“ใช่แล้ว ถ้าหากเจ้าสะดวก ก็ช่วยข้านำจดหมายฉบับหนึ่งกลับไปหน่อย” ฉู่หลีหลีพูด พลางอาบน้ำให้แก่เฝยเฝยตัวนั้นในมือจนสะอาดก่อน
อสูรที่รูปร่างเหมือนสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวเล็กไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย มันสะบัดน้ำทั่วทั้งตัวอย่างไม่พอใจ “หลีหลี ข้าขอบอกกับท่าน หลายวันต่อจากนี้อย่าได้คิดหลับสนิท ข้าจะปลุกท่านตอนเช้าๆ!”
“เจ้ากล้า!” ฉู่หลีหลีงอนิ้วดีดใส่หน้าผากของเฝยเฝยตัวนั้น ทำให้มันที่ความจริงแล้วสามารถใช้อุ้งเท้าเดียวฆ่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนได้ล้มไปกองกับพื้น
มันยกอุ้งเท้าขึ้นกุมศีรษะ “หึ คอยดูเถอะ!”
ถึงแม้ว่าการล้อเล่นกับจักรพรรดิผู้หนึ่งจะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แต่ยามมองพวกนางสองคน เยี่ยนจ้าวเกอก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“เจ้าได้โปรดช่วยข้านำจดหมายฉบับนี้ไปส่งที่หุบเขาเซียนเร้นกายในเขาคุนหลุน” ฉู่หลีหลีกลับไม่ได้ถือสา ในมือมีเพิ่มแผ่นหยกอู้ปี้ชิ้นหนึ่ง
ในแผ่นหยกนี้คงจะผนึกข้อความที่นางต้องการส่งเอาไว้
เพียงแต่สถานที่ที่เป็นจุดหมายทำให้เยี่ยนจ้าวเกอใจเต้นระทึก
ไม่ได้มอบให้แก่จักรพรรดินีแห่งอารามคลื่นยะเยือกบนยอดเขาเมฆมรกต และไม่ใช่กษัตริย์กระบี่แห่งเขานครหยกบนยอดเขาเป่ยเกา แต่กลับมอบให้กษัตริย์เร้นลับแห่งหุบเขาเซียนเร้นกาย!
ถ้ากล่าวว่านางทราบว่าตอนนี้กษัตริย์กระบี่ไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก จึงไม่ได้มอบจดหมายให้แก่เขานครหยกยังพอทำเนา แต่กลับไม่ส่งให้จักรพรรดินีที่มาจากสำนักเดียวกัน นี่ทำให้ผู้คนต้องใช้ความคิดแล้ว
ปัจจุบันกษัตริย์เร้นลับอยู่บนโลกซ้อนโลกจริงๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วเข้าฌานไม่ได้ออกมา
ฉู่หลีหลีสุดท้ายมอบจดหมายให้แก่กษัตริย์เร้นลับ เป็นเพราะไหว้วานให้กษัตริย์เร้นลับมอบต่อให้คนอื่นหรือ
กษัตริย์ดารายังอยู่บนโลกซ้อนโลกหรือไม่
แค่ชั่วพริบตาเดียวก็เกิดความคิดมากมายแวบขึ้นในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ
“สะดวก ย่อมสะดวก” เยี่ยนจ้าวเกอรับเรื่องราวไว้ก่อน
ในเมื่อพวกเกาเสวี่ยโพในมรกตท่องฟ้ายินดีให้ตนช่วยส่งสารแทนฉู่หลีหลี เช่นนั้นก็หมายความว่าพวกเขาแน่ใจมากว่าฉู่หลีหลีไม่ได้เป็นสายสืบ
เยี่ยนจ้าวเกอช่วยส่งจดหมายให้แก่ฉู่หลีหลี สำหรับมรกตท่องฟ้าแล้วไม่ได้มีข้อห้ามอันใด
“แต่ก่อนที่ข้าจะออกจากโลกซ้อนโลก ข้าได้ยินมาว่ากษัตริย์เร้นลับเข้าฌานอีกรอบแล้ว เกรงว่าจะไม่ถามไถ่เรื่องราวภายนอกเป็นเวลานาน” เยี่ยนจ้าวเกอเตือน “ไม่ใช่ข้าผู้แซ่เยี่ยนบ่ายเบี่ยง แต่ว่าจดหมายฉบับนี้จะส่งไปถึงมือของกษัตริย์เร้นลับทันเวลาหรือไม่ ไม่อาจรับประกันได้จริงๆ อาจจะรอเวลาไปก่อน”
แม้จักรพรรดิแพรจะสร้างเรื่องวุ่นวายขนาดนั้น ทว่ากษัตริย์เร้นลับก็ยังไม่ปรากฏตัว ดูจากลักษณะแล้วเหมือนกับเข้าฌานปิดตาย
“อย่างนี้นี่เอง” ฉู่หลีหลีมีสีหน้าผิดหวัง
นางครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าขอรบกวนเจ้าช่วยข้าส่งของชิ้นนี้ให้แก่เขานครหยกเถอะ เมื่อพี่ใหญ่เยว่กลับโลกซ้อนโลกแล้ว เจ้าเพียงมอบให้พี่ใหญ่เยว่ก็พอ แต่ถ้าหากว่ากษัตริย์เร้นลับออกฌานก่อนที่พี่ใหญ่เยว่จะกลับโลกซ้อนโลก เช่นนั้นก็ส่งไปที่หุบเขาเซียนเร้นกาย”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า แล้วรับหยกอู้ปี้มา
อีกฝ่ายคล้ายไม่พิจารณาถึงผากิเลนซึ่งเป็นที่อยู่ของกษัตริย์ดินแม้แต่น้อย…
“ผู้อาวุโสฉู่ ขออภัยที่ข้าขอถามสักคำ” เยี่ยนจ้าวเกอถามหยั่งเชิง “อาจารย์ของท่านใช่…”
“ท่านอาจารย์เขา…” ฉู่หลีหลีพูดได้ถึงครึ่งหนึ่งก็หยุดลง อารมณ์เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง “เกือบจะทำข้อผิดพลาดเพราะสะเพร่าแล้ว”
นางโบกมือให้แก่เยี่ยนจ้าวเกออย่างเศร้าสร้อย “หลังจากกลับไป ถ้าได้เจอพี่ใหญ่เยว่เจ้าก็ถามเขาเถอะ ถ้าหากบอกเจ้าได้ เขาจะบอกกับเจ้าเอง”
“…ขอรับ” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่
จากท่าทีและน้ำเสียงของฉู่หลีหลี เขาสามารถแยกแยะได้ส่วนหนึ่งแล้ว
ประการแรก กษัตริย์ดาราสมควรยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้เสียชีวิต
อย่างน้อยในตอนที่ฉู่หลีหลีซึ่งเก็บเนื้อเก็บตัวพูดถึงกษัตริย์ดารา แม้จะเศร้าโศกอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าเจ็บปวด
ข้อมูลของนางจะแม่นยำหรือว่าล้าหลัง ไม่อาจตัดสินได้
ประการที่สอง ฉู่หลีหลีปิดบังชื่อ กบดานอยู่ในมรกตท่องฟ้า ตัดขาดกับโลกภายนอก ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล
บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ดารา และกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยก็น่าจะทราบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี