ใบหน้าของคนผู้นี้เรียกได้ว่าองอาจ แต่ว่าท่วงท่ากลับเหมือนไร้เรี่ยวแรง ไร้ความสนใจจนเสียบุคลิกไปหมด ภายใต้อาภรณ์สีม่วงของเขาปรากฏผิวขาวซีด แต่ขอแค่เขาปรากฏตัวตรงหน้า ก็สร้างความหวาดกลัวให้กับคนส่วนใหญ่ในโลกได้แล้ว
เป็นเฉินเฉียนหัว ประมุขทิศบน
เขาเงยหน้ามองมา เห็นเยี่ยนจ้าวเกอแล้วเช่นกัน
ดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเฉินเฉียนหัวพลันเป็นประกายเล็กน้อย เขาเหลือบหางตามองเยี่ยนจ้าวเกอ พิจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
เขาเอ่ยปากกล่าวประโยคแรกตรงๆ ว่า “โลกเบื้องล่างใบนี้แม้ดูธรรมดา แต่กลับมีความหมายนัก มิน่าถึงได้มีคนที่น่าสนใจเช่นท่าน”
“อ้อ?” เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย สังเกตถึงคำพูดในวาจาของเฉินเฉียนหัวที่ทำให้ผู้คนต้องขบคิด “คำกล่าวของประมุขทิศบนทำให้ข้าผู้แซ่เยี่ยนสับสนแล้ว”
เฉินเฉียนหัวยิ้ม “แสร้งเลอะเลือน”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเฉื่อยชา “การกัดกร่อนของนพยมโลก ไม่ว่าเป็นโลกใบไหนก็อาจเจอได้ทั้งสิ้น ถ้าหากต้องกล่าวถึงความพิเศษของโลกแปดพิภพใบนี้ ก็อยู่ที่ราชันพระอาทิตย์และราชันพระจันทร์ล้วนทิ้งร่องรอยไว้ที่นี่กระมัง”
ฝ่ายเฉินเฉียนหัวยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง แล้วส่ายเบาๆ “คนที่ทิ้งร่องรอยไว้ ไม่ได้มีแค่สองคน”
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ถูกต้อง ตอนนี้ยังมีท่านกับจักรพรรดิแพรสองคน”
“คนที่ข้าให้ความสำคัญที่สุดไม่ใช่ราชันพระอาทิตย์ ไม่ใช่ราชันพระจันทร์ และไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น…” เฉินเฉียนหัวกล่าว
นิ้วที่ส่ายไปมาของเขาหยุดลง จากนั้นก็ชี้ที่เยี่ยนจ้าวเกอ “…แต่เป็นท่าน”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างไม่นำพา “ข้าถือว่าท่านชมข้าอยู่ และขอรับไว้ ขอบคุณมาก”
เฉินเฉียนหัวกลับยิ้มขึ้นเพราะความหน้าหนาของเยี่ยนจ้าวเกอ “ท่านน่าสนใจจริงๆ”
“ท่านแบ่งประเภทคนโดยใช้คำว่า ‘น่าสนใจ’ และ ‘ไม่น่าสนใจ’ เป็นมาตรฐานหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอถามกลับ
เฉินเฉียนหัวพูดอย่างเกียจคร้าน “ถ้าไม่อย่างนั้นเล่า ‘ฉลาด’ และ ‘โง่งม’? ‘ไร้เดียงสา’ และ ‘มีประสบการณ์’? ‘มีเมตตา’ และ ‘โหดร้าย’? ตัวอย่างเช่นนี้ตั้งขึ้นได้ไม่มีสิ้นสุด แต่เช่นนั้นแล้วเป็นไร คนฉลาดก็อาจทำเรื่องโง่ๆ คนที่มีเมตตาบางครั้งก็โหดร้ายที่สุด สำหรับข้าแล้ว ความแตกต่างของคนก็คือ มีคนส่วนน้อยที่ทำข้าประหลาดใจ ส่วนคนส่วนใหญ่ไม่มีทางทำได้ตลอดกาล ประหลาดใจก็คือน่าสนใจ ที่เหลือล้วนน่าเบื่อ ไม่มีข้อยกเว้น”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างผ่าเผย “แล้วมีคนเคยบอกท่านหรือไม่ ว่าวิธีการของท่านช่างน่าเบื่อยิ่ง”
“เหอะๆ…” เฉินเฉียนหัวได้ยินก็หัวเราะขึ้น ไม่ตอบแต่กลับถามแทน “ท่านคิดว่าต่อจากนี้จักรพรรดิแพรจะทำอย่างไร เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องแสร้งเลอะเลือนแล้วกระมัง ทุกคนต่างมองออกว่าเขาถูกธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว”
เฉินเฉียนหัวพูดอย่างเกียจคร้าน “หรืออาจบอกว่า เขาเสียสติแล้ว”
“บางทีจักรพรรรดิแพรอาจมีสิทธิ์ถูกธาตุไฟเข้าแทรกจริงๆ แต่ว่าจากการที่ข้าได้พูดคุยกับเขา เขายังไม่ได้เสียสติ” เยี่ยนจ้าวเกอใช้น้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน “จักรพรรดิแพรเข้าใจตัวเองดี สมควรทำอย่างไร อันดับแรกขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง นอกจากนี้ ในสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิก็ยังมีกษัตริย์เร้นลับ จักรพรรดินี ไปจนถึงจักรพรรดิเอกภพที่อยู่บนโลกซ้อนโลก”
“ไม่ใช่เสียสติ แต่ว่ามีหลายบุคลิกกระมัง” เฉินเฉียนหัวหัวเราะเบาๆ เพราะกับยื่นสองมือออกมา แล้วแยกออกไปสองด้าน
ตอนแรกเขายกมือซ้ายขึ้น “คนหนึ่งเป็นมีรักหรือเรียกว่ามากรัก” จากนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้น “คนหนึ่งคือสะบั้นรักหรือเรียกว่าไร้รัก”
เฉินเฉียนหัวประสานสองมือไว้ตรงกลาง “ตอนนี้กำลังสู้กันและกันอยู่”
ขณะที่เขากำลังพูดกันอยู่ ในเหวลึกของปฐพีพิภพด้านล่างก็เกิดการสั่นไหว สะเทือนขยายไปทั่วปฐพีพพิภพ
ประกายโลหิตหลายสายกลายเป็นลวดลายอาคมที่น่ากลัว คล้ายกับกำลังจะฉีกกระชากฟ้าดิน และขยายวงออกไปรอบๆ
หมอกสีดำกว้างใหญ่กระจายไปทั่วทุกที่ ถึงกับเริ่มกลืนกินโลกที่อยู่ด้านนอกปฐพีพิภพ
เหตุการณ์เช่นนี้เป็นฝันร้ายของโลกแปดพิภพ และจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงอย่างไม่ต้องสงสัย
นพยมโลกที่น่าสะพรึงกำลังจะมายังโลกแปดพิภพอีกครั้ง
เมื่อครู่เฉินเฉียนหัวไปถึงก้นเหวของเหวลึกในปฐพีพิภพ ก็เพื่อทำลายผนึกซึ่งเหลืออยู่ด้านล่าง ไม่เพียงเท่านั้น การกระทำของเขายังทำให้ประตูแห่งนพยมโลกที่อยู่ด้านล่างปฐพีพิภพถูกฉีกออกมากกว่าเดิม
การมาถึงของนพยมโลกในครั้งนี้มีสภาวะเหนือกว่าครั้งก่อนๆ ควันมารที่น่าพรั่นพรึงไม่เพียงแผ่ขยายไปทั่วปฐพีพิภพ ยังกลืนกินโลกที่อยู่รอบๆ ไปพร้อมกัน ตอนนี้โลกแปดพิภพกำลังจะถูกนพยมโลกเปลี่ยนเป็นพวกเดียวกันในชั่วพริบตา
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ได้ก้มหน้ามองเหวลึกด้านล่าง เขาพลันก้าวเท้าออกมาก้าวหนึ่ง บรรลุถึงด้านหน้าเฉินเฉียนหัว
“เช่นนี้ประหลาดใจหรือไม่”
ว่าแล้วเขาก็ฟาดฝ่ามือลงอย่างหักโหม!
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี