ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 691

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 691 โลหิตปีศาจสวรรค์
ตอนที่ 691 โลหิตปีศาจสวรรค์
โดย
Ink Stone_Fantasy
ปีศาจแรดไร้หัวยังคงยืนทื่ออยู่ด้านหลังหลิ่วหมิง แต่บริเวณหน้าอกกลับมีรูเลือดขนาดใหญ่ หัวใจด้านในว่างเปล่า คิดไม่ถึงว่าจะถูกกำปั้นชกจนแตกกระจุยไปแล้ว

หวงอิ๋งกับปีศาจยักษ์เห็นฉากเช่นนี้ ต่างก็จ้องมองจนตาค้างเล็กน้อย

ความแข็งแกร่งของกายเนื้อปีศาจแรดนั้น ทั้งสองต่างก็รับรู้ดี แม้แต่วิหคยักษ์ที่กลายร่างมาจากผ้าเช็ดหน้าของหวงอิ๋งผืนนั้น ยังไม่อาจทำลายมันได้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้กลับถูกกำปั้นเจาะทะลุจุดสำคัญไป ถ้าอย่างนั้นเจ้าของกำปั้นผู้นี้จะต้องมีกายเนื้อแข็งแกร่งระดับใด ถึงจะทำเรื่องเช่นนี้ได้

พอหลิ่วหมิงออกมาจากข้างตัวปีศาจแรด ร่างไร้หัวของมันก็ร่วงลงพื้นลงอย่างรุนแรง

พอเขาขยับแขนอีกที หัวขนาดใหญ่ในมือก็ถูกโยนออกไปอย่างไม่ใส่ใจ และยังมีลูกเปลวไฟสองกลุ่มพุ่งออกจากแขนเสื้อ พริบตาเดียว ศพปีศาจแรดก็กลายเป็นขี้เถ้า

หวงอิ๋งเห็นเช่นนี้ดวงตาของนางก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย แต่ก็เดินเข้าไปกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพลังของพี่หลิ่วจะยอดเยี่ยมเช่นนี้ อาศัยแค่พลังของตัวเอง ก็สังหารศัตรูแข็งแกร่งผู้นี้ได้แล้ว ดูท่าหากมีคนหนีออกไปจากแดนลึกลับได้จริงๆ ก็คงมีแต่พี่หลิ่วเท่านั้นที่สามารถทำได้”

“ในสายตาของปีศาจสายฟ้า ผู้มีพลังต่ำกว่าระดับดาราพยากรณ์อย่างพวกเราจะมีความแตกต่างอันใด แต่ข้ากลับได้ของน่าสนใจจากตัวของปีศาจตัวนี้ คิดว่าสหายคงจะไขข้อข้องใจให้ข้าได้ว่ามันคือสิ่งของอันใด?” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างราบเรียบ พอพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง ป้ายอาญาสิทธิ์สีเทาสองอันที่มีลักษณะเหมือนกันไม่มีผิดก็ปรากฏอยู่ในมือ จากนั้นเขาก็จ้องมองหมาป่ายักษ์สีเขียวที่อยู่บริเวณนั้นด้วยสีหน้าสงบ

ป้ายอาญาสิทธิ์หนึ่งในนั้น เขาเพิ่งค้นมาจากกำไลเก็บของบนตัวปีศาจแรด

และในขณะนี้ หลิ่วหมิงดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ความจริงแล้วเขาใช้พลังในคุกมืดติดต่อกัน และก่อนปีศาจแรดจะตาย เขาก็ถูกมันโจมตีบริเวณหน้าอกหนึ่งทีเหมือนกัน หากไม่ใช่ว่ามีโล่เก้ากะโหลกกับเกราะอสูรคอยต้านทานไว้ เกรงว่าคงเกิดฉากที่บอบช้ำทั้งสองฝ่ายแล้ว

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่างกายภายในของเขาก็บอบช้ำไม่น้อย ดีที่ว่ากายเนื้อแข็งแกร่ง และฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ภายนอกจึงดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ดังนั้นในสายตาของหวงอิ๋งกับหมาป่ายักษ์ เขาจึงดูลึกล้ำจนยากจะคาดเดาได้

ขณะนี้ ไม่ได้มีแต่หวงอิ๋งที่คิดว่าหลิ่วหมิงเป็นผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้เท่านั้น แม้แต่หมาป่ายักษ์ก็ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย

มีแต่ระดับแก่นแท้ขั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะมีพลังน่ากลัวในการบดขยี้ผู้ฝึกฝนระดับผลึกขั้นต้นได้อย่างง่ายดาย

ภายใต้สถานการณ์ที่หมาป่ายักษ์สีเขียวรู้สึกตกใจระคนดีใจนั้น มันก็หันมาตอบด้วยสีหน้าเคารพอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อท่านมีพลังระดับนี้ เพียงแค่พวกเราร่วมมือกัน ก็จะมีโอกาสหนีไปจากแดนลึกลับได้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปหาสถานที่รักษาอาการบาดเจ็บแล้วก่อนอธิบายอย่างละเอียด”

“ไม่มีปัญหา” หลิ่วหมิงเพียงแค่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ตกปากรับคำทันที ทั้งยังนำขวดเล็กสีฟ้าออกมา และโยนโอสถสีเหลืองออกไปหนึ่งเม็ด

“โอสถเสริมจิตวิญญาณ” หมาป่ายักษ์สีเขียวเห็นเช่นนี้ ก็หลุดปากออกมา จากนั้นก็อ้าปากกลืนลงด้วยความดีใจ

โอสถเสริมจิตวิญญาณนี้ เป็นโอสถรักษาอาการบาดเจ็บที่ไม่ค่อยพบเห็นในตลาด แม้ว่าจะไม่สามารถฟื้นฟูพลังเวทได้ แต่ว่าค่อนข้างมีผลต่อการรักษาอาการบาดเจ็บทั้งภายใน และภายนอกอย่างน่ามหัศจรรย์ ตั้งแต่ระดับของเหลวจนถึงระดับแก่นแท้ เมื่อรับประทานเข้าไปต่างก็เห็นผลอย่างรวดเร็ว แต่ว่ามูลค่าของมันไม่ใช่น้อยๆ โดยทั่วไปเม็ดหนึ่งจะมีมูลค่าหลายแสนหินจิตวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนทั่วไปจะสามารถซื้อได้

หลังจากหมาป่ายักษ์สีเขียวกลืนโอสถที่หลิ่วหมิงมอบให้แล้ว ไอสีเขียวบนตัวก็ค่อยๆ หนาแน่นขึ้นมา ประกายตาทั้งคู่ก็ค่อยๆ สว่างขึ้นมาด้วย

จากนั้นทั้งสามก็เหาะขึ้นฟ้า หลังจากเดินทางไปได้หนึ่งชั่วยาม ก็ร่อนลงในหุบเขาเล็กๆ แห่งหนึ่ง

หลิ่วหมิงหาที่นั่งขัดสมาธิหลับตาพักผ่อนโดยไม่พูดอะไรมาก

หวงอิ๋งเห็นเช่นนี้ ก็ยิ่งไม่พูดอะไรออกมา เพียงแค่ใช้ดวงตางดงามจ้องมองหมาป่ายักษ์สีเขียวที่นอนหมอบอยู่บนพื้นบริเวณนั้น ซึ่งไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

ผ่านไปราวๆ หนึ่งถ้วยชา เปลวไฟสีเขียวบนพื้นก็ม้วนตัวออกไป

หมาป่ายักษ์สีเขียวบนพื้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย และถูกแทนที่ด้วยชายชุดคลุมสีเขียวที่มีอายุราวๆ สามสิบกว่าปี

บุคลิกลักษณะสุภาพภูมิฐาน จอนผมหยิกๆ ย้อยลงมาจากบริเวณหูทั้งสองข้าง ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทันที ดีที่ว่ามีหน้ากากวานรยักษ์ปิดบังไว้ คนอื่นจึงดูไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

คนผู้นี้ก็คือผู้อาวุโสขุยมู่จากหุบเขาปีศาจสวรรค์ เขาพบเจอในตอนที่ทำการทดสอบในวังมายานภาหยกเสร็จสิ้น และหมาป่ายักษ์ในเมื่อครู่ถึงเป็นร่างที่แท้จริงของเขา

“ข้าน้อยขุยมู่ ก่อนหน้านั้นล่วงเกินไปมาก หวังว่าสหายทั้งสองจะให้อภัย” หลังจากผู้อาวุโสขุยมู่นั่งเข้าฌานไปรอบหนึ่งแล้ว ก็ลืมตาทั้งคู่ขึ้นมา พอกวาดสายตามองออกไป ก็รีบลุกขึ้นมากุมมือคารวะหลิ่วหมิงกับหวงอิ๋ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา