เยี่ยนจ้าวเกอมองธารน้ำแข็ง รู้สึกถึงความปรวนแปรของปราณวิญญาณด้านใน พลันเข้าใจอะไรบางอย่าง ‘มาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันกับจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงจริงๆ ด้วย เพียงแต่ว่ามีความแตกต่างด้านรายละเอียด’
“อาจารย์อาเล็ก พวกเราเข้าไปเถอะ” เกาฉิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ
เขาพยักหน้า “ตกลง”
คนทั้งสองเข้าไปในหุบน้ำแข็ง หลังจากทะลุน้ำแข็งหลายชั้น ก็เจอเข้ากับไออุ่นสายหนึ่ง
ในหุบน้ำแข็งที่ค่อนข้างมืดเพราะผนึกน้ำแข็งบดบังฟ้าและดวงตะวัน ถึงกับมีแสงอาทิตย์สว่างขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอเดินเข้าไปด้านใน ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเป็นทิวทัศน์ที่มีบรรยากาศของวสันตฤดู หญ้าขึ้นงอกงาม สกุณาบินว่อน
แสงอาทิตย์ของที่นี่ไม่ใช่แสงอาทิตย์ตามธรรมชาติ แต่ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ที่ผนึกแสงอาทิตย์แล้วสร้างขึ้นมา
‘นิสัยของเจ้าของที่แห่งนี้เกรงว่าจะแตกต่างกับจักรพรรดินี’ ความคิดแวบผ่านห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกออย่างรวดเร็ว
โลกผนึกน้ำแข็งด้านนอกหุบเหวจำเป็นสำหรับการซ่อนตัว
ด้านในหุบเขาอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ เป็นสภาพการดำรงชีวิตที่เจ้าของของที่แห่งนี้ชมชอบ
คนทั้งสองเดินทางลึกเข้าไปในหุบเขา ข้างในไม่เห็นมีทารกหรือทาสรับใช้ต้อนรับแขก
“แม่เฒ่าหลีอยู่ในนี้คนเดียว ไม่มีศิษย์สืบทอด มีแต่ตัวเฝยเฝย สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งอยู่เป็นเพื่อน” เกาฉิงพูดเหมือนเคยชินแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ พอมาถึงกลางหุบเขา ก็เห็นระหว่างสวนบุปผาหญ้าเขียวจีมีตึกน้อยหลังหนึ่งตั้งอยู่
พอถึงนอกประตู เกาฉิงก็ร้องเรียกเสียงสูง “แม่เฒ่าหลี พวกข้ามาแล้ว”
ด้านในตัวตึกมีเสียงหัวเราะดังมา “ข้าทราบแล้ว เข้ามาเองเลย เจ้าเองก็คุ้นทางดี”
“เจ้าค่ะ แม่เฒ่าหลี” เกาฉิงผลักประตูด้วยรอยยิ้ม หันมามองเยี่ยนจ้าวเกอ “อาจารย์อาเล็ก มาเถอะ ข้าคุ้นกับที่นี่มาก”
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ เข้าไปด้านในพร้อมกับเกาฉิง
พริบตาที่ผลักประตู ปราณสีขาวจางๆ ก็ปรากฏขึ้น
เมื่อสัมผัสปราณขาวนั้น ก็พลันรู้สึกได้ถึงความเย็นเสียดแทงกระดูก ด้วยระดับการฝึกปรือในปัจจุบันของเยี่ยนจ้าวเกอยังรู้สึกได้ถึงความเย็น
แต่ปราณขาวนี้กลับไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นเหมือนวสันตฤดูในหุบเขาที่อยู่รอบๆ แยกออกจากกันอย่างชัดเจน
ด้วยระดับพลังฝึกปรือของเกาฉิง แม้ว่าจะทำลายนภาเห็นเทวะสำแดงแต่แรก ทว่าหากเคลื่อนไหวอยู่ในหมอกน้ำแข็งสีขาว เกรงว่าจะถูกแช่แข็งในชั่วอึดใจเดียว
แต่ตอนนี้สร้อยคอหยกสีแดงที่นางสวมไว้บนคอเปล่งแสงสีแดงกลุ่มหนึ่ง กั้นหมอกน้ำแข็งสีขาวไว้ด้านนอก ปกป้องไม่ให้นางได้รับอันตรายจากความเย็นสุดขีด
“แม่เฒ่ามอบให้แก่ข้า” เกาฉิงเดินไปพลางอธิบายไปพลาง “อาจารย์อาเล็ก เชิญทางนี้”
เบื้องหน้าคือหมอกน้ำแข็งกว้างใหญ่ ยื่นมือออกไปไม่เห็นนิ้ว
แม้ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์จะเข้ามาด้านใน ก็มองไม่เห็นภาพใด
กลับเป็นผนึกวิชาป้องกันที่เจ้าของของที่นี่ได้วางเอาไว้ แปลงมาจากปราณเซียนของตัวเอง ผสมความลี้ลับของค่ายกลไว้ด้านใน
เยี่ยนจ้าวเกอสายตาดีมาก เพิ่งเดินเข้ามาด้านในหมอกน้ำแข็งก็รู้สึกได้ว่าเวลาของตนเหมือนกับหยุดนิ่ง
เขาเชี่ยวชาญกระบี่ลวงเซียนและคัมภีร์นภากาลเวลา บรรลุความลี้ลับของเวลาอย่างลึกซึ้ง นี่จึงค่อยสัมผัสได้ถึงเลศนัย
เปลี่ยนเป็นคนอื่นมา น่ากลัวจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาหยุดนิ่งเหมือนกับหลับใหล
เหมือนกับตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้นสายฟ้าอนธการเพื่อสู้กับผู้อื่นเมื่อก่อนหน้า
หลังจากสูญเสียการรับรู้ คนแม้นจะไม่ถูกแช่แข็งจนตาย แต่ก็ต้องติดอยู่ในหมอกน้ำแข็งตลอดกาล
นางหันไปมองเฝยเฝยตัวนั้น กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผิงผิง เจ้าหนีอาบน้ำอีกแล้ว”
“เกาฉิงน้อยอย่ามัวแต่ดู รีบมาช่วยข้า…ฮือๆๆ…” เฝยเฝยตัวนั้นดิ้นรนพร้อมกับพูดหนึ่งประโยค บัดนี้เปียกไปหมดทั้งตัวแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพนี้พลางลูบคางของตัวเอง ‘อืม หรือเราจะเอ็นดูเจ้าอ้วนจอมขี้เกียจของเราเกินไปนะ’
สตรีนางนั้นมองไปทางเขา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเป็นศิษย์หลานของพี่ใหญ่เยว่หรือ?”
ได้ยินคำเรียกนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็งงงันเล็กน้อย ก่อนจะค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนอง ‘เป็นกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย…’
“ผู้อาวุโสอยู่ต่อหน้า เยี่ยนจ้าวเกอขอคารวะ” ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอตอบ ความคิดก็ทำงานอย่างรวดเร็ว
กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยดูเหมือนจะทราบว่ากษัตริย์ดาราไม่ได้มีจักรพรรดินีเป็นลูกศิษย์แค่คนเดียว แต่ยังมีผู้สืบทอดอีกคน
กระนั้น เขาคล้ายกับรักษาเป็นความลับอย่างดี แม้แต่พวกหวังผู่ เนี่ยจิงเสิน และไป๋เทาก็ไม่ได้บอกให้รู้
“เอ่อ…ไม่ทราบผู้อาวุโสมีนามว่าอะไรหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอเรียบเรียงคำพูดเล็กน้อย
เกาฉิงเรียกอีกฝ่ายว่าแม่เฒ่าหลี ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่อาจเรียกตามได้
“ข้ามีนามว่าฉู่หลีหลี อาจารย์ของข้ากับปู่ของเจ้าคบหากัน แต่ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าเกิดช้าไปหน่อย ไม่ทันได้เจอปู่ของเจ้า แต่คุ้นเคยกับพี่ใหญ่เยว่มาก” สตรียิ้ม “ถ้านับจากพี่ใหญ่เยว่ เจ้าเรียกข้าว่าอาหญิงก็ได้ ไม่เช่นนั้นเรียกตามความสนิทสนมเถอะ ข้าไม่ถือสา”
นางแม้มีน้ำเสียงสบายๆ แต่เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงพลังงานอันยิ่งใหญ่ในร่างของอีกฝ่ายอย่างเลือนราง
ถึงนางอาจจะดูไม่ถือตัว ไม่มีลักษณะของจักรพรรดิ แต่ก็เป็นจักรพรรดิเซียนจริงแท้ตัวจริง เหมือนกับจักรพรรดิแพร จักรพรรดิไร้จำกัด และหลงเสวี่ยจี้!
อีกฝ่ายไม่มีฉายาจักรพรรดิและฉายาประมุข เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ “ผู้อาวุโสฉู่คล้ายต้องการให้ข้าผู้แซ่เยี่ยนนำจดหมายฉบับหนึ่งกลับโลกซ้อนโลกกระมัง แต่ข้ากลับไม่ทราบว่าต้องมอบให้ผู้ใด”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี