ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1134

จากการสั่งสมตลอดหนึ่งปี ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอมีสิ่งของเก็บไว้ไม่น้อย แต่เขาไม่ได้คิดจะปล่อยของในทันที

หลังจากกำหนดของวิเศษที่จะจำหน่ายในวันเปิดตึก เสี่ยวอ้ายก็ประกาศปิดตึก

แขกที่คิดจะอยู่ดื่มชา ต่างได้รับการต้อนรับ ทว่าของวิเศษไม่มีขายอีกต่อไป

คนส่วนใหญ่ไม่ยินยอม

ในเมื่อไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ต้องหาวิธีชดเชย

ทุกคนพากันขอจับจองป้ายลงทะเบียนในการเปิดตึกครั้งที่สองซึ่งจะมาถึงในหนึ่งเดือนหลังจากนี้

วันนี้คนที่ได้สิ่งของจากการเปิดตึกในครั้งนี้ ไม่แตกต่างกัน ถึงอย่างไรครั้งหนึ่งก็ซื้อได้แค่ของสามชิ้น

“ตอนนี้ยังไม่รับจอง” เสี่ยวอ้ายกลับตอบด้วยรอยยิ้ม “สิบวันก่อนที่จะเปิดตึกทุกครั้งจะเริ่มรับจอง ทุกท่านครั้งหน้าโปรดมาให้เร็ว”

ทุกคนได้ฟังก็ไม่พอใจนัก

เสี่ยวอ้ายไม่ลนลาน พูดอย่างเนิบนาบ “ส่วนที่ต้อนรับไม่ทั่วถึง ขอให้สหายร่วมเส้นทางทุกท่านโปรดให้อภัย”

ทุกคนออกไปด้านนอก ความรู้สึกที่ในมือมีเงินแต่ไม่ทราบเอาไปใช้ที่ไหน ย่อมไม่ดีนัก

เมืองหยวนโจวเป็นเมืองใหญ่ขึ้นชื่อในเขตมหานภากลาง รุ่งเรืองถึงขีดสุด ขุมกำลังกล้าแข็งส่วนใหญ่มีธุรกิจตั้งอยู่ที่นี่

เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่มองดูเงินทุนที่ควรจะมาอยู่ในถุงเงินของตัวเองถูกใช้ไปกับสินค้าของคนอื่น

เสี่ยวอ้ายได้รับคำสั่งของเขา ตระเตรียมคน หลังจากส่งแขกออกไปแล้ว ก็ลอบกระจายข่าว

เพื่อความยุติธรรม การแซงคิวอย่างชัดเจน และการดูแลอย่างชัดเจนจะต้องได้รับการกำจัดทิ้ง

แต่ว่าเจ้าของของตึกความลับฟ้ายินดีคบหากับสหายร่วมเส้นทางในใต้หล้า ในฐานะสหายลับๆ ของเจ้าของตึก ย่อมมีอำนาจพิเศษในที่ลับ

เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ทางสถานะ ตึกความลับฟ้ามีป้ายคำสั่งที่ทำขึ้นพิเศษ…

หมายความว่าอย่างไร ท่านคงเข้าใจ

คนที่ได้ฟังข่าวส่วนใหญ่ต่างเข้าใจ

เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนชั่วร้ายมาแย่งป้ายคำสั่งไป ดังนั้นจึงมีการตรวจสอบและควบคุมความสามารถ เช่น อย่างน้อยก็ต้องเข้าร่วมการจำหน่ายอย่างเปิดเผยตอนต้นเดือนทุกครั้ง

ชั่วขณะนั้น ผู้คนเกิดความคิดมากมาย รอคอยการเปิดตึกครั้งที่สองของตำหนักความลับฟ้าในต้นเดือนต่อไป

ขณะเดียวกัน ทุกคนก็เริ่มสืบข่าวว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้ป้ายคำสั่งมา

หลังจากปิดตึก เสี่ยวอ้ายก็รายงานสถานการณ์การแลกเปลี่ยนให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอที่โถงหลัง

“นายน้อย เป็นเช่นที่ท่านคาดไว้ นอกจากคนไม่กี่คนเช่นพวกตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนแล้ว ในสินค้าสามชิ้น คนส่วนใหญ่ซื้อสิ่งของอื่นๆ สองชิ้น จากนั้นก็เก็บอีกหนึ่งอย่างไว้เพื่อใช้ซื้อเตาผลึกหินชั้นใน”

ของวิเศษต่างๆ เช่นกระดานก่อนพิรุณ และยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้นแม้จะยอดเยี่ยม แต่ส่วนใหญ่เป็นของวิเศษที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว หรือมีการจำกัดจำนวนครั้ง

เพียงแต่เตาผลึกหินชั้นในมีข้อแตกต่าง สำหรับขุมกำลังขนาดเล็กไปจนถึงกลาง หรือแม้แต่ขุมกำลังขนาดกลางไปจนถึงใหญ่นอกจากจวนวายุอัสนีแล้ว นี่เป็นวัตถุวิเศษที่สามารถกลายเป็นการสืบทอดพื้นฐานของสำนักได้

ดังนั้น เตาผลึกหินชั้นในจึงถูกแย่งกันมากที่สุดเหมือนที่คาดไว้

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “อยู่ในการคาดการณ์ ตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนก็ใช่ว่าไม่อยากได้เตาผลึกหินชั้นใน เพียงแต่พวกเขาต้องควบคุมไม่ให้กระดานก่อนพิรุณหลุดออกไปที่อื่น ดังนั้นวันนี้จึงได้ใช้จำนวนสิ่งของสามชิ้นไปกับกระดานก่อนพิรุณหมดสิ้น”

“นายน้อย คนของตระกูลหลัวจากยอดเขาพยัคฆ์กระโจนนั่นฉลาดจริงๆ” เสี่ยวอ้ายยิ้มขณะที่ถือแผ่นหยกแผ่นหนึ่ง “พวกเขาเสนอผังค่ายกลสมบูรณ์ผังหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับป้ายคำสั่ง”

ชิวเจียไห่ถามขึ้นที่ด้านข้าง “ค่ายกลอะไรหรือ”

“คล้ายจะเรียกว่าค่ายกลประกายแสงลาเซียน” เสี่ยวอ้ายตอบ

“โอ้? ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอันดับท้ายๆ ของสิบสองค่ายกลยอดเขาพยัคฆ์กระโจน แต่การที่ค่ายกลนี้เข้าไปอยู่ในสิบสองค่ายกลยอดเขาพยัคฆ์กระโจนได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นค่ายกลชั้นยอดแล้ว” ชิวเจียไห่วิจารณ์ “ศิษย์น้องเยี่ยนเจ้าแม้จะมีค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง แต่ว่ามีเงื่อนไขชัยภูมิดินสำหรับวางค่ายกลโหดหินเกินไป ค่ายกลประกายแสงลาเซียนนี้เป็นการชดเชยที่ไม่เลว”

แน่นอนว่า ยังคงไม่ใช่จัดหาได้ไร้จำกัด แต่ว่าการจำกัดอย่างไรก็มีมากกว่าสามชิ้น

สำหรับตระกูลหลัวจากยอดเขาพยัคฆ์กระโจนแล้ว ของวิเศษอย่างกระดานก่อนพิรุณนั้น ไม่เพียงแต่ตัวเองนำมาใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังของจอมยุทธ์ขึ้นมากมายเท่านั้น

มองจากอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากว่าขุมกำลังอื่นๆ ครอบครองกระดานก่อนพิรุณจำนวนมาก ความได้เปรียบในด้านค่ายกลของตระกูลหลัวก็จะถูกลบเลือน

คู่แข่งของตระกูลหลัวเองก็มีไม่น้อย

“เสี่ยวอ้าย ตั้งแต่วันนี้ที่นี่มอบให้เจ้าปรับเปลี่ยนความเหมาะสมได้เอง จะมีข้อผิดพลาดบ้างก็ไม่เป็นไร ขอแค่ยึดหลักการใหญ่ไว้ก็เพียงพอ” เยี่ยนจ้าวเกอสั่งเสี่ยวอ้าย “มองให้ไกล การเกาะกุมจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ทำให้ผู้คนเอาแต่นึกถึงการเปิดตึกเดือนละครั้งของตึกความลับฟ้าของเรา เมื่อผู้คนจะใส่ใจในเรื่องนี้อย่างแท้จริง ก็จะเริ่มสนใจเรื่องอื่นน้อยลง นานวันเข้า พวกเราจะครองความเป็นหนึ่ง”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างชั่วร้าย “สินค้าของพวกเราเป็นของดี แต่ไม่ได้ดีจนถึงขั้นที่คนซื้อไม่ได้ แต่ว่าเมื่อผู้คนเริ่มใส่ใจ พวกเขาจะคำนึงถึงสินค้าของพวกเราตลอดไป สินค้าเป็นเรื่องรอง การซื้อสินค้าจึงเป็นการยึดถือ เมื่อสำเร็จ ก็เท่ากับสมปรารถนา ต่อจากนี้เวลานอนค่อยได้นอนจริงๆ ไม่ใช่ว่าเอาแต่ะพะว้าพะวงถึงการเปิดตึกของพวกเราในเดือนต่อไป”

การเปิดตึกขายสินค้าอย่างเปิดเผย เป็นราคายุติธรรม

สิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอต้องการ ความจริงก็คือป้ายคำสั่งใต้ดิน แต่คิดจะหล่อเลี้ยงความสนใจที่ผู้คนมีต่อป้ายคำสั่ง เช่นนั้นยิ่งมีฐานลูกค้าในสาธารณะมากเท่าไรก็ยิ่งดีมากเท่านั้น

เช่นนี้ตึกความลับฟ้าถึงจะมีอิทธิพล

การใช้อำนาจพิเศษในตึกความลับฟ้าได้ จึงจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ ทำให้ผู้คนจำนวนมากรีบร้อนราวกับเป็ด

เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว การเปิดตึกเป็นครั้งที่สองอย่างเปิดเผยของตึกความลับฟ้าที่ทุกคนรอคอยในที่สุดก็มาถึง

ครั้งนี้มีเรื่องที่ทำให้เหล่าลูกค้าไม่พอใจ

จำนวนของยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้น หนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของตึกความลับฟ้ามีจำนวนน้อยกว่าครั้งที่แล้วเกือบครึ่งหนึ่ง

ทว่าไม่ทันไร ความสนใจของผู้คนก็ถูกเรื่องอื่นดึงดูด

ครั้งนี้ตึกความลับฟ้าจำหน่ายของวิเศษชิ้นใหม่ เป็นของวิเศษที่ตอนเปิดตึกครั้งแรกไม่มี

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี