ระดับพลังฝึกปรือในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอถูกกดให้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามจริงๆ
แต่ว่าภูมิรอบรู้และความเชี่ยวชาญของเขากลับสุดที่จอมยุทธ์ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามจะเทียบเคียงได้ รวมถึงตัวเขาเองในตอนนั้นด้วย
พร้อมกับพลังฝึกปรือที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน การเตรียมตัวในทางทฤษฎีของเยี่ยนจ้าวเกอก็กำลังเปลี่ยนเป็นประสบการณ์จริงอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้อยู่แค่บนหน้ากระดาษอีกต่อไป
ระหว่างทั้งสองมีความแตกต่างด้านคุณสมบัติ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาตามการเติบโตของเยี่ยนจ้าวเกอเอง
ขอบเขตมิติของโลกผืนสมุทรมีระดับความแข็งแกร่งไม่เท่าโลกซ้อนโลก ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงสามารถทำหนักให้เป็นเบา บิดระยะห่างระหว่างมิติของที่นี่ ทำให้เขาชิงวายุที่อยู่นอกมหาสมุทรปรากฏขึ้นบนทะเลรางเลือน
อย่างไรเสีย ถ้าหากว่าเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ปล่อยพลังของตัวเองออกมา คงถูกพลังแห่งเขตแดนกีดกัน ไม่อาจรั้งอยู่ได้อีก แต่ขอแค่เขาต้องการ ที่นี่ก็จะสิ้นสูญทันที
เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือบอกลาพวกเกาเทียนจง จากนั้นก็ก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง ร่างลอยขึ้นเข้าไปในร่องแยกขนาดยักษ์ใหญ่ที่เหมือนกับหุบเขาบนท้องฟ้า
อาหู่ติดตามไปติดๆ ใช้หยกข้ามสวรรค์ชิ้นหนึ่งเข้าไปด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์พร้อมเยี่ยนจ้าวเกอ
พร้อมกับที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอหายตัวไป บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนท้องฟ้าก็หายไปด้วย
เขาชิงวายุที่พาดขวางอยู่เหนือทะเลรางเลือนเมื่อครู่ สลายตามไปด้วยเช่นดัน
มิติเหมือนกับภาพวาดที่ถูกม้วนเก็บ กระตุกอยู่พักหนึ่ง
ครู่ต่อมา ทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม หมอกลวงบนทะเลรางเลือนหนาหนัก ด้านล่างคลื่นกระเพื่อมขึ้นลง เหมือนกับในตอนแรก
พวกเกาเทียนจงยามนี้เหมือนค่อยตื่นจากฝัน แม้ว่าตรงหน้าจะไม่มีร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกออีกแล้ว แต่ทุกคนก็ทำท่าคารวะแก่ท้องฟ้าอย่างพร้อมเพรียง เหมือนกับกำลังคำนับเทพเจ้าองค์หนึ่ง
‘ราชามังกรอวิ๋นจงในปัจจุบันมีพลังฝึกปรือระดับไหนกันแน่’ ทุกคนยามนี้เกิดความคิดหนึ่งขึ้น ไม่อาจคลายใจได้
คนที่อยู่รอบๆ มีศัตรูคู่แค้นของเยี่ยนจ้าวเกออยู่ด้วย
แต่ว่าในตอนนี้ไม่มีผู้ใดคิดหาเรื่องเยี่ยนจ้าวเกอ บัดนี้พวกเขาต่างก็มีจิตใจซับซ้อน ยากจะเปล่งคำพูดออกมา
“พวกเรา…” เกาเทียนจงมองรอบๆ สุดท้ายทำลายความเงียบ “…เมื่อครู่เพิ่งจะเป็นประจักษ์พยานของตำนานที่กำลังมีชีวิต”
…
เยี่ยนจ้าวเกอที่ผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์กลับถึงโลกซ้อนโลก ไม่ได้ยินเสียงอุทานของทุกคนในโลกผืนสมุทรแล้ว
เรื่องที่เขากำลังขบคิดอยู่ในตอนนี้ อยู่ที่ทะเลหวงเจียบนโลกซ้อนโลก
เรื่องที่เขาไหว้วานให้บิดาของตนเองกับสำนักจัดการก่อนที่จะลงไปยังโลกผืนสมุทร ตอนนี้มีผลลัพธ์แล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีสองเรื่องสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอที่เพิ่งจะออกฌาน และได้ปีนขึ้นสะพานเซียนสำเร็จ
‘ตอนนี้ในฐานะจุดตัดของฝั่งตะวันออกเฉียงใต้และฝั่งทิศใต้ การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณและชีพจรดินในทะเลหวงเจียเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้’
เยี่ยนจ้าวเกอครั้งนี้ได้มาถึงโลกซ้อนโลกอีกครั้ง แต่ไม่ได้เกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงดังเช่นครั้งก่อนที่ได้เห็นเทวะแล้วลอยขึ้นมา
ทุกอย่างดูปกติเป็นธรรมชาติ
เยี่ยนจ้าวเกอมองน่านน้ำดินแดนหลวนเซียงที่ผิวน้ำกระเพื่อมเล็กน้อยตรงหน้า ใคร่ครวญในใจ ‘ไม่ว่าจะเป็นเขตเพลิงทักษิณหรือเขตตะวันอาคเนย์ ปราณวิญญาณและชีพจรดินล้วนร้อนแรงกล้าแข็ง บริเวณจุดตัดของทั้งสองที่ยิ่งร้อนเข้าไปอีก’
เขารอบวงในเขตเพลิงทักษิณที่อยู่อีกฝั่งก็น่าจะมีสถานการณ์คล้ายๆ กัน
แต่ว่าแม่น้ำเฉาเหอที่ทะลุเหนือใต้ของเขารอบวง ด้วยปราณน้ำที่เต็มเปี่ยมของมัน จึงส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของชีพจรดินและปราณวิญญาณในท้องที่
ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ตรงนั้นจึงไม่เหมือนกับทะเลหวงเจีย
‘ที่เลือกส่งคนมาวางค่ายกลสืบทอดฟ้าที่นี่ ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลอย่างที่คิดไว้’ เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี