จักรพรรดิแพรก้าวถอยหลัง ไม่อาจสะกดมหาพุทธะสีดำสนิทซึ่งเป็นร่างแปลงของเยี่ยนจ้าวเกอได้อีกต่อไป
เขาคิ้วขมวด บนใบหน้ามีแสงสีดำและสีขาวลอยสลับกัน พริบตาเดียวก็เปลี่ยนแปลงแล้วหลายครั้ง เกิดขึ้นไม่หยุด
วิญญาณที่ตอนแรกไม่มั่นคง ตอนนี้เหมือนกับกำลังจะถูกฉีกทึ้ง
สายฟ้าทันใจระเบิดขึ้นในก้นบึ้งจิตใจ กระตุ้นจิตมารของตัวเอง
ครั้งนี้พลังฝึกปรือไม่ได้สำคัญอีก ต้องอาศัยจิตใจของตัวเองในการสยบมารภายใน
ปัญหาของจักรพรรดิแพรในตอนนี้เกิดจากการถูกธาตุไฟเข้าแทรก ตอนนี้จึงเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิง แม้จะเป็นเขาที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนมาแล้วหลายปี ในตอนนี้ก็ยังยากเย็นยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ท่านระวังหน่อยจะดีกว่า ที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นนพยมโลก และมารจิตก็คงอยู่มาโดยตลอด”
‘มารจิต’ ที่เขาพูดถึงในที่นี้ ไม่ใช่จอมยุทธ์ฝึกฝนมารภายในของตัวเอง แต่ว่าเป็นหนึ่งในหกสุดยอดมาร สิบสองมารเทพสวรรค์ หนึ่งในมารที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล เป็นจอมมารที่เกิดขึ้นมาเองและคงอยู่ตลอดมา ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่อาจทำลายได้โดยสิ้นเชิง ขอแค่โลกยังมีสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจคงอยู่ ก็มีโอกาสที่มารจิตจะได้รับการหล่อเลี้ยงและเกิดใหม่
ถ้ามองจากจุดนี้จุดเดียว มันน่ากลัวและรับมือยากยิ่งกว่าหกบรรพมาร เป็นสิ่งที่ได้แต่ต้องสะกดไว้ แต่กลับไม่อาจทำลายให้หมดสิ้น นอกเสียจากว่าทุกสิ่งจะสูญสลาย ไม่อย่างนั้นมารจิตไม่อาจตาย
มารจิตในตอนนี้อยู่ในนพยมโลกหรือไม่ ไม่มีผู้ใดทราบ แต่ถ้าหากมันอยู่ในนพยมโลก เช่นนั้นด้วยร่างเซียนจริงแท้ของจักรพรรดิแพรที่ถูกธาตุไฟเข้าแทรก มารด้านในสร้างความวุ่นวาย ก็อาจมีโอกาสสะกิดความสนใจของต้นกำเนิดแห่งมารภายในทั้งมวลในใต้หล้าตนนี้ได้
จักรพรรดิแพรจิตใจไม่มั่นคง มักทำอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมาย แตกต่างจากตอนเป็นปกติ แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์หรือเป็นด้านไร้รักสะบั้นน้ำใจของเขา ต่างไม่อยากจะเห็นจอมมารตนนั้นมาปรากฏตัวเบื้องหน้า
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ลงมืออีกแล้ว
จักรพรรดิแพรสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง แขนเสื้อกางออก ธงใหญ่ผืนหนึ่งปรากฏขึ้น
ธงผืนนั้นมีปราณแรกเริ่มต้นกำเนิดเป็นด้ามธง กาลอวกาศกำเนิดเป็นผืนธงไร้รูปร่าง รอบๆ ธงมีกระแสเมฆสีม่วงลอยวน รูปไท่จี๋สีขาวดำซึ่งเป็นหยินหยางหมุนติ้วอยู่บนนั้น
ธงใหญ่กางออก พลังยิ่งใหญ่สะท้อนออกมา แทบจะกวนคนเขตแดนตรงหน้าให้กลับคืนสู่ก่อนต้นกำเนิด
สภาวะที่ยิ่งใหญ่และงดงามเหมือนกับความแตกต่างระหว่างแดนเซียนกับโลกมนุษย์ ทำให้คนต้องเงยหน้าชมเชยอย่างเลื่อมใส ไม่อาจแตะต้องหรือเข้าใกล้
แม้จะเป็นราชันแห่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา ก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับมันได้
ธงพระพฤหัสบดีเป็นธงเหมือนกัน กระนั้นแม้จิตแห่งพลังบนพื้นฐานจะไม่ด้อยกว่า แต่ว่าระดับคุณสมบัติของตัวอาวุธกลับด้อยกว่าขั้นหนึ่ง และขั้นหนึ่งที่ว่านี้ก็เหมือนกับร่องน้ำธรรมชาติที่ไม่อาจข้ามผ่าน
นี่เป็นอาวุธเซียนของจักรพรรดิแพร ธงจตุกำเนิด!
ในตอนที่สู้กับทวนพระอังคาร จักรพรรดิแพรตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สู้คู่ต่อสู้ที่ตะลุยในใต้หล้ามาหลายพันปีก่อนไม่ได้ ต่อมาเพราะมีธงจตุกำเนิดในมือ จึงค่อยพลิกจากแพ้เป็นชนะ สุดท้ายล้มทวนพระอังคารได้ ได้ชัยในการประชันครั้งนั้น
ในตอนนี้ ธงใหญ่กางออก ครอบคลุมฟ้าดินบริเวณหนึ่ง จักรพรรดิแพรอยู่ใต้ธง
เขานั่งหลับตาทำสมาธิ สงบจิตใจของตัวเอง สะกดมารภายใน
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็หยุดความคิดไล่ตามโจมตี สลายปราณมารที่รวมกันทิ้งไป เพราะเมื่อมีธงจตุกำเนิดคอยคุ้มครอง เขาก็ทำอะไรจักรพรรดิแพรไม่ได้
จักรพรรดิแพรตอนนี้แม้ถูกธาตุไฟเข้าแทรก แต่ว่าถ้าหากเขาไม่สนใจอันตรายจากการมาถึงของมารจิต อดกลั้นต่อการถูกธาตุเข้าแทรกและเสี่ยงชีวิต ก็ยังคงมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงอยู่ดี
ตอนนี้กดดันไม่ให้จักรพรรดิแพรลงมือต่อได้แล้ว เป้าหมายแรกของตัวเองถือว่าสำเร็จลุล่วง
มหาพุทธะสีดำสนิทหายไปกลางเขตมารนพยมโลก ปราณมากมายหลายสายกระจายออกไป กลายเป็นร่างของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
เขายังไม่ได้ผ่อนคลายจิตใจ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาโล่งใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี