เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้น ก็อดมองละอองเมฆความโกลาหลที่เหมือนกับดอกบัวบนศีรษะของเยี่ยนตี๋ไม่ได้
“ไม่ใช่ท่านตามหามันจนเจอ แต่มันตามหาท่านจนเจอ?” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวทวน “แน่ใจหรือขอรับ”
เยี่ยนตี๋เงียบงันไปครู่หนึ่ง ค่อยเอ่ยว่า “ข้าไม่คิดว่าเป็นความบังเอิญ”
“…เหตุผลเล่า” เยี่ยนจ้าวเกอถามอย่างใคร่ครวญ
ผู้เป็นบิดายื่นมือออกมา เมฆแปลงกำเนิดบนศีรษะของเขาลอยลง และกลายเป็นดอกบัวขนาดเล็ก มีสีดำยากจะบรรยาย มันลอยค้างอยู่เหนือฝ่ามือของเขา
“ตั้งแต่ได้เห็นเมฆแปลงกำเนิดนี้ ข้าก็รู้สึกใกล้ชิดอย่างแปลกประหลาด” เยี่ยนตี๋สีหน้ายิ่งมายิ่งพิกล “นอกจากนี้ในพริบตานั้น ข้าก็รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร”
“ข้าคุ้ยเคยกับเมฆแปลงกำเนิดมากที่สุด แต่ว่าในความทรงจำของข้า ข้าสมควรเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก”
ครั้นพูดถึงตรงนี้ เยี่ยนตี๋ค่อยหยุดลง
สักพักต่อมา เขาค่อยเอ่ยขึ้นอย่างแช่มช้า “ยากจะอธิบาย แต่ข้ารู้สึกได้ถึง…อ้อมกอดของมารดา?”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็ปั้นสีหน้าครุ่นคิด ตั้งใจพิจารณาเมฆแปลงกำเนิดบนฝ่ามือของเยี่ยนตี๋
“หลังจากเมฆแปลงกำเนิดนี้มาอยู่ในมือของข้า ข้าก็ไม่จำเป็นต้องหลอมมัน ใช้มันได้ดุจแขนขา เหมือนกับว่า…” เยี่ยนตี๋คิดหาคำพูด “เหมือนกับมันเป็นของข้าอยู่แล้ว”
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอขบคิดครู่หนึ่ง เขาก็พลันถามว่า “ที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยของจักรพรรดิแพรที่เราไปในครั้งนั้น เหมือนกับเป็นการไปยังมิติต่างแดนเป็นครั้งแรกของท่านกระมัง”
เยี่ยนตี๋ใช้ฝ่ามือดันเมฆแปลงกำเนิดคืนสู่บนศีรษะเบาๆ เอ่ย “มิผิด เป็นเช่นนั้นเอง”
“เรื่องที่เจ้าคิดพูด ข้าเองก็นึกถึงแล้ว บางทีมันอาจรอข้าอยู่ในมิติต่างแดนมาโดยตลอด ในตอนที่ข้าไปอยู่ในมิติต่างแดน มันค่อยตามหาข้าเอง”
สีหน้าของเยี่ยนตี๋เปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง
“คำถามคือ…เพราะเหตุใดกัน” เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วนวดขมับของตัวเองเบาๆ เงยหน้ามองบิดา “มันรอท่านมาโดยตลอด คล้ายกับเป็นของท่านมาตั้งแต่ต้น ท่านยังรู้สึกถึงความใกล้ชิดและความคุ้นเคย…”
เยี่ยนตี๋เข้าใจความหมายในวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ เพราะที่ผ่านมาเขาก็สงสัยเช่นกัน
“ในอดีตตอนที่บึงน้ำไร้ขอบเขตก่อความวุ่นวายบนโลกแปดพิภพ กว่างเฉิงประสบเพทภัย ในตระกูลก็เกิดความปั่นป่วน”
เยี่ยนตี๋เอ่ยอย่างแช่มช้า “คำพูดของพวกเยี่ยนเหวินเต้าเป็นเรื่องจริง”
“ข้า…ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านแม่”
“ข้ารู้เรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่ต้น และคนที่บอกความจริงให้ข้าทราบก็คือท่านพ่อ”
“เพียงแต่ในใจของข้า ข้าถือว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเยี่ยน ในตระกูลเองก็มีคนที่ถือว่าข้าเป็นครอบครัว นี่เพียงพอแล้วสำหรับข้า”
“จะได้เป็นประมุขตระกูลหรือไม่ สำหรับข้าไม่สำคัญ แต่ในเมื่อท่านปู่มอบตำแหน่งประมุขตระกูลแก่ข้า ข้าก็ไม่อาจบ่ายเบี่ยง และไม่ต้องการทำให้ท่านผู้เฒ่าผิดหวัง”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินบิดาของตนกล่าวออกมาอย่างฉะฉาน ก็พยักหน้าอย่างเงียบงัน
คนที่สงสัยสถานะของเยี่ยนตี๋ในตอนนั้น มีจดหมายที่บิดาของเยี่ยนตี๋และปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอเขียนด้วยตัวเอง เมื่อวิเคราะห์ลายมือแล้ว พบว่าไม่ใช่ของปลอม
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เยี่ยนจ้าวเกอก็พอจะรู้คร่าวๆ
“ในตอนนั้นตระกูลของพวกเรายังไม่ได้ย้ายไปอยู่ในเกาะนภากลางในนภาพิภพ แต่ว่าอยู่ที่แผ่นดินจ้าวบนอัสนีพิภพ” เยี่ยนตี๋มีสีหน้านึกถึงความหลัง “ท่านพ่อเก็บข้าได้จากในเขา เพราะว่าของที่อยู่บนตัวข้า สุดท้ายจึงนำข้ากลับตระกูล”
เขาพูดพลางล้วงเอาหยกแขวนสองอันออกมาวางไว้ตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
หยกแขวนสองอันนั้นมีลักษณะเหมือนกันโดยสิ้นเชิง เป็นสิ่งที่มาคู่กัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี