ตอนที่เขาเหาะออกไปนอกม่านแสงสีขาวนวลนั้น สิ่งที่ตาของเขามองเห็นคือสถานที่มืดครึ้มเปล่าเปลี่ยวมาก แผ่นฟ้าทั้งผืนถูกแผ่คลุมด้วยเมฆดำอย่างแน่นหนามองไม่เห็นแสงอาทิตย์แม้แต่น้อย ทำให้รู้สึกอึดอัดใจเป็นพิเศษ
หลิ่วหมิงกระตุ้นเคล็ดวิชากระดูกดำเล็กน้อย ความรู้สึกหนาวเย็นหลั่งพรั่งพรูภายในร่าง ถึงแม้จะทำให้ร่างกายเขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก แต่กลับรู้สึกว่าพลังเวทตรงทะเลจิตวิญญาณกลับดูคล้ายจะวิ่งเต้นภายในพริบตา
หลิ่วหมิงแอบถอนหายใจ
แดนปีศาจปรโลกนี้เป็นอย่างที่ผู้คนกล่าวไว้จริงๆ มันมีผลดีต่อการฝึกฝนวิชาจิตวิญญาณปีศาจและวิชาที่ใช้พลังหยินไม่น้อย แต่ร่างกายกลับทนต่อพลังปราณหยินที่ต้านกลับมาไม่ได้
เขาได้แต่ละความคิดที่จะอาศัยปราณหยินในการฝึกฝนพลังเวท
พอเหาะไปไกลกว่าสามลี้ หลิ่วหมิวก็ยังไม่พบปีศาจใดๆ และสุดท้ายก็มาถึงแม่น้ำมืดที่ผู้เฒ่าปีศาจได้บอกไว้
แต่พอเขาเหาะเข้าไปใกล้หน่อยหนึ่งก็หัวเราะขมขื่นอย่างอดไม่ได้
แม่น้ำมืดที่ปรากฏตรงหน้า ถ้าจะบอกว่าเป็นแม่น้ำไม่สู้บอกว่าเป็นลำธารเล็กๆ น่าจะเหมาะสมกว่า
แม่น้ำมืดกว้างไม่เกินจั้งกว่าๆ น้ำในแม่น้ำก็ไม่ได้ใสสะอาด แต่กลับเป็นสีเหลืองอ่อนที่ขุ่นเป็นพิเศษ และเหนือผิวน้ำยังมีหมอกสีขาวปกคลุมวนเวียนอยู่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดให้กับผู้พบเห็น
หลิ่วหมิงบังคับเมฆให้ลอยลงบนหินสีดำก้อนหนึ่งตรงริมแม่น้ำ เขายังไม่ทันได้คิดว่าจะหามัจฉาหน้าปีศาจได้อย่างไร ก็มีเสียง “ซู่!” ดังขึ้น สิ่งมีชีวิตสีขาวดำชนิดหนึ่งกระโดดขึ้นมาจากน้ำที่อยู่ด้านหน้า และกระโจนเข้าหาเขา
หลิ่วหมิงรู้สึกตกตะลึง รีบสะบัดแขนเสื้อ โซ่สีดำเส้นหนึ่งพุ่งออกไป หลังจากตวัดกวัดแกว่งอย่างเลือนลางแล้วก็หวดเข้าใส่เจ้าสิ่งที่พุ่งเข้าอย่างรุนแรง
และเจ้าสิ่งมีชีวิตสีขาวดำนี้ส่งเสียงร้องประหลาดออกมา และได้แต่นอนเต้นตุบๆ อยู่บนพื้นไม่หยุด
ตอนนี้หลิ่วหมิงถึงได้มีเวลามองไปยังเจ้าสิ่งมีชีวิตสีขาวดำนั้น
มันเป็นสิ่งที่คล้ายปลาและอสูรดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ยาวประมาณครึ่งฉื่อ ส่วนท้ายของมันเหมือนกับปลาชนิดหนึ่ง แต่ส่วนหน้าเป็นหัวปลาปีศาจขนาดเล็กกว่าตัวหลายเท่า และมีขนปุกปุย ตรงท้องมันยังมีกรงเล็บสีดำเล็กๆ สองข้าง
ตอนนี้เจ้าปลาแปลกประหลาดอ้าปากพะงาบๆ อยู่ไม่หยุด ทำให้มองเห็นฟันเล็กละเอียดแหลมคมสองแถว แสดงให้เห็นว่ามันดุร้ายเป็นอย่างมาก
“ดูเหมือนเจ้าสิ่งนี้ก็คือมัจฉาหน้าปีศาจ” หลังจากหลิ่วหมิงตื่นตะลึงครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มออกมา
โซ่ตรวนวิญญาณหวดเข้าใส่ตรงหัวปีศาจของเจ้าปลาประหลาดอย่างรุนแรงอีกครั้งด้วยความแม่นยำ
มัจฉาหน้าปีศาจสส่งเสียงร้องประหลาดแล้วก็สลบไป
หลิ่วหมิงหยิบข้องปลาออกมาจากอก ใช้โซ่ตรวนจิตวิญญาณม้วนพันมัจฉาหน้าปีศาจมาใส่ลงไปในข้อง
ต่อมาเขาถึงเดินลงจากก้อนหินไปยังด้านหน้าของแม่น้ำมืดอย่างระมัดระวัง
ครั้งนี้ไม่มีอะไรโดดขึ้นมาจากน้ำแล้ว
หางคิ้วของหลิ่วหมิงยกขึ้น แล้วตวัดโซ่ตรวนวิญญาณออกไปอีกครั้ง แตะปลายโซ่ลงบนผิวน้ำด้านหน้าแล้วชักกลับอย่างรวดเร็ว
ปลายโซ่ตรวนวิญญาณถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งสีขาว
หลิ่วหมิงสูดลมหายใจด้วยความตกตะลึง
แม่น้ำมืดนี้เย็นประหลาดอย่างหาที่เปรียบมิได้
ด้วยเหตุนี้ หลิ่วหมิงย่อมไม่กล้าเข้าใกล้แม่น้ำมืดไปกว่านี้แล้ว เขาเว้นระยะห่างจากแม่น้ำเท่าเดิมแล้วค่อยๆ เดินไปยังทิศทางที่สวนกระแสน้ำไหล
ผลคือผ่านไปสักระยะก็จะมีมัจฉาหน้าปีศาจกระโดดออกมาจากแม่น้ำ ตัวใหญ่สุดยาวหนึ่งฉื่อตัวเล็กสุดยาวไม่กี่ชุ่น
หลิ่วหมิงใช้โซ่ตรวนวิญญาณหวดใส่มันจนสลบโดยไม่ละเว้นแม้แต่ตัวเดียวแล้วใส่ลงไปในข้องปลา ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็จับมัจฉาหน้าปีศาจได้สิบเจ็ดถึงสิบแปดตัวแล้ว และมันก็ถูกใส่ลงไปในข้องปลาจนเต็ม
เขาขี่เมฆเหาะกลับไปอย่างไม่ลังเล
……
“ไม่เลว สิ่งเหล่านี้คือมัจฉาหน้าปีศาจที่ข้าต้องการ เข็มทิศหยินนี้เป็นของเจ้าแล้ว” พอเฒ่าปีศาจเห็นหลิ่วหมิงเหาะลงมาพร้อมกับมัจฉาหน้าปีศาจเต็มข้องปลาก็กล่าวด้วยความดีใจ และโยนเข็มทิศหยินในมือออกไปให้หลิ่วหมิง
ถึงแม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่พอรับเข็มทิศหยินมาแล้วก็โยนข้องปลาในมือให้กับฝ่ายตรงข้าม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา