ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 106

หลังจากที่สองพ่อลูกหัวเราะกันเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บรอยยิ้มลง “ตอนนั้นที่ตระกูลของพวกเราย้ายมายังนภาพิภพ…”

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอเล่าเรื่องที่ตนประมือกับเหยียนซวี่ไปทั้งหมดแล้ว สีหน้าท่าทางของเยี่ยนตี๋ก็อึมครึมขึ้นมา ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงไออาฆาตที่รุนแรงจากดวงตาของเขาอย่างชัดเจน

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เยี่ยนตี๋ก็กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ยังไม่นับว่าปิดฉาก”

เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ คำพูดต่อจากนี้ เขาใช้ปราณส่งกระแสเสียงไปแทน ‘โอสถวิเศษที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บของท่านอาจารย์ปู่ที่คราวก่อนท่านเคยพูดถึง ข้ามีเบาะแสแล้วขอรับ’

เยี่ยนตี๋ยังคงมีสีหน้าเช่นเดิม ทว่าสายตาจดจ่อ ‘สถานการณ์เป็นอย่างไร’

‘อักษรของหนังสือม้วนเล่มนั้นที่ใช้จัดบันทึกเบาะแสของโอสถนั้นช่างเก่าแก่พบได้น้อยยิ่งนัก จะแกะความหมายออกมานับมีความยากอย่างยิ่ง’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวตอบว่า ‘แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ถูกแกะความหมายออกมาแล้ว ซึ่งวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ข้าได้สั่งให้คนไปรวบรวมมาแล้วขอรับ’

‘ขอเพียงแค่รู้หลักพื้นฐานเบื้องต้น เนื้อหาการปรุงโอสถอื่นๆ หลังจากนั้นก็จะแกะความหมายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น’

เยี่ยนตี๋กล่าวว่า ‘นอกจากวรยุทธ์แล้ว เจ้าฝักใฝ่เรียนรู้สิ่งอื่นๆ มาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้มหน้าก้มตาศึกษาอักษรโบราณก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เจ้ามีพรสวรรค์ในด้านนี้ยิ่งนัก และในเวลานี้ก็ได้ใช้มันอีกด้วย’

‘ตั้งใจหน่อยล่ะ หากท่านอาจารย์หายขาดจากอาการบาดเจ็บเดิมได้ ความหวังที่จะสำเร็จในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็จะมีมากขึ้น’

ฝ่ายบิดาพูดพลางมองไปไกล “ตอนนี้ยิ่งลมพัดแรงเท่าไร คลื่นก็จะยิ่งสูงเท่านั้น”

การเปิดสงครามใหญ่ที่แผ่นดินของถังตะวันออกนี้ เป็นทั้งจุดเริ่มต้นอีกทั้งยังเป็นจุดสิ้นสุดเช่นกัน

จุดเริ่มต้นก็คือตั้งแต่สงครามครั้งนี้เป็นต้นไป จะเป็นการจุดชนวนการเปิดศึกขนาดใหญ่ระหว่างนภาพิภพกับอัคคีพิภพ ซึ่งจะส่งผลไปในอาณาบริเวณกว้าง

เมื่อการปะทะกันของสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่อย่างเขากว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ยกระดับขึ้น ก็จะไม่จบอยู่แค่สถานการณ์การต่อสู้ก่อนหน้านี้

นอกจากอาณาจักรถังตะวันออกแล้ว ยังมีเกาะนภาตะวันออก แม้กระทั่งมีเกาะนภาใต้และเกาะนภาตะวันตกอีกด้วย

ในเขตที่เป็นการปกครองของทั้งสองฝ่ายก็จะมีการปะทะกันแบบเต็มรูปแบบที่รุนแรง แม้แต่วายุพิภพที่อยู่นอกเขตของอัคคีพิภพและนภาพิภพก็ได้รับผลกระทบด้วย

และที่ว่าสิ้นสุด ก็คือหลังจากการสู้กันครั้งนี้ที่ถังตะวันออก เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสงครามเกือบทั้งหมดก็จะแน่นอนแล้ว

ท้ายที่สุดมาตรสุริยันวัดสวรรค์ก็จะกลับไปอยู่ที่เขาเรืองรองแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ อาศัยเขตอาคมป้องกัน ใช้ความได้เปรียบทางพื้นที่ของอัคคีพิภพสกัดกั้นการโจมตีไล่ล่าของเขากว่างเฉิงและเมืองทะเลมรกตไว้

ส่วนสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็อดทนอย่างหนัก ไม่รบกวนหวงกวงเลี่ย จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ตะวันเยือน ผู้อาวุโสสูงสุดที่กำลังเข้าฌาน

ทว่าในสนามรบโจมตีไล่ล่านั้น เพื่อที่จะหลีกหนีให้พ้นภัย มาตรสุริยันวัดสวรรค์จึงสูญเสียพลังไปมาก

เมื่อการต่อสู้ระดับสูงตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ ก็จะทำให้พลังการป้องกันในด้านอื่นๆ ของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ถดถอยไปไม่น้อยเช่นกัน

ซึ่งพลังการต่อสู้ในระดับกลางและระดับสูงของทั้งสองฝ่ายก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

กลุ่มกองกำลังของเขากว่างเฉิงจึงชนะอย่างราบคาบ

การปะทะกันครั้งใหญ่ในคราวนี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทน เก็บเขี้ยวและกรงเล็บกลับเท่านั้น

บนยอดเขาเรืองรอง ยอดฝีมือระดับสูงแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์นั่งหันหน้าเข้าหากัน

พานป๋อไท่มองไปยังจรัสแสง “ท่านผู้นำเป็นอย่างไรบ้าง”

จรัสแสงกล่าวตอบว่า “มาตรสุริยันวัดสวรรค์สูญเสียพลังไปมาก ท่านผู้นำเองก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าไม่ถึงกับสาหัสมาก”

พานป๋อไท่เริ่มมีสีหน้าซีดเขียว “เขากว่างเฉิง…เมืองทะเลมรกต…แค้นวันนี้จะต้องชำระคืนเป็นสิบเท่าให้จงได้!”

“แม้ว่าครั้งนี้สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ของเราจะถูกวางแผนทำร้าย เสียเปรียบอย่างยิ่งยวด แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บจนกระทบถึงแก่นแท้ของเรา” ทะยานบูรพากล่าว “ขอเพียงแค่ท่านเจ้าสำนักออกฌานมา พวกเราก็จะไปคิดบัญชีกับเขากว่างเฉิงและเมืองทะเลมรกตทันที!”

จรัสแสงส่ายศีรษะอย่างช้าๆ “ถ้าหากต้องการชิงสิ่งที่เสียไปในคราวนี้คืนกลับมา นั่นง่ายดายยิ่งนัก แต่ถ้าหากจะคิดบัญชีกับเขากว่างเฉิง บัดนี้ยังไม่ควรจะประมาท”

“คิดว่าครั้งนี้หยวนเจิ้งเฟิงคงจะเข้าฌานเพื่อบรรลุระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่เขามีอาการบาดเจ็บเดิมอยู่ ฉะนั้นจึงมีความหวังไม่มาก ถ้าเขาล้มเหลวก็แล้วไป แต่ถ้าเขาทำสำเร็จขึ้นมา กำลังของเขากว่างเฉิงจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ครั้งนี้พวกเราคาดการณ์ผิดไป คงจะหยุดยั้งได้ยากมากแล้ว”

แสงรัตติกาลกล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องทำให้แน่ใจเสียก่อนว่าการทดสอบแห่งจันทราที่จะถึงนี้ จะต้องนำมงกุฎจันทรากลับมาให้ได้!”

“เมื่อมีมงกุฎจันทราแล้ว ก็จะแก้ไขสถานการณ์ของเราในตอนนี้ได้ทันที เมื่อหยวนเจิ้งเฟิงเข้าฌานพวกเราก็จะมีโอกาสอีกครั้ง”

จรัสแสงผงกศีรษะ สีหน้าเคร่งครึมจริงจังเล็กน้อย “สิ่งที่ข้าเป็นกังวลในตอนนี้ก็คือ อีกฝ่ายจะอาศัยโอกาสที่พวกเขามีอำนาจในตอนนี้ กันท่าลูกศิษย์สำนักของเราออกจากการทดสอบแห่งจันทราน่ะสิ”

ตงเซิงจวินเลิกคิ้ว “พวกเขามีสิทธิ์อะไร”

สายตาของจรัสแสงก็ทอดมองมา “หากพวกเขาเกลี้ยกล่อมเขาไร้พรมแดนและหอคลื่นโหมได้ ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า”

ทะยานบูรพาสูดหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง “ท่านเจ้าสำนักเข้าฌาน เป็นเหตุให้พวกเขาเข้ามากดดันได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี