วิชาลับเฉกเช่นยอดวิชาแปดพิภพล้วนถูกเก็บเอาไว้ที่ชั้นสามของหอคัมภีร์
แต่แท้จริงแล้วเยี่ยนจ้าวเกอสนใจชั้นสี่ที่เล่าขานกันมากกว่า เพราะที่นั่นเก็บสุดยอดวิชาลับสูงสุดของเขากว่างเฉิงไว้
นอกจากส่วนที่เหลือของวิชาเอกพิสุทธิ์แล้ว ยังมีสามสุดยอดวิชาของเขากว่างเฉิงที่มีชื่อเสียงในโลกแปดพิภพ
ทว่าตามกฎระเบียบแล้ว ชั้นที่สี่ของหอคัมภีร์นี้มีเพียงเจ้าสำนักและผู้อาวุโสสูงสุดแห่งหอคัมภีร์เท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ คนอื่นๆ รวมถึงเยี่ยนตี๋ บิดาของเยี่ยนจ้าวเกอ ฟางจุ่น สือเถี่ย รวมทั้งผู้อาวุโสเก่าแก่ก็ไม่สามารถเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ต้องได้รับอนุญาตจากหยวนเจิ้งเฟิง หรือเข้าไปพร้อมกับเขาเท่านั้น ถึงจะเข้าไปได้
ด้วยศักยภาพที่เยี่ยนจ้าวเกอแสดงออกมาในตอนนี้ การจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในชั้นที่สี่ก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
โดยตามธรรมเนียมทั่วไปแล้ว จำเป็นต้องบรรลุระดับมหาปรมาจารย์เสียก่อน
‘อันที่จริงข้าสนใจชั้นที่สี่มากกว่าอีก’ เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก ‘อยากดูสักหน่อยว่าวิชาวรยุทธ์ขั้นสูงสุดของโลกแปดพิภพทุกวันนี้พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว’
ถึงแม้ว่าคัมภีร์ที่เก็บอยู่ในวังเทพจะครอบคลุมไปเสียทุกอย่าง อีกทั้งยังน่าอัศจรรย์ก็ตาม แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงปรับตัวเข้ากับโลกปัจจุบันอย่างระมัดระวังมาก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วการฝึกฝนวิชาลับที่ถ่ายทอดโดยตรงของเขากว่างเฉิงให้ชำนาญก็กลายเป็นเรื่องที่ขาดไปไม่ได้
การที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเลือกฝึกวิชาในชั้นที่สามของหอคัมภีร์ครั้งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็มีแผนอยู่ภายในใจนานแล้ว
นั่นก็คือวิชาวายุอัคนี หนึ่งในยอดวิชาแปดพิภพ
มีลมเป็นวิชากาย และไฟเป็นวิชาพลังทำลายล้าง หากฝึกฝนทั้งสองสิ่งสำเร็จจนมีความเชี่ยวชาญแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ความเร็วของจอมยุทธ์ก้าวไปถึงระดับขั้นที่น่าตกตะลึงได้
โดยพื้นฐานแล้ว ในการฝึกฝนของจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงทุกคน ไม่ว่าช้าหรือเร็วก็ต้องเลือกฝึกวิชาวายุอัคนี
ปกติแล้วยิ่งจอมยุทธ์เก่ง ก็จะมีการโจมตีที่รุนแรง มักไม่ค่อยมีปัญหาด้านวิชากาย หากสู้กับอีกฝ่ายไม่ได้ก็สามารถหลีกหนีได้ แต่ถ้าสู้ได้แล้วอีกฝ่ายหนี ก็สามารถไล่ล่าได้ตามที่ใจต้องการ
ในการต่อสู้จริง วรยุทธ์วิชาจำนวนมากจำเป็นต้องใช้ควบคู่กับวิชากาย จึงจะสามารถใช้พลังที่มีอานุภาพเต็มกำลังได้ โดยที่ไม่ต้องถูกอีกฝ่ายคอยปั่นหัวเล่น
แน่นอนว่าบางวรยุทธ์วิชาที่ใช้ความนิ่งสงบสยบการเคลื่อนไหว ใช้ไหวพริบยับยั้งทักษะ ไม่ถูกรวมอยู่ในนี้ด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอที่มีความชำนาญในวิชาพลังและวิชากายที่ยิ่งใหญ่มากมาย การเลือกฝึกวิชาวายุอัคนีจึงดูเหมือนการฝึกซ้ำ ทว่ากลับไม่ได้เปล่าประโยชน์แต่อย่างใด
นั่นเป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องใช้การอำพรางจากวิชาวายุอัคคี เพื่อจะได้ใช้ทักษะอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเป็นกังวล
อย่างไรเสียสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว วิชาลับสุดยอดไม่ใช่สิ่งที่เขาขาดเลย ยิ่งไปกว่านั้นวิชาวายุอัคคีของเขาเองก็ไม่ได้แย่แต่อย่างใด อีกทั้งช่วงเวลาก่อนหน้าและหลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ความเข้มข้นและการไหลเวียนของปราณชีวิตในร่างนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่
ดังนั้นการฝึกวิชาลับที่อยู่ในวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ และวิชาที่พัฒนาใหม่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่พร้อมกัน ให้ทั้งสองปรับตัวเข้าหากัน กลับเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ
‘วิชาวายุอัคคี แท้จริงแล้วคุณลักษณะของมันก็ไม่ได้แย่’ เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะด้วยความพอใจ แล้วคิดไตร่ตรองในใจว่า ‘วิชาลมสามารถใช้ควบคู่กับพลังลมนภาจากคัมภีร์วายุจิตราที่เก็บซ่อนเอาไว้ในวังเทพได้ ส่วนวิชาไฟก็สามารถใช้ควบคู่กับหมัดอสูรวานรจอมพลังของวิชาหมัดอสูรหกวิญญาณได้’
‘อืม วิชาลมของหมัดพยัคฆ์คำราม เสือกระโจนขย้ำก็ใช้คู่กับวิชากายของวิชาลมได้เหมือนกัน’
‘ข้าลองๆ คิดดู หากวรยุทธ์ทั้งสองนี้รวมเข้าด้วยกัน ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่เกิดขึ้น…’
หลังจากที่เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตั้งสติแล้วเตรียมตัวออกจากที่นี่
เขามองหอคัมภีร์เบื้องหน้าอีกครั้ง แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอเหม่อลอยอยู่บ้าง
ถึงแม้จะเทียบไม่ได้เลยกับคัมภีร์ที่เก็บสะสมไว้ในวังเทพ กระนั้นเมื่อได้เข้าไปในสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน มักจะทำให้เยี่ยนจ้าวเกอนึกถึงครั้งแรกที่มาถึงโลกใบนี้ และภาพตอนที่ตนเองอยู่ในหอเก็บคัมภีร์ของวังเทพ
‘วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในตอนนั้น ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่’ เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญภายในใจ
ภาพที่ราวกับการดับสูญในวันนั้นยังคงชัดเจนในใจของเยี่ยนจ้าวเกอ
แม้ว่าจะเกิดใหม่ที่นี่ แต่มันก็ยังคงส่งผลต่อเขามาโดยตลอด กระตุ้นให้ตัวเขาเองไม่หยุดที่จะมุ่งไปข้างหน้า อีกทั้งยังพยายามให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพราะเขาไม่รู้ว่าหายนะที่น่ากลัวนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่
ความสั่นไหวในแววตาของเยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ สงบลง และกลับคืนสู่ความนิ่งสงบอีกครั้ง
‘จะตีเหล็ก ไม้ตีก็ต้องแข็งด้วย ต้องเพิ่มความสามารถให้กับตัวเองเสมอ ขณะเดียวกันก็ต้องหาวิธีสืบเหตุผลของหายนะในตอนนั้นให้ได้’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพึมพำกับตนเองว่า “จับปลาสองมือ มือทั้งสองก็ต้องแข็งแกร่งมากพอ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี