พวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิด จวงเซิน และหลางชิง บัดนี้ความหวังยังคงไม่ขาดสะบั้น สำหรับพวกเขาแล้ว ความหวังสุดท้ายอยู่ที่ท่าทีของกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ
หลายพันปีมานี้ สามกษัตริย์อยู่บนจุดสูงสุด ที่แล้วมามีกษัตริย์ดินเป็นผู้นำ
กษัตริย์เร้นลับออกเดินทาง น้อยครั้งจะแสดงความเห็น ในสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้วล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของกษัตริย์ดิน
ท่าทีที่โลกซ้อนโลกมีต่อจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยในปัจจุบันมาจากการตัดสินใจของกษัตริย์ดิน สาเหตุที่สายสืบทอดของเสวี่ยชูฉิง มารดาของเยี่ยนจ้าวเกอสาปสูญไปจากโลกซ้อนโลก ก็เป็นเพราะท่าทีของกษัตริย์ดินเช่นกัน
แม้จะเป็นกษัตริย์กระบี่ ก็จะใช่ว่าจะเอ่ยปากสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ดังนั้นพวกหลางชิงและนักพรตเทียนอี้จึงตามจับเสวี่ยชูฉิง
ถึงแม้ว่ากษัตริย์ดินจะไม่ได้สั่งอย่างชัดแจ้ง แต่ว่าประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงก็ตามหาเสวี่ยชูฉิงในเขตมหานภากลางมาโดยตลอด จะมากจะน้อยก็อธิบายถึงปัญหาได้ส่วนหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอได้กงจักรมหาประกายกาฬมา หรือว่าความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเขาสองพ่อลูกกับเสวี่ยชูฉิง ก็ถือเป็นเรื่องละเมิดข้อห้ามในข้อตกลงของโลกซ้อนโลกในหลายปีมานี้ ถ้าหากว่ากษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับแสดงท่าที เรื่องราวบางทีอาจจะมีโอกาสพลิกเปลี่ยน
‘เฒ่าหวังไม่ยินยอมลงมือเอง หรือจะทราบความเกี่ยวข้องระหว่างกษัตริย์กระบี่และตระกูลเยี่ยนแล้ว’ หลางชิงคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว “แต่เขาในเมื่อให้ยืมดินซี เช่นนั้นก็หมายความว่าเขากับกษัตริย์ดินก็ไม่ยินดีเห็นกษัตริย์กระบี่เกี่ยวข้องกับตระกูลเยี่ยนมากเกินไป…”
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ก็เห็นคนหนุ่มอาภรณ์ดำที่อยู่ด้านข้างไป๋เทายกมือขึ้น
ประกายกระบี่ปรากฏ วาดผ่านท้องฟ้า จากนั้นก็เบ่งบานออกกลางอากาศ กลายเป็นเงาแสงกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะผนึกตัวกอปรกันเป็นรูปคน
พอเห็นเงาคนนี้ จิตใจของพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและหลางชิงก็อดเคร่งขรึมลงไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอมองดูภาพเงาแสงคนกลางอากาศ เห็นบุรุษวัยกลางคนที่สวมมงกุฎยกสูงและอาภรณ์โบราณ มองไปมีอายุราวๆ สี่สิบปี ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาคมกริบ
คนผู้นี้เหมือนกับกระบี่เบิกฟ้า แต่ไม่เผยประกายคม เพียงแต่ยืนอยู่ที่นั่น ราวกับภูเขาเดี่ยวที่ยอดแทงทะลุเข้าไปในหมู่เมฆ ทำให้คนรู้สึกหวั่นเกรง
บุรุษวัยกลางคนที่น่าเกรงขามผู้นี้ก็คือลูกศิษย์ของราชันพระศุกร์ หนึ่งในสามกษัตริย์ของโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน กษัตริย์กระบี่!
จ้าวผู้ครองภูเขานครหยก บนยอดเขาเป่ยเกาในเขาคุนหลุน เขตมหานภากลาง
เยว่เจิ้นเป่ย กษัตริย์กระบี่!
เงาแสงนี้ไม่ได้ใช้สนทนาโต้ตอบ แต่เป็นข้อความของเยว่เจิ้นเป่ยหลังจากที่ลูกศิษย์ของเขาติดต่อกับเขาซึ่งอยู่ในมิติต่างแดนเมื่อก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้มีแต่พวกไป๋เทาที่เห็นภาพเหมือนนี้ แต่ตอนนี้คนอื่นๆ ล้วนได้เห็นแล้ว
“ความสำเร็จในชีวิตของข้า ล้วนมาจากอาจารย์”
กษัตริย์กระบี่พูดไม่เร็ว แต่ทุกคำแข็งแกร่งมีพลัง ราวกับนำทองกับเหล็กมาปะทะกัน
“ตอนยังมีชีวิตท่านอาจารย์ได้ทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขไว้ ข้าย่อมต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ แม้เฒ่าเจี่ยงกับเฒ่าหยางจะอยู่ต่อหน้า ข้าก็จะทำเช่นนี้ หลายปีมานี้ข้ารักษาข้อตกลงมาโดยตลอด มาวันนี้ถ้าหากว่ามีผู้อื่นทำลายข้อตกลง เช่นนั้นก็อย่าหาว่ากระบี่ในมือข้าไม่ปราณี!”
ถึงจะไม่ทราบว่าเป็นข้อความที่ทิ้งไว้นานเท่าไร แต่ตอนนี้ทุกคนยังรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังอันร้ายกาจที่พุ่งเข้ามาปะทะหน้า
พริบตานี้กษัตริย์กระบี่ที่เดิมทีหนักแน่นไร้คม พลันเผยประกายความคมกล้าสะท้านโลกออกมา จิตกระบี่อันน่าพรั่นพรึงราวกับข้ามผ่านเส้นแบ่งของเวลา จากอดีตมาถึงตอนนี้ ข้ามผ่านเส้นแบ่งของมิติ จากมิติต่างแดนมายังโลกซ้อนโลก แม้แต่จักรพรรดินีกับจักรพรรดิเอกภพสองเซียนจริงแท้ก็ยังจิตใจสั่นสะท้าน
เฒ่าเจี่ยงกับเฒ่าหยางที่เขาพูดก็คือกษัตริย์อีกสองคนของโลกซ้อนโลก!
หากใครกล้าเสนอหน้ามาตอนนี้ คนผู้นั้นจะต้องรับความคมกล้าของกษัตริย์กระบี่ ต่อให้เผชิญหน้ากับกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นหลับ กษัตริย์กระบี่ก็จะชักกระบี่ขึ้นมาสู้
ประมุขหรดีไป๋เทายามนี้มองประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลิน กล่าวเสียงเบาว่า “เลี่ยนพายัพ โปรดถอยไปเถอะ ของของทะเลสีชาดที่หายไปของท่าน วันหน้าภูเขานครหยกของข้าจะช่วยไกล่เกลี่ยดู ตอนนี้หากไม่ไป ก็เป็นการหักหาญน้ำใจในอดีตแล้ว”
เลี่ยนจู่หลินถอนใจ “กษัตริย์กระบี่มีบุญคุณกับข้า เลี่ยนจู่หลินไม่กล้าลืมเลือน ในเมื่อกษัตริย์กระบี่มีคำสั่ง ข้าย่อมต้องทำตาม หวังแค่วันหน้าหากกษัตริย์กระบี่เจอเสวี่ยชูฉิงนั่น จะช่วยพูดให้แก่ทะเลสีชาดของข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี