จากการสั่งสมตลอดหนึ่งปี ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอมีสิ่งของเก็บไว้ไม่น้อย แต่เขาไม่ได้คิดจะปล่อยของในทันที
หลังจากกำหนดของวิเศษที่จะจำหน่ายในวันเปิดตึก เสี่ยวอ้ายก็ประกาศปิดตึก
แขกที่คิดจะอยู่ดื่มชา ต่างได้รับการต้อนรับ ทว่าของวิเศษไม่มีขายอีกต่อไป
คนส่วนใหญ่ไม่ยินยอม
ในเมื่อไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ต้องหาวิธีชดเชย
ทุกคนพากันขอจับจองป้ายลงทะเบียนในการเปิดตึกครั้งที่สองซึ่งจะมาถึงในหนึ่งเดือนหลังจากนี้
วันนี้คนที่ได้สิ่งของจากการเปิดตึกในครั้งนี้ ไม่แตกต่างกัน ถึงอย่างไรครั้งหนึ่งก็ซื้อได้แค่ของสามชิ้น
“ตอนนี้ยังไม่รับจอง” เสี่ยวอ้ายกลับตอบด้วยรอยยิ้ม “สิบวันก่อนที่จะเปิดตึกทุกครั้งจะเริ่มรับจอง ทุกท่านครั้งหน้าโปรดมาให้เร็ว”
ทุกคนได้ฟังก็ไม่พอใจนัก
เสี่ยวอ้ายไม่ลนลาน พูดอย่างเนิบนาบ “ส่วนที่ต้อนรับไม่ทั่วถึง ขอให้สหายร่วมเส้นทางทุกท่านโปรดให้อภัย”
ทุกคนออกไปด้านนอก ความรู้สึกที่ในมือมีเงินแต่ไม่ทราบเอาไปใช้ที่ไหน ย่อมไม่ดีนัก
เมืองหยวนโจวเป็นเมืองใหญ่ขึ้นชื่อในเขตมหานภากลาง รุ่งเรืองถึงขีดสุด ขุมกำลังกล้าแข็งส่วนใหญ่มีธุรกิจตั้งอยู่ที่นี่
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่มองดูเงินทุนที่ควรจะมาอยู่ในถุงเงินของตัวเองถูกใช้ไปกับสินค้าของคนอื่น
เสี่ยวอ้ายได้รับคำสั่งของเขา ตระเตรียมคน หลังจากส่งแขกออกไปแล้ว ก็ลอบกระจายข่าว
เพื่อความยุติธรรม การแซงคิวอย่างชัดเจน และการดูแลอย่างชัดเจนจะต้องได้รับการกำจัดทิ้ง
แต่ว่าเจ้าของของตึกความลับฟ้ายินดีคบหากับสหายร่วมเส้นทางในใต้หล้า ในฐานะสหายลับๆ ของเจ้าของตึก ย่อมมีอำนาจพิเศษในที่ลับ
เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ทางสถานะ ตึกความลับฟ้ามีป้ายคำสั่งที่ทำขึ้นพิเศษ…
หมายความว่าอย่างไร ท่านคงเข้าใจ
คนที่ได้ฟังข่าวส่วนใหญ่ต่างเข้าใจ
เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนชั่วร้ายมาแย่งป้ายคำสั่งไป ดังนั้นจึงมีการตรวจสอบและควบคุมความสามารถ เช่น อย่างน้อยก็ต้องเข้าร่วมการจำหน่ายอย่างเปิดเผยตอนต้นเดือนทุกครั้ง
ชั่วขณะนั้น ผู้คนเกิดความคิดมากมาย รอคอยการเปิดตึกครั้งที่สองของตำหนักความลับฟ้าในต้นเดือนต่อไป
ขณะเดียวกัน ทุกคนก็เริ่มสืบข่าวว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้ป้ายคำสั่งมา
หลังจากปิดตึก เสี่ยวอ้ายก็รายงานสถานการณ์การแลกเปลี่ยนให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอที่โถงหลัง
“นายน้อย เป็นเช่นที่ท่านคาดไว้ นอกจากคนไม่กี่คนเช่นพวกตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนแล้ว ในสินค้าสามชิ้น คนส่วนใหญ่ซื้อสิ่งของอื่นๆ สองชิ้น จากนั้นก็เก็บอีกหนึ่งอย่างไว้เพื่อใช้ซื้อเตาผลึกหินชั้นใน”
ของวิเศษต่างๆ เช่นกระดานก่อนพิรุณ และยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้นแม้จะยอดเยี่ยม แต่ส่วนใหญ่เป็นของวิเศษที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว หรือมีการจำกัดจำนวนครั้ง
เพียงแต่เตาผลึกหินชั้นในมีข้อแตกต่าง สำหรับขุมกำลังขนาดเล็กไปจนถึงกลาง หรือแม้แต่ขุมกำลังขนาดกลางไปจนถึงใหญ่นอกจากจวนวายุอัสนีแล้ว นี่เป็นวัตถุวิเศษที่สามารถกลายเป็นการสืบทอดพื้นฐานของสำนักได้
ดังนั้น เตาผลึกหินชั้นในจึงถูกแย่งกันมากที่สุดเหมือนที่คาดไว้
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “อยู่ในการคาดการณ์ ตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนก็ใช่ว่าไม่อยากได้เตาผลึกหินชั้นใน เพียงแต่พวกเขาต้องควบคุมไม่ให้กระดานก่อนพิรุณหลุดออกไปที่อื่น ดังนั้นวันนี้จึงได้ใช้จำนวนสิ่งของสามชิ้นไปกับกระดานก่อนพิรุณหมดสิ้น”
“นายน้อย คนของตระกูลหลัวจากยอดเขาพยัคฆ์กระโจนนั่นฉลาดจริงๆ” เสี่ยวอ้ายยิ้มขณะที่ถือแผ่นหยกแผ่นหนึ่ง “พวกเขาเสนอผังค่ายกลสมบูรณ์ผังหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับป้ายคำสั่ง”
ชิวเจียไห่ถามขึ้นที่ด้านข้าง “ค่ายกลอะไรหรือ”
“คล้ายจะเรียกว่าค่ายกลประกายแสงลาเซียน” เสี่ยวอ้ายตอบ
“โอ้? ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอันดับท้ายๆ ของสิบสองค่ายกลยอดเขาพยัคฆ์กระโจน แต่การที่ค่ายกลนี้เข้าไปอยู่ในสิบสองค่ายกลยอดเขาพยัคฆ์กระโจนได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นค่ายกลชั้นยอดแล้ว” ชิวเจียไห่วิจารณ์ “ศิษย์น้องเยี่ยนเจ้าแม้จะมีค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง แต่ว่ามีเงื่อนไขชัยภูมิดินสำหรับวางค่ายกลโหดหินเกินไป ค่ายกลประกายแสงลาเซียนนี้เป็นการชดเชยที่ไม่เลว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี