ร่างอันสง่างามของจักรพรรดิแพรงามฟู่อวิ๋นฉือเดี๋ยวหาย เดี๋ยวปรากฏในปราณสีม่วงยิ่งใหญ่
เขาใช้ร่างกาลอวากาศกำเนิด คล้ายจริงคล้ายปลอม สามารถเคลื่อนย้ายมิติ สะดวกสะบายเหลือประมาณ
ขณะมองภาพนี้ เมิ่งหว่านกลับมีความรู้สึกสงบนิ่ง นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวต่อจากคำพูดที่เมื่อครู่ยักล่าวไม่จบว่า “ด้วยความเข้าใจที่ข้ามีต่อศิษย์พี่เฟิง นางชอบอะไรอย่าเพิ่งไปพูดถึง แต่นางจะต้องไม่ชอบให้ท่านแบกรับความเสี่ยงแทนนางแน่”
“ตัวข้าถึงแม้จะชอบเสี่ยง แต่ไม่มีทางทำเรื่องอย่างการหาที่ตาย ในเมื่อทำแล้วต้องมีความมั่นใจ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน…” เยี่ยนจ้าวเกอมองจักรพรรดิแพรงามที่ปรากฏตัวในทะเลเมฆปราณม่วง “…อืม พอประมาณแล้วกระมัง”
เขามองจักรพรรดิแพร จากนั้นก็มองสนามรบที่อยู่ไกลออกไป “สามารถรอดมาพบจักรพรรดิแพรได้อีกครั้ง ข้าผู้โชคดีไม่หยอก ไม่รู้เหมือนกันว่าจักรพรรดิไร้จำกัดเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
จักรพรรดิแพรตอนนี้มีกลิ่นอายอ่อนแออยู่บ้าง แต่ว่าสีหน้าเป็นปกรติ บนใบหน้ายังประทับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่หลายส่วน ราวกับว่าไม่ได้พบพานสงครามใหญ่เมื่อครู่
พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับเมิ่งหว่าน เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สถานการณ์ปั่นป่วน ต่างฝ่ายต่างสะกดกันเอง วิกฤตการณ์น้อยลงมาก ในเมื่อเจ้ารอดมาได้แล้ว ศิษย์พี่ลี่ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กับคนจากโถงเซียนที่นั่นอีก ขอแค่ระวังตัวเล็กน้อย ก็มีโอกาสถอยแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้ว “คนที่มีปัญหาคือทวนพระอังคาร?”
ถึงจะไถ่ถาม แต่น้ำเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอแน่ใจยิ่ง
ฟังจากคำกล่าวของกษัตริย์โถงเซียนที่แปลงร่างเป็นหงส์อมตะน้ำแข็งผู้นั้นแล้ว โถงเซียนคล้ายต้องการจับตัวทวนพระอังคารด้วย สาเหตุไม่ชัดเจน แต่เยี่ยนจ้าวเกอเดาว่าสมควรเกี่ยวข้องกับราชันพระอังคาร
ตอนนี้เพราะปล่อยให้เยี่ยนจ้าวเกอกับกงจักรมหาประกายกาฬหลุดรอดออกมาได้ ความสนใจของพวกเขาจึงอยู่ที่ทวนพระอังคาร
จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดกลับถูกละทิ้ง คู่ต่อสู้ที่จำเป็นต้องระมัดระวังก็คือเหล่ามารในนพยมโลก
ทวนพระอังคารถูกกษัตริย์จากโถงเซียนหมายหัว ใกล้ๆ ยังมีจอมมารแห่งนพยมโลกที่ยากจะแยกแยะว่าเป็นมิตรหรือศัตรูคอยรบกวน ไม่ใช่แค่ความยุ่งยากเท่านั้น แต่หากไม่ระวังเพียงนิดเดียว ต้องสิ้นท่าในนพยมโลกแน่
“ทวนพระอังคารท้าสู้กับข้าอีกครั้ง หลังจากเจอตัวสหายน้อยเฟิง ค่อยออกจากนพยมโลกไปสู้กับเขา”
จักรพรรดิแพรตอบอย่างเรียบเฉย “ผู้ใดจะคาดคิดว่าโถงเซียนพาลสอดมือเข้ามา กลายเป็นสถานาการณ์ในตอนนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอเว้นครู่หนึ่งค่อยเอ่ยว่า “ในตอนนั้นเป็นเพราะทวนพระอังคาร ข้ากับฟู่ถิงบุตรีของท่านจึงไปอยู่ในโถงเซียน ทำให้บุตรีของท่านประสบความลำบาก สมควรไม่ได้ตั้งใจ”
จักรพรรดิแพรยิ้ม “ข้าเข้าใจดี เพียงแต่ก็ยากที่จะไม่พอใจ กระนั้นก็หวังให้เขาปลอดภัย ไม่ว่าบุญคุณความแค้นใด ทุกคนสุดท้ายก็มาจากสำนักเต๋าสายหลักเหมือนกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาอย่างสงบนิ่ง ไม่ได้กล่าววาจา
เมิ่งหว่านจิตใจบังเกิดคามเย็นเยียบ บิดาที่เดิมทีไม่คุ้นเคย ตอนนี้ยิ่งแปลกหน้ามากกว่าเดิม
นางไม่ทราบถึงบุญคุณความแค้นระหว่างจักรพรรดิแพรและทวนพระอังคารมากนัก เพียงแต่พอจะรู้คร่าวๆ จากตอนที่จักรพรรดิไร้จำกัด จักรพรรดิแพร และเยี่ยนจ้าวเกอสนทนากัน
ทว่าตามที่เยี่ยนจ้าวเกอบอกนางก่อนหน้า สภาพที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิแพรในตอนนี้ ด้วยจิตใจที่ชัดแจ้งของนาง ก็เข้าใจถึงความจริงของเรื่องราวได้ไม่ยาก
การต่อสู้ในวันนี้ คนที่ถูกเล่นงานเป็นอันดับแรกไม่ใช่เยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ใช่นาง แต่เป็นทวนพระอังคาร!
หากเป็นในอดีต ตามปกติแล้วจักรพรรดิแพรย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนี้ แต่เขาในตอนนี้อยู่ในสภาพที่จิตใจไม่ปกติสุดขีด ทำให้แม้แต่นิสัยของเขาก็ยังต่างกันไปด้วย
จักรพรรดิแพรในตอนนี้มีบุคลิกอยู่สองบุคลิก
สำหรับทวนพระอังคาร ด้านที่ใช้อารมณ์ของเขาจึงโกรธเกลียดเคียดแค้นทวนพระอังคารเพราะเรื่องของฟู่ถิงในตอนนั้น แต่เขาที่ใช้อารมณ์ก็มีความทะนงตนและถือตัว แม้จะต้องการคิดบัญชีกับทวนพระอังคาร ก็ต้องการตัดสินกันอย่างตรงไปตรงมา
สำหรับด้านที่ไร้รักสะบั้นน้ำใจของเขา ทวนพระอังคารเป็นภัยร้ายอย่างหนึ่ง การกำจัดทิ้งเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทว่าราชันพระอังคารไปอยู่ที่ไหนไม่ทราบ ไม่ว่าจะกำจัดทวนพระอังคารได้หรือไม่ ล้วนก่อให้เกิดภัยแฝงเร้นและความเสียเปรียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี