เยี่ยนจ้าวเกอปรารถนาจะได้ปีนสู่ระดับประมุขในหมู่คนเร็วๆ เช่นกัน แต่ว่านั่นเป็นความต้องการของผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่ง
ด้านปัญหาของเสวี่ยชูฉิงผู้เป็นมารดา เขาไม่จำเป็นต้องรอนานถึงเพียงนั้น
เขาที่เคยไปยังโถงเซียน ถือเป็น ‘โหลแตกตกซ้ำ’ ในสายตาของพวกเฉาเจี๋ยและหลิวเจิงกู่อยู่แล้ว
แน่นอนว่าการกลับมาของพวกเฉาเจี๋ยก็หมายถึงการกลับมาของประมุขทักษิณจวงเซิน หมายถึงการกลับของประมุขซีฟางที่ไม่ลงรอยกับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ย
ความขัดแย้งของโถงเซียนกับศาสนาพุทธเริ่มเปลี่ยนจากรุนแรงเป็นสงบลง เรื่องราวทางนั้นเมื่อจบลง จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็อาจจะกลับโลกซ้อนโลก
เยี่ยนจ้าวเกอกับทั่วทั้งเขากว่างเฉิงจำเป็นต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
หลังจากบอกลาเยี่ยนตี๋อย่างเป็นกิจลักษณะ เยี่ยนจ้าวเกอก็เดินทางไปยังโลกผืนสมุทร
ครั้งนี้ไม่มีความจำเป็นต้องให้ใครคอยอยู่บนโลกซ้อนโลกอีก พ่านพ่านจึงติดตามเขาลงไป รับหน้าที่คุ้มครอง
อาหู่กับเสี่ยวอ้ายฝึกปรืออยู่บนโลกซ้อนโลก เพราะสภาพแวดล้อมของที่นี่ดีกว่า
ในหลายปีมานี้ สืบเนื่องจากการเก็บตัวฝึกฝน ในที่สุดอาหู่ก็เลื่อนจากบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ ก้าวสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สำเร็จ
คนที่เหมือนกับเขายังมีอิงหลงถูกับซือคงจิง ทว่าซือคงจิงสำเร็จเร็วกว่าเล็กน้อย
โดยเฉพาะสิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือ อิงหลงถูกเลื่อนจากบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์โดยมีอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปี สร้างสถิติใหม่ขึ้นในเขากว่างเฉิง
เมื่อพิจารณาถึงว่าเขามาโลกซ้อนโลกด้วยระดับมหาปรมาจารย์ ความเร็วนี้ก็ถูกจัดอยู่ในชั้นแถวหน้าของโลกซ้อนโลกเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว เสี่ยวอ้ายกับสือจวินก็เลื่อนมาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุธรรม กำลังจะก้าวสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
สือจวินในฐานะลูกศิษย์รุ่นที่สี่ของเขากว่างเฉิง พอมาถึงระดับนี้ก็ทำให้หยวนเจิ้งเฟิง เยี่ยนตี๋ ฟางจุ่น และฟู่เอิ้นซูเหล่าผู้อาวุโสต่างชมเชย
ถึงแม้ว่าในช่วงนี้เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกจะไม่ค่อยเคลื่อนไหว เขากว่างเฉิงก็ยังคงสงบ แต่การสั่งสมของสำนักยิ่งมายิ่งมีมากขึ้นแล้ว
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าไปโลกผืนสมุทรและเข้าฌานได้ปีหนึ่ง เรื่องนี้ก็ได้รับความสนใจจากโลกภายนอกพร้อมกับที่เยี่ยนตี๋เจ้าสำนักเขากว่างเฉิงรุดหน้าขึ้นอีกขึ้น เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง
จนถึงตอนนี้ เขากว่างเฉิงก็ได้เปิดสำนักบนโลกซ้อนโลกอย่างเป็นทางการ เงื่อนไขการรับศิษย์เป็นที่ทราบกันดีแล้ว
ชนชั้นในขุมกำลังใหญ่กับยอดฝีมือระดับสุดยอดล้วนกำลังจับตามอง
หลังจากที่ปะทะกับพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและประมุขทักษิณ จึงค่อยดูออกว่าเขากว่างเฉิงเป็นมังกรหรืองูกันแน่ แต่สำหรับจอมยุทธ์ระดับกลางไปถึงต่ำ โดยเฉพาะคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องราว พวกเขาไม่ทราบว่าเขากว่างเฉิงกำลังจะเผชิญกับอันตราย
พวกเขาเพียงแต่รู้ว่า ตำนานบทใหม่กำลังเริ่มขึ้นบนทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์ และคนเหล่านี้ก็เป็นเป้าหมายที่เขากว่างเฉิงเปิดสำนักรับลูกศิษย์
ขณะที่ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงชื่นชมเยี่ยนตี๋ที่รุดหน้าขึ้นอีกก้าว ก็ไม่ได้รีบเร่งเปิดสำนักอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เพราะพวกเขากริ่งเกรงยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่อย่างจักรพรรดิเอกภพกับประมุขทักษิณ หรือเพราะคิดว่ารากฐานของตัวเองในตอนนี้ยังไม่มั่นคง
เหตุผลมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือเยี่ยนจ้าวเกอยังเข้าฌานอยู่ในโลกผืนสมุทร ไม่ได้ออกมา
“สถานการณ์และชื่อเสียงในตอนนี้ของสำนักเรา มีมากกว่าครึ่งที่จ้าวเกอสร้างไว้ตั้งแต่ไม่มีเป็นมี” หยวนเจิ้งเฟิงเคาะไม้ตัดสินใจ “การเปิดสำนักอย่างเป็นทางการ จะไม่รอเขาได้อย่างไร”
เยี่ยนตี๋ไม่ได้ถ่อมตนและไม่ได้บ่ายเบี่ยง พยักหน้าพูดตรงๆ ว่า “เป็นอย่างที่ท่านอาจารย์พูด”
ฟางจุ่นยิ้ม “ด้วยพลังฝึกปรือและความรู้ในปัจจุบันของจ้าวเกอ ที่แล้วมาไม่ได้รับศิษย์ ไม่รู้ว่าตอนเปิดสำนักจะมีคนเข้าตาเขาหรือไม่”
ฟางจุ่นที่อยู่บนโลกซ้อนโลกมาสิบกว่าปี แม้ว่าจะยังคงแบกรับหน้าที่ประจำวันของสำนักมากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วเก็บตัวฝึกฝน ค่อยๆ มีกำลังวังชา
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รุดหน้ารวดเร็วเท่าเยี่ยนตี๋ แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานก็ได้ทำลายนภา เห็นเทวะสำแดงสำเร็จ เขากว่างเฉิงมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเพิ่มขึ้นมาอีกคน
เมื่อดูจากการได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเมื่อก่อนหน้า ความก้าวหน้าในตอนนี้ค่อนข้างโดดเด่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี