ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1039

จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงไม่คิดจะร่วมกลุ้มรุม นางหลับตา แต่ว่า ‘สายตา’ กลับเลื่อนไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋และจักรพรรดิเอภพรอบหนึ่ง

ใบหน้าที่เย็นชาปานน้ำแข็งตั้งแต่เผยโฉมออกมา ยามนี้อบอุ่นขึ้นเล็กน้อย มุมปากปรากฏรอยยิ้ม

“กานหยวนจื่อ ท่านเดิมทีใช้ใหญ่รังแกเล็ก แต่ว่ากลับจัดการไม่ได้ ยังคิดจะมาเป็นคำรบสองอีกหรือ” จักรพรรดินีกล่าวอย่างเฉื่อยชา

จักรพรรดิเอกภพยืนอยู่กลางอากาศ ครู่ต่อมาปราณเขียวบนใบหน้าก็สลาย อาการบาดเจ็บถูกสะกดไว้ชั่วคราว

เมื่อเขาไม่ลงมือโจมตี ลายมือแห่งแผ่นดินย่อมไม่โต้ตอบ

“สิ่งของที่อยู่ด้านล่างเกี่ยวพันถึงการฝึกปรือของข้า ข้าต้องเอามาให้ได้” จักรพรรดิเอกภพกำเนิดกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิงยังสังหารชิงซู่จื่อลูกศิษย์ที่ข้าภูมิใจที่สุด ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องมีคำพูดให้กับเขา”

จักรพรรดินียิ้ม “ต่อให้ข้าไม่อยู่ ท่านก็ทำอะไรเขากว่างเฉิงไม่ได้อยู่ดี”

“ถ้าฟู่แพรงามไม่มาและท่านไม่ลงมือ ผลแพ้ชนะยังไม่แน่” จักรพรรดิเอกภพแย้ง

“ไม่ผิด ท่านโจมตี พวกจวงเซินสี่คนช่วยเหลือ” จักรพรรดินีหลับตา เลิกคิ้วเล็กน้อย “หากเยี่ยนจ้าวเกอคิดใช้พิธีบวงสรวงป้องกันท่าน พิธีกรรมเพียงมีผลกับท่าน เยี่ยนตี๋ เฉาอาคเนย์ หลิวอิสานใช้สามสู้สี่ เหมือนจับแขนเสื้อเห็นข้อศอก[1] แต่ถ้าหากตั้งใจป้องกันอย่างเดียว ก็สามารถต้านทานได้เป็นเวลานาน สิ่งที่จำเป็นต้องกังวลเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ท่านจะวางค่ายกลคลุมทะเลหวงเจีย ค่อยๆ ทำลายเขากว่างเฉิง”

จักรพรรดินีหลุดหัวเราะ “คนที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนเช่นท่าน ใช้วิธีนี้จัดการจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่กลัวเสียหน้าหรือ”

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของจักรพรรดิเอกภพจะสาหัสกว่าก่อนหน้า แต่ก็เยือกเย็นลงแล้ว “ไม่ว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมก็ดี หรือใช้พลังก็ดี พวกเขาในเมื่อมีความสามารถขัดขวางข้า เช่นนั้นข้าก็จะปฏิบัติกับพวกเขาเฉกเช่นคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ไฉนจึงเกี่ยวกับการเสียหน้าหรือไม่เสียหน้า

“การคงอยู่ของพิธีกรรมนี้มาจากงจักรมหาประกายกาฬ ตราประทับตะวัน และตัวเยี่ยนจ้าวเกอเอง กงจักรมหาประกายกาฬยังไม่สำเร็จเป็นอาวุธเซียน สุดท้ายก็ยังทำอะไรท่านไม่ได้” จักรพรรพดินีกล่าวอย่างราบเรียบ “แต่ท่านก็อย่าได้ใจไปนัก ฟู่อวิ๋นฉือแม้จะไม่ทราบว่าถูกถ่วงแข้งถ่วงขาเพราะอะไร แต่ถ้าหากปล่อยให้เวลาผ่านไป สุดท้ายเขาก็จะมาจนได้”

จักรพรรดิเอกภพแค่นเสียง มองตราอักขระที่เกิดจากลายมือแห่งแผ่นดินด้านล่าง “ถูกต้อง ดังนั้นที่สุดแล้วก็ยากจะตัดสินผลแพ้ชนะบนทะเลหวงเจีย”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ พูดซ้ำประโยคเดิม “เป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นจริงๆ ก่อนวันนี้ข้าไม่ได้นึกถึงผลลัพธ์เช่นนี้จริงๆ”

“จักรพรรดิเอกภพเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างเฉื่อยชา “สำหรับตอนนี้ ความจริงมีแต่บนทะเลหวงเจียแห่งนี้จึงจะเกิดสถานการณ์เช่นวันนี้ได้ หากไม่มีลายมือของมารดาแห่งแผ่นดิน ข้าเกรงว่าแม้แต่กระบวนท่าเดียวของท่านข้าก็ยังคงรับไม่ได้”

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าสบตากับจักรพรรดิเอกภพ “แต่วันนี้ท่านจัดการข้าไม่ได้ ต่อให้วันที่ข้าออกจากทะเลหวงเจีย ท่านก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่ดี แม้ข้าไม่จำเป็นต้องผลักเปิดประตูเซียนก็ตาม ขออภัยที่ข้าผู้แซ่เยี่ยนสามหาว แต่วันนี้อยู่อีกไม่ไกลแล้ว”

เขาใช้น้ำเสียงสบายๆ เหมือนกับกำลังพูดคุยเรื่องทั่วไปกับจักรพรรดิเอกภพกำเนิด แต่รอบๆ กลับเงียบสงัด

ทุกคนมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างตะลึงลาน ในห้วงสมองเกิดความคิดหนึ่ง

ยโส! โอหัง!

แต่ขอแค่คิดถึงภาพที่เยี่ยนจ้าวเกอประมือกับประมุขทักษิณจวงเซิน แต่ละคนก็เกิดความรู้สึกจากก้นบึ้งจิตใจ ว่าสิ่งที่คนหนุ่มผู้นี้พูดไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ไม่ ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่จะต้องเกิดขึ้นจริง!

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คน ถึงขั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ ต่อให้มีของวิเศษเช่นตราประทับตะวัน แต่ก็เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนใต้หล้าอยู่ดี

มีความสามารถเช่นนี้ อีกทั้งพลังแฝงยังน่าตื่นตะลึงอีกด้วย

จริงอยู่ที่ยิ่งระดับยิ่งสูง การพัฒนาก็ยิ่งช้า การฝึกปรือยิ่งลำบาก เวลาที่ใช้ก็ยิ่งมาก แต่ว่าความเร็วในการเพิ่มระดับของเยี่ยนจ้าวเกอ เมื่อเทียบกับอดีตแล้วไม่มีใครปฏิเสธได้ ว่าคนหนุ่มผู้นี้จะต้องเดินไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิมแน่

อีกครั้งจะทะยานอย่างรวดเร็ว!

ฉายาเซียนผู้ถูกเนรเทศ นับว่าสมกับความจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี