เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งพาเมิ่งหว่านถอย ทางหนึ่งหันไปมองดูสถานการณ์การต่อสู้ที่กำลังดุเดือด
ยอดฝีมือจากโถงเซียนและจอมมารจากนพยมโลก ต่อสู้กับจักรพรรดิไร้จำกัดและจักพรรดริแพรเป็นพัลวัน ไม่อาจบอกว่าใครร่วมมือกับใคร ต่างฝ่ายต่างรุกและป้องกัน
จอมมารนพยมโลกตนนั้นมีร่างใหญ่มหึมาดังหินผา มีปีกสี่ปีก ขาสั้นป้อมขนาดใหญ่โตหกข้าง ร่างกายเหมือนกับถุงผ้าใบใหญ่ ไม่มีหน้าตา
มองดูจากรูปลักษณ์ภายนอกกลับเหมือนตี้หงส์ สัตว์ประหลาดในตำนาน เพียงแต่มันไม่ได้มีรูปร่างเหมือนถุงเก็บไข่แดงและมีเปลวเพลิงพันรอบเหมือนกับตี้หง มันหน้ามีร่างเป็นสีดำ รอบๆ ตัวห้อมล้อมด้วยเพลิงทมิฬสีดำอมม่วง
มองไปเหมือนกับตี้หงร่วงหล่นสู่วิถีมาร กลายเป็นมารอย่างไรอย่างนั้น
จอมมารตนนี้เดิมตอนแรกมาเพียงตัวเดียว ทว่าในเพลิงมารสีม่วงอมดำที่อยู่รอบๆ ตัวมันกลับมีฟองอากาศมากมายผุดขึ้นมา
ฟองอากาศขนาดยักษ์นั้นส่งเสียเปรี๊ยะๆ แสงสายฟ้ากะพริบอยู่บนผิว เห็นได้ชัดว่าเกิดจากสายฟ้า
ฟองอากาศล่องลอย ดูเปราะบางไม่แข็งแรง
แต่ว่าในตอนที่ฟองอากาศที่เหมือนกับแสงสายฟ้านั้นแหลกสลาย มันก็ขยายออก กอปรกันเป็นมิติต่างแดนที่เป็นเอกเทศแห่งหนึ่ง จากนั้นมิติก็แหลกสลาย กลายเป็นคลื่นคลั่งที่น่ากลัวกว่าเดิม
หนึ่งสายฟ้าเหมือนกับโลกหนึ่งใบ
มิติพังทลาย ฟ้าดินรอบๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง
จอมมารที่ดูเหมือนกับตี้หงตนนี้ไม่ได้ฝืนหักหาญกับพวกจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด แต่อาศัยความน่าอัศจรรย์ของสายฟ้า คอยลอบโจมตีอยู่ด้านข้าง
ในสถานการณ์ที่จักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด กับสองกษัตริย์จากโถงเซียนกำลังสะกดกัน กลับทำอะไรจอมมารตนนั้นไม่ได้ชั่วขณะ
‘เป็นสายฟ้าอนัตตาเชียวหรือนี่’ เยี่ยนจ้าวเกอมองดูดวงสายฟ้าขนาดยักษ์ที่เหมือนกับฟองอากาศ “ตี้หงเดิมทีก็เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงของมิติอยู่แล้ว เมื่อได้หลอมเปลี่ยนสายฟ้าอนัตตา ก็เหมือนกับพยัคฆ์ติดปีก”
พวกจักรพรรดิแพรคิ้วขมวด ขณะมองเหตุการณ์นี้ก็เริ่มอดกลั้นไม่อยู่
ถึงอย่างไรทุกคนก็สู้กับนพยมโลก หากเวลาผ่านไปนานเข้า จะดึงดูดยอดฝีมือระดับสุดยอดของนพยมโลกมาโจมตีมากกว่าเดิม หรืออาจจะถึงขึ้นดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิถีมารที่มีระดับสูงกว่ามาด้วย
ถูกจอมมารตี้หงตนนี้คอยรบกวนเหมือนกับเงาตามตัว และพร้อมเผยตำแหน่งของพวกเขาออกมาทุกเมื่อ
จอมมารที่ลักษณะเหมือนตี้หงตนนี้เห็นได้ชัดว่ากลอกกลิ้งยิ่ง มันมีสติปัญหาและไม่ได้ใจร้อน กลับต่อสู้เหมือนคนที่มีความคิด
ในตอนที่ทุกคนตั้งใจจะจัดการจอมารตนนี้ บริเวณที่อยู่ไกลออกไปซึ่งมีปราณมารพาดขวางกันพลันแว่วเสียงดังมา
ธารอัคคีสีแดงสายหนึ่งผ่าอากาศออกมา ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน
เยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิไร้จำกัดเห็นดังนั้นก็งงงันเล็กน้อย
‘ทวนพระอังคาร?’
ทะเลเพลิงลุกโชนขจัดปราณมารสีดำสนิทรอบๆ ตรงกลางทะเลเพลิงปรากฏเทพอัคคีเหยียบมังกรเพลิงสองตัว เป็นร่างแปลงของทวนพระอังคารนั่นเอง
องค์เทพที่ถูกเพลิงครอบคลุม พอเห็นจอมมารตี้หงกลับไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมาย แต่พอเห็นกษัตริย์จากโถงเซียนสองคนก็เกิดความฉงนขึ้นมา “คนจากเต๋านอกรีตหรือ”
หงส์อมตะน้ำแข็งตัวนั้นพูดด้วยภาษามนุษย์ “ทวนพระอังคารหรือนี่ ถึงกับมาเจอกันในนพยมโลกแห่งนี้ วันนี้พวกเราไม่ได้มาเสียเที่ยวแล้ว!”
มันกระพือปีก สลัดหลุดจากพวกเยี่ยนจ้าวเกอ พุ่งเข้าหาทวนพระอังคารโดยตรง
ทวนพระอังคารถึงแม้จะประหลาดใจ แต่ก็ไม่เกรงกลัว พัดเพลิงโหมไร้สิ้นสุดขึ้นมา ปะทะกับน้ำแข็งเย็นเยียบนั้น สองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด
ด้านในรัศมีหมื่นลี้ของผนึกน้ำแข็งซึ่งอยู่ระหว่างฟ้าดินยังคงมีแสงเพลิงกะพริบตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่ง ถึงแม้ยอดฝีมือจากโถงเซียนซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัดจะลดลงไปคนหนึ่ง แต่จอมมารตี้หงที่เจ้าเล่ห์ตัวนั้นกลับเริ่มเล็งเป้าหมายมาที่พวกเขา เกิดเป็นสภาวะร่วมมือกับยอดฝีมือจากโถงเซียนอีกคนอย่างรางๆ
กษัตริย์ถึงอย่างไรก็เป็นกษัตริย์ ต่อให้จะมาจากโถงเซียนก็มีพลังแข็งแกร่งสุดขีด
ไม่ว่าจะเป็นทวนพระอังคาร จักรพรรดิแพร จักรพรรดิไร้จำกัด หรือจอมมารตี้หงตนนั้น ก็ไม่มีผู้ใดที่ไม่ใช่ยอดฝีมือระดับสุดยอด แต่การต่อสู้กับกษัตริย์โถงเซียนหนึ่งต่อหนึ่งก็ไม่ได้ง่ายเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี