ในหอหนังสือของวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีวิธีหลอมเปลี่ยนน้ำวิเศษผนึกมาร แต่จนปัญญาที่ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีวัตถุดิบหลัก ดั่งคำพูดสตรีที่ดีไร้ข้าวก็ไม่อาจหุง ดังนั้นจึงไม่เคยคิดถึงของสิ่งนี้
ต่อให้ไม่ใช้มันรับมือกับมารร้ายจากนพยมโลก น้ำทว่าก็ยังคงเป็นวัตถุดิบสำหรับหลอมอาวุธที่ยอดเยี่ยมได้อยู่แล้ว
มันเอามาใช้หลอมสร้างอาวุธเซียนได้เหมือนกับผ้าหยกสหัส
ถ้าหากใช้สู้กับมารได้เท่านั้น ก็ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรนัก
สรรพคุณไม่ได้มีเพียงหนึ่ง และทุกๆ สรรพคุณก็เรียกได้ว่าล้ำเลิศ คุณค่าของมันจึงเพิ่มระดับขึ้นเป็นเส้นตรง
โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอพอใจก็คือ น้ำวิเศษผนึกมารหายากเหลือเกิน ขวดโหลตรงหน้าแม้ดูมีปริมาณไม่มาก แต่ความจริงนับว่าเยอะปานมหาสมุทรแล้ว
“ขอบคุณผู้อาวุโสฉู่” เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่เกรงใจ เก็บขวดโหลผลึกแก้ว จากนั้นก็ประสานมือให้แก่ฉู่หลีหลี “เพียงแต่ข้าผู้แซ่เยี่ยนไร้ความสามารถ มักจะเถลไถล ถ้าหากว่ามีการตอบกลับ อาจส่งกลับไม่ทันเวลา ถึงตอนนั้นต้องไหว้วานคนอื่น ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสฉู่จะว่าอะไรหรือไม่”
ฉู่หลีหลีคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ถ้าหากเจ้าเป็นคนจัดการย่อมประเสริฐสุด แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็ให้พวกพี่ใหญ่เยว่ตัดสินใจแล้วกัน”
“ตามแต่ผู้อาวุโสจะฝากฝัง” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ
การสนทนาต่อจากนั้นผ่อนคลายลงมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นการถกกันในด้านวิชาเต๋า
ฉู่หลีหลีได้ผลักเปิดประตูเซียน ไม่ต้องพูดถึงประสบการณ์
แต่ว่าในตอนที่คุยกัน นางก็ค้นพบอย่างแตกตื่นสงสัยว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ มีความรู้มากมาย ดูไม่ธรรมดา สุดที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปจะเทียบเคียงได้
คนทั้งสองคุยกันไปคุยกันมา สุดท้ายกลับเริ่มสัพยอกเกาฉิง ทำเอาเกาฉิงขุ่นเคืองจนกระทืบเท้า
เมื่อบทสนทนาจบลง ฉู่หลีหลีก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้ดีใจจริงๆ แต่ก็ทำพวกเจ้าเสียเวลามากไปแล้ว ฉิงเอ๋อร์น้อยกลับไปพร้อมอาจารย์อาของเจ้าเถอะ ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งมามรกตท่องฟ้าเป็นครั้งแรก”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็บอกลา เกาฉิงยังกล่าวอีกว่า “หลังจากข้ากลับเขาแหนเขียวแล้ว จะมาคุยกับแม่เฒ่าอีก”
“ไปเถอะๆ” ฉู่หลีหลีโบกมือให้พวกเขา
รอจนสองคนออกจากตัวเรือน ฉู่หลีหลีก็ถอนใจ มองท้องฟ้าด้านบนอย่างเหม่อลอย ใบหน้าฉายแววโดดเดี่ยว
เฝยเฝยที่เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวน้อยกระโดดขึ้นหัวไหล่ของนาง หางปุกปุยปัดแก้มนางเบาๆ “หลีหลี อย่าเศร้าไปเลย กษัตริย์ดาราจะต้องไม่เป็นไรแน่ เมื่อได้รับข้อความจากท่าน ก็คงจะตอบกลับท่านเอง”
“ผิงผิง ข้าจะต้องกลับไปพบอาจารย์ให้ได้” สายตาที่เลื่อนลอยของฉู่หลีหลีเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ นางกล่างย้ำชัดทุกคำ
…
เยี่ยนจ้าวเกอออกจากหุบเขานาวาสมัยพร้อมกับเกาฉิง จากนั้นก็กลับเขาแหนเขียวบนดินแดนสุขี
ระหว่างทาง เขาหันไปมองเขาฟ้าไพศาลอันเป็นที่อยู่ของหุบเขานาวาสมัย
“อาจารย์อาเล็ก เป็นอะไรไปหรือ” เกาฉิงเห็นการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ จึงกล่าวถามอย่างสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม พลางส่ายหน้า “ไม่มีอะไร พวกเราไปเถอะ”
เกาฉิงแม้ว่าจะค่อนข้างสนิทสนมกับฉู่หลีหลี แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉู่หลีหลีกันแน่ เหตุใดถึงต้องออกจากโลกซ้อนโลก มาแอบซ่อนตัวอยู่ในมรกตท่องฟ้า
ถึงขั้นที่ว่ายอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของมรกตท่องฟ้าก็ยังรู้สึกสงสัย คาดว่าพวกเขาเองก็จับตาดูฉู่หลีหลีเป็นระยะเวลานานเช่นกัน ต่อให้ปัจจุบันก็ยังไม่ได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง
เหมือนที่มีคนลองหยั่งเชิงเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งมาจากโลกซ้อนโลก จนก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น
ฉู่หลีหลีแทบจะไม่ออกมาด้านนอก และยากจะได้รับข้อมูลที่สำคัญของมรกตท่องฟ้า ดังนั้นจึงไม่กลัวว่านางจะส่งข่าว
แต่เกรงว่าข้อความในหยกอู้ปี้ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอนั้น แม้แต่เกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้สองพี่น้องก็รู้สึกสนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี