ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 696

สรุปบท ตอนที่ 696 ปีศาจโคดำ: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

ตอน ตอนที่ 696 ปีศาจโคดำ จาก ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 696 ปีศาจโคดำ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 696 ปีศาจโคดำ
ตอนที่ 696 ปีศาจโคดำ
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ตู๊ม!”

เสื้อผ้าของชายฉกรรจ์หัวล้านระเบิดออกมา ครู่เดียวก็กลายสภาพเป็นครึ่งปีศาจ ร่างกายส่วนบนเต็มไปด้วยขนแผงสีดำ มีเงาโค้งงอสีดำอยู่บนศีรษะ จมูกมีขนาดใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ร่างเดิมของมันคือโคดำตัวหนึ่ง

ดวงตาของปีศาจโคดำที่กลายร่างเป็นปีศาจครึ่งตัวเปล่งประกาย แขนซ้ายดึงง่ามบินสีเหลืองบนไหล่ขวาออกมาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ และโยนออกไปด้านหน้าอย่างรุนแรงเพื่อรับมือกับแสงกระบี่สีทองที่ปะทะเข้ามา

“เต๊ง!”

พอง่ามเล็กสีเหลืองปะทะกับแสงกระบี่สีทอง ก็เกิดเสียงโลหะปะทะกันดังแปลกประหลาด ทันใดนั้น ง่ามเล็กสีเหลืองก็ร่วงลงมาพร้อมเสียงโหยหวน

เงากระบี่สีทองก็กระเด็นออกไปเช่นกัน

ครู่ต่อมา พอปีศาจโคดำก้มหน้าเล็งเขาโค้งงอทั้งคู่ไปทางหลิ่วหมิงนั้น ร่างของมันก็พร่ามัวกลายเป็นเงาดำพุ่งยิงออกไป

หลิ่วหมิงรู้สึกแค่ว่ามีพายุพัดรุนแรงตรงหน้า จากนั้นปีศาจโคดำก็พุ่งมาถึง ทันใดนั้น เขาคิดจะหลบหนีด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว ทำได้แต่สูดหายใจเข้าอย่างรวดเร็ว และแขนทั้งสองก็ขยายใหญ่ขึ้นมา เกล็ดสีม่วงปรากฏออกมาเป็นชั้นๆ เขาคิดจะเอาแขนทั้งสองมาตั้งสลับไว้ตรงหน้า เพื่อรับมือกับการโจมตีโดยตรง

“ฟู่!”

แสงสีเขียวเปล่งประกายตรงช่องว่างระหว่างหลิ่วหมิงกับปีศาจโคดำ ทันใดนั้นเถาวัลย์หลายเส้นที่มีขนาดใหญ่เท่าแขนก็ปรากฏออกมา หลังจากมันหมุนวนตัดสลับกันไปมา ก็ก่อกลายเป็นกำแพงเถาวัลย์หนาๆ ขวางอยู่ตรงหน้า

ห่างออกไปไม่ไกล ไม้เท้าสีเขียวในมือผู้อาวุโสขุยมู่กำลังเปล่งแสงสีเขียวมาทางกำแพงเถาวัลย์อยู่ และเขาก็ร่ายคาถาออกมา

ส่วนหวงอิ๋งที่ฝืนกระตุ้นพลังแก่นโลหิตรัดพันปีศาจโคดำในก่อนหน้า ก็โซเซล้มลงพื้นที่อยู่ไกลๆ ภายใต้การเผชิญกับพลังเวทที่สะท้อนกลับเช่นนี้ ทำให้นางไม่อาจลุกขึ้นมาได้ชั่วขณะ

“ตู๊ม!”

กำแพงเถาวัลย์ต้านทานได้เพียงอึดใจเดียว ก็ถูกเขาแหลมคมบนหัวปีศาจโคดำโจมตีจนแตกกระจาย!

จากนั้นปีศาจโคดำยังคงพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงต่อ โดยที่พลังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

แต่ในช่วงระหว่างนั้นเอง หลิ่วหมิงก็พุ่งถอยออกไปด้านหลัง ขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งก็ชี้ไปทางอากาศที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากเกิดเสียงดังกังวาน กระบี่กลางอากาศก็สั่นสะท้าน และกลายเป็นแสงสีทองสิบกว่าจั้งม้วนตัวกลับมา

ด้วยความดุร้ายของปีศาจโคดำ พอเห็นอานุภาพของแสงกระบี่สีทอง ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาหยุดฝีเท้าในฉับพลัน และหมุนตัวฟันดาบยักษ์ในมือใส่แสงกระบี่อย่างรุนแรง

แสงดาบสีดำม้วนตัวออกไป

“ตู๊ม!” แสงสีดำประสานเข้ากับแสงสีทอง แต่ก็ไม่มีใครตกเป็นรองใครอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

หลังจากปีศาจโคดำส่งเสียงคำรามออกมา ดาบยักษ์ในมือก็ฟันออกไปหลายครั้งภายในอึดใจเดียว แสงสีดำอันพวยพุ่งปกคลุมแสงกระบี่สีทองไว้ภายในพริบตา

“เต๊ง!”

กระบี่กลางอากาศส่งเสียงดังออกมา จากนั้นก็กลายเป็นกระบี่เล็กๆ ก่อนกระเด็นออกไป

หลิ่วหมิงมีสีหน้าอึมครึมขึ้นมา แต่ก็กระตุ้นเคล็ดกระบี่แล้วชี้ไปทางกระบี่เล็กที่อยู่ไกลๆ

“ฟู่!” กระบี่เล็กสีทองพร่ามัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ครู่ต่อมา แสงสีทองเปล่งประกายตรงหน้าหลิ่วหมิง กระบี่กลางอากาศปรากฏออกมาอีกครั้ง

ปีศาจโคดำถือโอกาสนี้หันไปมองผู้อาวุโสขุยมู่ด้วยสายตาเยือกเย็นในทันที และร่างของเขาก็พร่ามัวขึ้นมา

ผู้อาวุโสขุยมู่รู้สึกแค่ว่ามีเงาดำเปล่งประกายตรงหน้า ทันใดนั้นปีศาจโคดำก็ปรากฏออกมา ทั้งยังโบกสะบัดดาบยักษ์ในมือจนกลายเป็นเงาดาบสีดำ และพุ่งใส่ผู้อาวุโสขุยมู่ราวกับสายฝน

ผู้อาวุโสขุยมู่หลบหลีกไม่ทัน จึงรีบร่ายคาถาออกมาอย่างรวดเร็ว พริบตานั้นกิ่งก้านเถาวัลย์สีเขียวจำนวนมาก ก็ทะลักออกจากไม้เท้าสีเขียวอย่างบ้าคลั่ง และก่อตัวเป็นกำแพงเถาวัลย์ต้านทานการโจมตีของเงาดาบสีเงินไว้

แต่ทว่าพอเถาวัลย์ก่อตัวสำเร็จ ก็ถูกแสงสีดำฟันเป็นชิ้นๆ ราวกับเต้าหู้

ดาบยักษ์รูปเขาโคนี้จะต้องเป็นต้นแบบอาวุธเวทอย่างแน่นอน แม้กระทั่งอานุภาพของมัน อาจจะเข้าใกล้อาวุธเวทที่แท้จริงแล้วก็เป็นไปได้ มันถึงมีอานุภาพที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นนี้

หลิ่วหมิงเลิกคิ้วขึ้นมา พอสะบัดแขนเสื้อ ไอดำกลุ่มหนึ่งก็พุ่งออกไป และกะพริบหายไปในดินอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นเขาก็กระทืบเท้าพุ่งยิงออกไปราวกับลูกธนู ในระหว่างทางก็ทำท่ามือกระตุ้นเกราะหนังสีเงินบนตัวไปด้วย

ไอดำทะลักออกจากร่าง และควบแน่นเป็นเงามังกรกับพยัคฆ์อย่างละสี่ตัว

“ฟู่!” เขามาปรากฏตัวด้านหลังปีศาจโคดำ พอมือซ้ายกำอากาศ สายฟ้าสีเงินก็เปล่งประกาย และมือขวาที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดก็กางนิ้วทั้งห้าออก จากนั้นมันก็กลายเป็นมือยักษ์สีดำคว้าไปด้านหลังของปีศาจโคดำ

เห็นได้ชัดว่าปีศาจโคดำค้นพบการเคลื่อนไหวของหลิ่วหมิงแล้ว มันส่งเสียงดังออกมา และฟันใส่ผู้อาวุโสขุยมู่จนถอยออกไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว แสงสีดำเปล่งประกายบนมือ และพุ่งไปรับมือกับมือยักษ์สีดำ

“ตู๊ม!”

พอแสงสีดำปะทะกับมือยักษ์สีดำ คลื่นอากาศก็ม้วนตัวออกไปอย่างบ้าคลั่ง หลิ่วหมิงกับปีศาจโคดำต่างก็ถูกสั่นสะเทือนจนร่นถอยออกไปหลายก้าว

ขณะนั้นเอง พื้นดินก็ค่อยๆ สั่นไหว “ฟิ้ว!” “ฟิ้ว!” เส้นสีดำพุ่งออกมาจำนวนมาก และพุ่งยิงใส่ขาของปีศาจโคดำ

ปีศาจโคดำรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว พอเขาส่งเสียงคำราม อักขระสีดำก็เปล่งประกายบนขา และขยายใหญ่ขึ้นมาเท่าตัว ขณะเดียวกัน แสงแวววาวราวกับทองคำก็ปรากฏบนพื้นผิว

พอเส้นสีดำโจมตีลงบนนั้น ก็ส่งเสียงดังราวกับโลหะเสียดสีกัน และค่อยๆ กระเด็นออกไป

ปีศาจโคดำยกแขนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันดุร้าย ดาบยักษ์รูปเขาโคตวัดลงพื้นพร้อมเสียงแผดร้อง

“ฉับ!”

ปีศาจโคดำรู้สึกแข็งไปทั้งตัว เส้นสายฟ้าสีเงินจำนวนมากเปล่งประกายออกมา ร่างกายเริ่มกระตุกเล็กน้อย

จากนั้น แสงสีทองเปล่งประกายบนอากาศบริเวณนั้น แสงกระบี่สีจางๆ ม้วนตัวออกมาราวกับปีศาจ มันกะพริบผ่านลำคอปีศาจโคดำโดยไม่เปิดโอกาสให้มันได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย

ปีศาจโคดำมีสีหน้าแข็งทื่อในทันที หัวขนาดใหญ่พุ่งขึ้นฟ้า เสาโลหิตพุ่งออกจากลำคอในพริบตา กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้นโชยออกมา

ฉากอันน่าประหลาดใจได้บังเกิดขึ้นแล้ว!

หัวโคที่หลุดออกจากร่างพลันส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นมันก็พุ่งขึ้นฟ้าเพื่อคิดจะหลบหนี

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกตกใจมาก แต่ก็ชี้มือข้างหนึ่งไปกลางอากาศอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ฟิ้ว!”

พริบตาเดียวแสงกระบี่สีทองก็ตามทัน และเจาะทะลุหัวโคไป จากนั้นก็หมุนติ้วๆ ระเบิดปราณกระบี่ออกมาปั่นหัวโคจนกลายเป็นหมอกโลหิต วิญญาณปีศาจโคดำที่อยู่ในนั้นก็ส่งเสียงร้องอย่างเวทนาก่อนดับสลายไป

ในที่สุดผู้ฝึกฝนปีศาจระดับแก่นแท้ขั้นกลาง ก็ถูกหลิ่วหมิงสังหารจนเสียชีวิต

หลังจากทำทุกอย่างนี้เสร็จ หลิ่วหมิงก็ถอนหายใจยาวออกมา และรีบนำโอสถจินหยวนออกมาทานอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกมือปล่อยไอดำสองสายม้วนเอาแมงป่องกระดูกับหัวบินที่หายใจรวยรินอยู่บริเวณนั้นขึ้นมา และเก็บเข้าไปในถุงหล่อเลี้ยงวิญญาณอย่างระมัดระวัง เพื่อให้พวกมันได้พักฟื้นอยู่ด้านในอย่างเงียบๆ

สำหรับการรับมือกับระดับแก่นแท้ พลังของแมงป่องกระดูกกับหัวบินอ่อนแอจนเกินไป พอถูกปีศาจโคดำโจมตีแค่ทีเดียวก็มีสภาพเช่นนี้แล้ว

ครั้งนี้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัส หากไม่ทำการฟื้นฟูเป็นเวลาเจ็ดแปดปี เกรงว่าคงไม่อาจฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้

“พี่หลิ่ว…” ผู้อาวุโสขุยมู่ที่อยู่อีกข้างก็คืนร่างเป็นมนุษย์ และค่อยๆ เดินเข้ามา

ทางด้านหวงอิ๋งก็ฟื้นฟูพลังมาเล็กน้อยแล้ว นางก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาเช่นกัน เพียงแต่ว่าใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

ทั้งสองดูน่าเวทนาอย่างถึงที่สุด บริเวณหน้าอกของผู้อาวุโสขุยมู่มีคราบเลือดเปรอะเปื้อน มุมปากก็มีรอยเลือดไหลออกมา มีสภาพเหมือนสูญเสียพลังไปมาก

และหวงอิ๋งก็แขนขวาขาด ใบหน้าซีดขาวเป็นอย่างถึงขีดสุด

“สหายหวง แขนของท่าน…” หลิ่วหมิงลุกขึ้นมา สายตาของเขาตกอยู่บนแขนที่ขาดของผู้ฝึกฝนหญิง

“ไม่เป็นไร! อีกสักครู่หลังจากทานโอสถกระดูกเข้าไป ก็สามารถงอกออกมาใหม่ได้ ครั้งนี้ต้องขอบคุณพี่หลิ่วมาก มิเช่นนั้นลำพังแค่พวกเราสองคนล่ะก็ เกรงว่าคงจะเสียชีวิตในสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว” หวงอิ๋งรีบกล่าวออกมา

“ไม่เลว! แม้ว่าปีศาจโคดำตนนี้จะมีการฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นกลาง แต่เกรงว่าพลังที่แท้จริง คงเข้าใกล้ระดับแก่นแท้ขั้นปลายแล้ว หากไม่มีพี่หลิ่วลงมือด้วยตัวเองล่ะก็ ผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นต้นโดยทั่วไปสามสี่คน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันอย่างนี้แน่นอน” ผู้อาวุโสขุยมู่ยิ้มมุมปากแล้วกล่าวด้วยสีหน้าที่ดูเคารพ

………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา