จักรพรรดิแพรน้ำเสียงผ่อนคลาย แต่ทำให้จักรพรรดิไร้จำกัดต้องเหลือบมองเขาอีกครั้ง
ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอหยุดวิชาอย่างแช่มช้า แสงดาวที่จุดลมปราณทั่วร่างสาดออกมา ก่อนจะค่อยๆ หายเข้าไปในร่าง
เขาลืมตามองจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าผู้แซ่เยี่ยนวู่วาม ทำให้ใต้เท้าสองท่านหัวเราะเยาะแล้ว”
จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิไร้จำกัดต่างกล่าว “หาเป็นไรไม่”
เมิ่งหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้มขึ้นด้านข้าง “ยินดีกับศิษย์พี่เยี่ยนที่พลังฝึกปรือก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น”
“ศิษย์น้องเมิ่งเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอลุกขึ้น มองตำหนักมารเปลวเพลิงตรงหน้าพลางกล่าวว่า “ที่นี่ไม่มีคุณค่าอะไรอีกแล้ว”
ทุกคนออกจากตำหนักที่เกิดจากเปลวเพลิง จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าวอย่างใคร่ครวญว่า “สหายน้อยเฟิงเข้าไปในนพยมโลกลึกขึ้นอีกเพราะถูกราชันพระราหูนำไป ขณะเดียวกันก็ยากจะทิ้งร่องรอยให้แก่พวกเรา หากพวกเราไปต่ออาจจะไม่ได้ผลลัพธ์อะไร ความเสี่ยงรังแต่จะเพิ่มขึ้น”
ในนพยมโลกสุดท้ายแล้วก็มีจอมมารอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
จักรพรรดิไร้จำกัดมองเยี่ยนจ้าวเกอและเมิ่งหว่าน “ความหมายของข้าก็คือ กลับโลกซ้อนโลกเพื่อแจ้งสามกษัตริย์ ขอให้พวกเขาตัดสินใจและปรึกษากัน ถึงเวลานั้นถ้าหากต้องเข้ามาค้นหาในนพยมโลก เมื่อมีสามกษัตริย์นำทาง พวกเราก็สามารถเข้าไปในนพยมโลกได้ลึกกว่าเดิม”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณจักรพรรดิไร้จำกัดที่เห็นใจข้าผู้แซ่เยี่ยน ข้าไม่ใช่คนไม่รู้จักหนักเบา การเข้าไปในนพยมดลกโดยไร้ซึ่งเบาะแสใดๆ ไม่แตกต่างจากการส่งแกะเข้าปากเสือ ข้าถึงแม้จะเป็นห่วงภรรยา แต่ตอนนี้ก็ยังคิดหาวิธีไม่ออก คำกล่าวของท่านถือว่าถูกต้องตามหลักเหตุผล ข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่มีอะไรต้องโต้แย้ง”
เมิ่งหว่านที่อยู่ด้านข้างก็กล่าวขึ้น “รบกวนท่านให้มาที่นี่ก็ไม่สมควรอยู่แล้ว ทั้งหมดให้ท่านกับท่านพ่อตัดสินใจ ผู้เยาว์ย่อมปฏิบัติตาม”
จักรพรรดิไร้จำกัดว่า “สหายน้อยฟู่เกรงใจแล้ว ครั้งนี้ที่เข้ามาในนพยมโลกได้สิ่งตอบแทนใหญ่หลวงยิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะการเดินทางในครั้งนี้ คงไม่ทราบว่าราชันพระราหูถึงกับทำเรื่องใหญ่ปานนี้”
เขามองจักรพรรดิแพร อีกฝ่ายยิ้ม “ถึงจะน่าเสียดาย แต่ว่าเรื่องราวยากจะเป็นไปดั่งหวังทุกครั้ง คงจะเป็นลิขิตฟ้าแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิไร้จำกัดได้ยิน สายตาก็เป็นประกายเล็กน้อย มองสลับไปมาระหว่างจักรพรรดิแพรและเมิ่งหว่าน
พวกเขาไม่รั้งอยู่ต่ออีก ออกจากตำหนักมารเปลวเพลิง จากนั้นก็กลับตามเส้นทางเดิม
ขณะเดินทาง เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตทิศทางของจักรพรรดิแพรไปด้วย แต่ว่ามองจากตอนนี้ อีกฝ่ายเหมือนเป็นปรกติทุกอย่าง
สิ่งที่ผิดปกติมาจากโลกด้านนอก!
ในตอนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับทางเดิม เดินทางอยู่บนเส้นทางที่จะผละจากนพยมโลก ขณะไปถึงกลางทางก็พลันมีลางสังหรณ์ที่รุนแรงและไม่ชอบมาพากลปรากฏขึ้นในใจของทุกคนอย่างฉับพลัน!
จิตสังหารซ่อนเร้นอยู่ในความมืดไร้สิ้นสุดทุกทิศ
ฉับพลันนั้น กระแสคลื่นยิ่งใหญ่ม้วนพัด พุ่งมาใส่พวกเขา!
สภาวะที่น่าสะพรึงนั้นถึงกับเหนือกว่ายอดฝีมือเซียนจริงแท้ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน
ความคิดแรกที่เกิดในสมองของพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ ถืงแม้ว่าจะพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังไปสะกิดความสนใจของจอมมารที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในนพยมโลก
แต่ว่าต่อจากนั้นกลับมีเสียงที่ยิ่งใหญ่สะท้อนขึ้นในอากาศ “ผู้สืบทอดของอิ่นเทียนเซี่ยอยู่ที่ใด ข้าสัมผัสกลิ่นอายของสิบสองวิชาประกายกาฬดั้งเดิมซึ่งมาจากอาวุธเซียนที่อิ่นเทียนเซี่ยได้ทิ้งเอาไว้ชิ้นนั้นได้อย่างชัดเจน”
“กษัตริย์จากโถงเซียน” สีหน้าของจักรพรรดิไร้จำกัดพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด “ไม่ต่ำกว่าหนึ่ง!”
เยี่ยนจ้าวเกอม่านตาค่อยๆ หดตัว ‘กษัตริย์จากโถงเซียนไฉนจึงมาปรากฏตัวที่นพยมโลก พบข้ากับกงจักรมหาประกายกาฬโดยบังเอิญ หรือว่า…’
ความคิดทำงานดุจสายฟ้าแลบ เขาพลันหันไปมองจักรพรรดิ
กลับเห็นจักรพรรดิแพรตีสีหน้าไม่หวั่นไหว กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “กษัตริย์โถงเซียนแม้นแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังสู้สามกษัตริย์ของสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราไม่ได้ ข้าไม่อาจยืนยันกับศิษย์พี่ลี่ว่าจะชนะได้ แต่ก็น่าจะสู้ได้อยู่ พวกเราไม่ต้องสู้ตัดสิน ใช้ภูมิประเทศของนพยมโลกมาสลัดหลุดจากพวกเขา”
จักรพรรดิไร้จำกัดมองจักรพรรดิแพรอย่างล้ำลึก จากนั้นก็กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว “ไปก่อนค่อยว่ากล่าว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี