล็ดเงิน! ลี่คุน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา