ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 575

สรุปบท ตอนที่ 575 การสู้รบอันดุเดือด: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

ตอนที่ 575 การสู้รบอันดุเดือด – ตอนที่ต้องอ่านของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

ตอนนี้ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 575 การสู้รบอันดุเดือด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 575 การสู้รบอันดุเดือด
ตอนที่ 575 การสู้รบอันดุเดือด
โดย
Ink Stone_Fantasy
หนึ่งเดือนต่อมา

“ตู้มต้าม!”

ยอดเขาสีดำลูกหนึ่งระเบิดออกมาในฉับพลัน ชายหนุ่มที่มีลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงปกคลุมเต็มตัวพุ่งออกมาท่ามกลางเศษหินที่กระเด็นไปทั่วทิศ และด้านหลังของเขาก็มีมังกรสีฟ้าที่ยาวสิบกว่าจั้งตามติดไม่ปล่อย

ซึ่งก็คือหลิ่วหมิงหลังจากแปลงร่างเป็นปีศาจกับราชาปีศาจสมุทรที่กลายร่างเป็นมังกรนั่นเอง

หลังผ่านการฝึกฝนมาเดือนกว่าๆ หลิ่วหมิงก็สามารถควบคุมร่างแปลงปีศาจได้ดั่งใจแล้ว เขากระตุ้นไอปีศาจทำการโจมตี และมักจะกดดันจนราชาปีศาจสมุทรต้องใช้ร่างมังกรในการต่อสู้

ที่น่าเสียดายก็คือแม้หลังจากแปลงร่างเป็นปีศาจแล้วจะมีพลังเพิ่มขึ้นทวี อานุภาพของไอปีศาจก็เหนือกว่าการโจมตีปกติในก่อนหน้านั้นมาก แต่พลังในการควบคุมไอปีศาจของเขายังคงมีสิ่งที่ขาดตกบกพร่องอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงพ่ายแพ้แก่ราชาปีศาจสมุทรมาโดยตลอด

ทันใดนั้น มังกรสีฟ้าตรงด้านหลังก็สะบัดหางทันที กรงเล็บข้างหนึ่งยื่นไปด้านหน้า “ฟู่!” พริบตาเดียวก็มาปรากฏอยู่ห่างจากด้านหลังหลิ่วหมิงไม่กี่จั้ง

ขณะนั้นเอง มีคลื่นสั่นสะเทือนตรงหน้ากรงเล็บสีฟ้าอย่างรุนแรง เงากรงเล็บยักษ์สีดำพุ่งเข้ามาถึง

“เพล้ง!”

กรงเล็บยักษ์สีดำปะทะกับกรงเล็บยักษ์สีฟ้า ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็เปล่งประกายออกมา

ครู่ต่อมา ภายใต้การเปล่งประกายของแสงสีดำมันก็กดแสงสีฟ้าได้ภายในพริบตา หลังจากขยี้จนแสงสีฟ้าแตกกระจายแล้ว มังกรสีฟ้าตรงด้านหลังก็กระเด็นออกไป

“เพล้ง!”

ภายใต้สถานการณ์ที่มังกรสีฟ้าไม่ทันได้ระวัง จึงถูกกรงเล็บยักษ์สีดำโจมตีอย่างรุนแรง จนมีบาดแผลลึกถึงกระดูกปรากฏออกมา

นี่คือผลลัพธ์ที่หลิ่วหมิงฝึกฝนในระช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตอนนี้เขาสามารถควบคุมไอปีศาจรอบด้านให้เปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ ในการโจมตีได้เหมือนกับการควบคุมปราณกระบี่แล้ว แม้ว่าจะมีอานุภาพมากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็โจมตีจนราชาปีศาจสมุทรได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง

มังกรสีฟ้าคำรามด้วยความเจ็บปวด พริบตานั้นมันก็อ้าปากพ่นลำแสงสีฟ้าขนาดเท่าปากถ้วยออกมา ขณะเดียวกันก็สะบัดหางมังกรจนพายุบ้าระห่ำม้วนตัวเป็นกำแพงวายุโอบล้อมอากาศรอบๆ ตัวหลิ่วหมิงไว้ ทำให้หลิ่วหมิงไม่อาจหลบหลีกได้ชั่วขณะหนึ่ง

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงบนตัวหมุนวนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไอปีศาจรอบตัวก็รวมตัวขึ้นมาอีกครั้ง

เขาหันหน้ากลับมาและสะบัดแขนในทันที ไอปีศาจกลุ่มหนึ่งพุ่งออกจากมือไปรับมือกับลำแสงสีฟ้า

“ฟิ้ว!” ลำแสงสีฟ้าจมเข้าไปในไอปีศาจสีดำ แต่กลับไม่อาจทะลุไปได้ ทั้งสองต่างก็คุมเชิงกันอยู่

“ตู้ม!”

ไอปีศาจสีดำต้านทานอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็แตกสลายไป หลิ่วหมิงกลับมาปรากฏตัวข้างมังกรสีฟ้าที่กลายร่างมาจากราชาปีศาจสมุทรอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ลำแสงสีฟ้าเพิ่งจะทะลุไอปีศาจสีดำไปได้ แต่กลับคว้าน้ำเหลว

หลิ่วหมิงโบกสะบัดแขนทั้งสองอยู่ไม่หยุด เงากรงเล็บสีดำกว่าอันพุ่งยิงออกไปอย่างหนาแน่น

ภายใต้ความตกใจ มังกรสีฟ้าเพียงแค่เอียงตัวเล็กน้อยพร้อมกับคว้ากรงเล็บทั้งสองไปกลางอากาศ กรงเล็บแสงสีฟ้าสองข้างก็เปล่งประกายออกมา และพุ่งไปทางหลิ่วหมิงเพื่อป้องกันการโจมตี

มีเสียงทุ้มต่ำดังเข้ามา “ชื่อๆ!”

แม้ว่ามังกรสีฟ้าจะหลบเงากรงเล็บปีศาจส่วนใหญ่ไปได้ แต่ยังคงถูกโจมตีบนตัวไม่น้อย ความเจ็บปวดประเดประดังเข้ามา เกล็ดจำนวนมากถูกคว้าออกไป แสงสีโลหิตเปล่งประกายบนพื้นผิวลางๆ

ภายใต้การพร่ามัวของร่างหลิ่วหมิง ก็สามารถหลบกรงเล็บแสงสีฟ้าทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว

ต่อมา ร่างของหลิ่วหมิงมาปรากฏอยู่ห่างจากด้านหลังของมังกรสีฟ้าไปหลายจั้ง หลังจากลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงบนแขนทั้งสองเปล่งประกาย ไอปีศาจที่พวยพุ่งอยู่บนแขนก็มุดเข้าไป นิ้วทั้งห้าขยายใหญ่หลายเท่า และแสงสีม่วงที่ยาวหลายชุ่นก็ถูกปล่อยออกจากปลายนิ้ว

พอแสงสีม่วงเปล่งประกาย แสงสีม่วงที่ยาวจั้งกว่าๆ ก็พุ่งยิงออกไป

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดังมาจากขอบฟ้า

มังกรสีฟ้าไม่สนใจแสงสีม่วง แต่กลับหมุนตัวล้อมร่างหลิ่วหมิงไว้ และพ่นอักขระสีทองใส่ร่างของหลิ่วหมิงด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ

“แย่แล้ว!”

หลิ่วหมิงเกือบจะลืมไปว่าราชาปีศาจสมุทรยังมีกระบวนท่านี้อยู่ ทันใดนั้นเขาขยับตัวเพื่อจะหลบ แต่กลับสายไปเสียแล้ว

มีเสียงอู้อี้ดังเข้ามา ภายใต้การเปล่งประกายของอักขระสีทอง มันก็ระเบิดตัวตรงหน้าหลิ่วหมิง

ร่างหลิ่วหมิงสั่นสะเทือน จากนั้นก็ร่วงออกมาจากกลุ่มแสงสีทอง และกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง

มังกรสีฟ้าเห็นเช่นนี้ก็อ้าปากพ่นอักขระสีทองออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากหยุดนิ่งกลางอากาศ มันก็กลายเป็นสายฟ้าสีเงินที่มีขนาดเท่าปากถ้วย

หลิ่วหมิงลืมตาทั้งคู่และส่งเสียงคำรามออกมา

ลำแสงสีดำพุ่งออกจากปาก และพุ่งใส่มังกรสีฟ้าโดยตรง

ราชาปีศาจสมุทรเห็นเช่นนี้ก็กระตุ้นสายฟ้าทันที แสงสีเงินเปล่งประกายไปฟันใส่ลำแสงสีดำ แต่กลับจมหายไปในนั้นอย่างไร้สุ้มเสียง และไม่มีการตอบสนองใดๆ อีก

มังกรสีฟ้าส่งเสียงโหยหวนออกมาทันที!

จากนั้นก็อ้าปากพ่นลำแสงสีฟ้าใส่เงาดำด้วยแววตาเดือดดาล

เงาดำทำเสียงฮึดฮัด ลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงบนตัวเปล่งประกายอีกครั้ง “ฟู่!” เขาสามารถหลบลำแสงสีฟ้าได้อย่างง่ายดาย และมาปรากฏตัวอยู่ห่างจากด้านหลังมังกรไปหลายจั้ง

จากนั้นแสงสีม่วงบนนิ้วมือทั้งสองข้าง ก็โจมตีใส่ร่างของมังกรสีฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

ความเจ็บปวดประดังเข้ามาเป็นระยะๆ มังกรสีฟ้าคำรามเสียงออกมา หางมังกรที่มีเกล็ดปกคลุมได้กลายเป็นเงาสีฟ้าก่อนฟาดออกไป

แต่ครู่ต่อมา เงาร่างสีดำก็เคลื่อนไหวมาปรากฏอยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้ง ไอหมอกสีดำสลายไปเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าพร่ามัว ซึ่งก็คือหลิ่วหมิงที่กลายร่างเป็นปีศาจนั่นเอง

ส่วนมังกรสีฟ้าย่อมเป็นราชาปีศาจสมุทรแล้ว

มังกรตัวนี้เคลื่อนไหวแค่ทีเดียว ก็มาปรากฏตัวเหนือเปลวเพลิงสีเงินที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งก็คือเปลวเพลิงผู่ถัวที่หลงเหลืออยู่

เปลวเพลิงผู่ถัวนี้เป็นสิ่งแปลกประหลาดของศาสนาพุทธ ค่อนข้างมีผลต่อการควบคุมหลิ่วหมิงที่กลายร่างเป็นปีศาจมาก ก่อนหน้าเขาถูกราชาปีศาจสมุทรบีบมาถึงที่นี่อยู่หลายครั้ง แต่กลับถูกราชาปีศาจสมุทรใช้พลังของเปลวไฟนี้กดดันจนเขาต้องถอยออกไป

ตอนนี้มาเผชิญกับเหตุการณ์เช่นเดียวกันอีก หลิ่วหมิงกลับเผยสีหน้าดีใจออกมา

ในเมื่อราชาปีศาจสมุทรเลือกที่จะหนีมาบริเวณเปลวเพลิงผู่ถัว คงจะไม่หนีเข้าไปในจุดตัดมิติที่อยู่ด้านบนแล้ว นับว่าเปิดโอกาสอันดีให้เขาสังหาร

พอหลิ่วหมิงกระตุ้นเคล็ดวิชา ไอปีศาจที่พวยพุ่งรอบตัวก็ถูกเก็บเข้าไปเล็กน้อย และปกป้องร่างของเขาไว้

นี่ก็เป็นวิธีการหนึ่งในการควบคุมไอปีศาจที่เขาเพิ่งจะเรียนรู้มาเมื่อไม่นานมานี้ แต่ว่าเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงสามารถเก็บและปล่อยไอปีศาจออกมาได้ไม่มาก ยังไม่อาจแสดงอานุภาพที่แท้จริงของมันออกมาได้

แต่ว่าความก้าวหน้าในครั้งนี้ ก็ทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อยเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเปลวเพลิงผู่ถัว!

เพราะมีไอปีศาจคุ้มกันอยู่ด้านนอก ภายใต้การหักล้างของทั้งสอง ร่างแปลงปีศาจก็สามารถสัมผัสกับเปลวไฟสีเงินได้โดยตรง และลดการปะทะอย่างรุนแรงได้

หลังจากเขาทำทุกอย่างนี้เสร็จ ก็หยิบมุกพลังวารีสองเม็ดออกจากแขนเสื้ออีกครั้ง หลังจากนำมันมาถูเข้าด้วยกันแล้ว ก็กลายเป็นม่านวารีสีฟ้าปกคลุมร่างทั้งหมดไว้ด้านใน

ภายใต้การผสมปนเประหว่างม่านวารีกับไอปีศาจมันก็กลายเป็นสีฟ้าดำอย่างรวดเร็ว

………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา