ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1040

เป็นเพราะว่าจักรพรรดินีมาถึงและจักรพรรดิเอกภพได้รับบาดเจ็บ ผืนดินที่ครอบคลุมท้องฟ้าก่อนหน้านี้จึงค่อยๆ แตกร้าวออกมา

ทะเลหวงเจียได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แต่ว่าภาพทิวทัศน์กลายเป็นอีกลักษณะหนึ่งไปตั้งแต่แรกแล้ว

ในตอนนี้ทั่วทั้งทะเลหวงเจียมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งสามสายกำลังพุ่งจากเขารอบวง มายังเขากว่างเฉิงบนดินแดนจิตคุณธรรมในทะเลหวงเจีย

ประกายกระบี่ที่แยกฟ้าดินมาถึงในชั่วพริบตา บรรลุถึงด้านหน้าทุกคน ก่อนที่มันจะค่อยๆ จางลง ปรากฏเงาคนสามสาย

คนหนึ่งในนี้คือชายหนุ่มในอาภรณ์สีขาว ร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง หน้าหล่อเหลาดูดี บุคลิกไม่ธรรมดา เขาแขวนกระบี่ยาวเล่มหนึ่งไว้ที่เอว แม้ว่ากระบี่จะอยู่ในฝัก แต่กลับบันดาลให้ผู้คนเกิดความรู้สึกสะท้านไปทั้งวิญญาณ

หากเกิดมันหลุดออกจากฝัก ฟ้าจะต้องถล่มดินจะต้องทลายแน่

ประกายกระบี่ละลานตาครอบคลุมร่างของคนหนุ่มอาภรณ์สีขาวผู้นี้ไว้ ที่ที่เขาพุ่งผ่าน มิติเวลาราวกับถูกฟันออก สรรพสิ่งพากันหลีกทาง

ด้านซ้ายด้านขวาของคนหนุ่มอาภรณ์ขาวผู้นี้ยังมีคนอีกฝั่งละหนึ่งคน

คนทางขวาคือบุรุษวัยกลางคน เขาไม่ได้มีหน้าตาโดดเด่นนัก แต่ตอนนี้มีประกายกระบี่พร่างพราวคลุมร่าง ราวกับต้องการเบิกฟ้าเปิดดิน

ส่วนคนทางซ้ายเป็นคนหนุ่มในอาภรณ์สีดำ องคาพยพองอาจ แต่ว่ามีบุคลิกเย็นชา เงียบงันไม่กล่าววาจา ประกายกระบี่บนร่างของเขาไม่โชติช่วงนัก เพียงแต่ร่วมทางกับคนหนุ่มอาภรณ์ขาวและบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นมาถึงด้านหน้าจักรพรรดิเอกภพและจักรพรรดินีอย่างเงียบๆ

สามคนมองเขากว่างเฉิงก่อน พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูก และเขากว่างเฉิงยังปลอดภัยก็พยักหน้าเล็กน้อย

หลังจากพวกจวงเซินและหลางชิงเห็นเหตุการณ์นี้ ม่านตาของพวกเขาก็หดตัวลงอย่างไม่อาจควบคุม

คนหนุ่มอาภรณ์ขาวพยักหน้า สามคนทักทายจักรพรรดินีก่อน “ผู้เยาว์คารวะจักรพรรดินี”

จักรพรรดินีพยักหน้า “พวกท่านมาสายไปบ้างนะ”

“เป็นพวกข้าชักช้าเอง” คนหนุ่มอาภรณ์ขาวโค้งตัวคำนับ จากนั้นก็ยืดกายขึ้นมองจักรพรรดิเอกภพกำเนิด “จักรพรรดิเอกภพ”

สายตาของจักรพรรดิเอกภพกำเนิดเลื่อนจากร่างของเยี่ยนจ้าวเกอไปอยู่บนตัวของพวกคนหนุ่มอาภรณ์ขาว บัดนี้นิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา

ประมุขประจิมหลางชิงที่อยู่ด้านข้างปั้นสีหน้าเคร่งขรึม “ไป๋เทา พวกท่านถึงกับมาที่นี่”

คนหนุ่มอาภรณ์ขาวคนนั้นกล่าว “ท่านกับจวงเซินแม้ว่าจะมีการคบหากับเขตฟ้าแดงหรดีค่อนข้างดี แต่ท่านอาจารย์มีคำสั่ง ข้าย่อมต้องทำตามคำสั่งของท่านอาจารย์ ไม่ใช่อาศัยผลประโยชน์ที่พวกท่านมอบให้”

คนหนุ่มอาภรณ์ขาวมีชื่อว่าไป๋เทา แต่กลับมีชื่อที่ทุกคนคุ้นเคยในโลกซ้อนโลกเคยมากกว่า นั่นก็คือประมุขหรดี จ้าวผู้ปกครองเขตฟ้าแดงหรดี

ถ้าหากว่าไป๋เทาเป็นแค่ประมุขหรดี สีหน้าของจักรพรรดิเอกภพคงไม่จริงจังขนาดนี้

สิ่งที่ทำให้จักรพรรดิเซียนจริงแท้ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนกริ่งเกรงขนาดนี้ สาเหตุไม่ได้อยู่ที่ตัวพวกไป๋เทาสามคน แต่อยู่ที่อาจารย์ของพวกเขา

พวกประมุขหรดีไป๋เทาต่างก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักเขานครหยก บนยอดเขาเป่ยเกาเหนือเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลาง

อาจารย์ของพวกเขาก็คือกษัตริย์กระบี่ ตัวตนที่อยู่สูงที่สุดในโลกซ้อนโลก และเป็นหนึ่งในสามกษัตริย์!

แม้วัยวุฒิและคุณวุฒิของกษัตริย์กระบี่จะมีน้อยที่สุดในสามกษัตริย์ แต่ที่แล้วมาก็ถูกจัดให้อยู่ในแถวเดียวกับกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ แสดงแสนยานุภาพไปทั่วสี่ทะเล

ปัจจุบันเขาอยู่ที่มิตินอกแดน ยังไม่ได้กลับมา แต่การปรากฏตัวขึ้นที่นี้ของพวกไป๋เทา ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้คนเกิดความคิดเชื่อมโยง โดยเฉพาะอาศัยหน้าของพวกเขาสามคน ก็ไม่จำเป็นต้องให้จักรพรรดินีลงมือแล้ว

“เยี่ยนจ้าวเกอได้รับมรดกของจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยไป ก็เพราะเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของอิ่นเทียนเซี่ย!” หลางชิงกล่าวเสียงแหบพร่า “ต่อให้กษัตริย์กระบี่เสียดายผู้มีความามารถ ความยุ่งเหยิงในนี้ก็จำเป็นต้องใคร่ครวญ…”

ไป๋เทาส่ายหน้า “หลางประจิม ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ ถอนใจยาว “พวกเขาแซ่เยี่ยน!”

หลางชิงงงงวย “แซ่เยี่ยน…รอเดี๋ยว!”

เขาทำท่าเหมือนเห็นผี มองเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกอย่างสับสน “เป็นเยี่ยนผู้นั้น?!”

จวงเซิน นักพรตเทียนอี้ เลี่ยนจู่หลิน จนไปถึงเฉาเจี๋ยและหลิวเจิงกู่ตอนแรกยังสงสัย ต่อจากนั้นใบหน้าก็ฉายแววแตกตื่น

“เยี่ยน…ตี๋ เยี่ยนตี๋ เยี่ยนตี๋อันประเสริฐ!” ใบหน้าของจักรพรรดิเอกภพกำเนิดแปรเปลี่ยน “ถ้าหากไม่ได้เรียกชื่อเช่นนี้ ข้ากลับไม่ทันสังเกตชื่อแซ่ของเขา”

เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ เขาหันหน้าไปมองเยี่ยนตี๋ เห็นบิดามีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย เพียงแต่สายตาคมกริบกว่าเดิม

จากนั้นเขาก็มองจักรพรรดิเอกภพกำเนิด พอจะจินตนการความคับข้องของอีกฝ่ายออก

ชื่อของเยี่ยนตี๋ เป็นการรวมแซ่ของบิดามารดา

ว่ากันว่าราชันพระศุกร์สองสามีภรรยาได้ล่วงลับไปเมื่อสองพันปีก่อนแล้ว แต่เยี่ยนตี๋ในตอนนี้ยังมีอายุไม่ถึงหนึ่งร้อยปี!

นี่จะอย่างไรก็ไม่สอดคล้องกัน

หากบอกว่าเป็นความบังเอิญ ยังจะมีคนเชื่อถือมากกว่า

สายตาของพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดที่มองไปยังจักรพรรดินีและไป๋เทาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น รู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังหลอกลวงตนอยู่

“ข้าเคยเห็นภาพของราชันพระศุกร์มาก่อน” จักรพรรดิเอกภพกำเนิดระบายลมหายใจยาว “ถ้าหากเป็นบิดาบังเกิดเกล้า ไหนเลยจะไม่มีส่วนที่คล้ายกัน เลือดเนื้อเชื้อไขของเทพกระบี่และจักรพรรดิกระบี่เรียนวิชาดาบหรือ? ความขัดแย้งที่มากมายขนาดนี้ พวกท่านไฉนจึงแน่ใจว่าเขาเป็นลูกหลานของราชันพระศุกร์ได้”

จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงหัวเราะเย็นชา คร้านจะเอ่ยตอบ

ประมุขหรดีไป๋เทากลับยังคงรักษามารยาท ประสานมือให้จักรพรรดิเอกภพกำเนิด “จักรพรรดิเอกภพ ท่านลองดูตรงนั้น”

จักรพรรดิเอกภพมองตามนิ้วของเขาไป สายตาพลันกลายเป็นคมกริบ

กลุ่มเมฆที่เหมือนกับบัวบานกลุ่มหนึ่งลอยอยู่บนศีรษะของเยี่ยนตี๋อย่างเงียบสงบ

โกลาหลพร่ามัว มืดมิดมัวซัว เส้นแบ่งของมิติและเวลาในเมฆกลุ่มนี้กลายเป็นเลอะเลือน

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี