ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1140

จักรพรรดิแพรคนใด?

วาจานี้ของเยี่ยนจ้าวเกอพอฟังดูกลับน่าหัวเราะอยู่บ้าง แต่ความจริงกลับเป็นปัญหาที่เอาจริงเอาจังยิ่ง

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำหรือจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว ล้วนมีนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

อาหู่รู้ความแตกต่างดี ดังนั้นจึงตอบว่า “อาภรณ์ดำ!”

“อาภรณ์ดำ?” เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่ว่าจะดูจากด้านเยี่ยนตี๋กับเมฆแปลงกำเนิด หรือเมิ่งหว่านกับฟู่ถิง จุดยืนของเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำอยู่ตรงกันข้ามกัน ทุกคนเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู

หลายปีมานี้ ระหว่างพวกเขาไม่มีเรื่องราวใด เพียงแต่เป็นเพราะว่าต่างฝ่ายต่างสะกดกันเอง และส่วนใหญ่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก

“เป็นข่าวที่ส่งมาจากยอดเขาอัศจรรย์” อาหู่กล่าวอย่างจนปัญญา “เป็นท่านที่ใส่อาภรณ์ดำไม่ผิดแน่”

ถึงแม้ต้องการจะกำจัดฟู่ถิงและเมิ่งหว่าน แต่ว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกลับไม่มีเจตนาเป็นศัตรูกับคนอื่นๆ ในยอดเขาอัศจรรย์

แน่นอนว่าไม่อาจพูดถึงความสัมพันธ์ใดๆ แต่สำหรับเขาแล้ว ลูกศิษย์ในสำนักไม่ใช่สิ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้ ในด้านที่ส่งผลดีต่อเขาเช่นกันย่อมไม่อาจละทิ้ง

นอกเสียจากว่า คนของยอดเขาอัศจรรย์จะสนับสนุนจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว หรือขัดขวางจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำอย่างชัดเจน

ตอนนี้พวกเหอซีสิงยังคงรักษาท่าทีเป็นกลาง สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิแพรแพรอาภรณ์ขาวหรืออาภรณ์ดำ ความจริงก็ถือเป็นผู้ปกครองยอดเขาอัศจรรย์อยู่ดี

ไม่ว่าสุดท้ายใครชะมีชัย ยอดเขาอัศจรรย์ก็ยังมีจักรพรรดิแพรเป็นผู้ปกครอง

ถึงแม้ว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะไม่ค่อยน่าคบหา แต่ทุกคนย่อมไม่ต่อต้าน

นอกจากว่าส่วนใหญ่จะแสร้งเป็นเลอะเลือน ทำเป็นคนหูหนวกต่อเรื่องจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวกับฟู่ถิงแล้ว จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเมื่อมีคำขอหรือคำสั่งใด ทั่วทั้งยอดเขาอัศจรรย์ก็ได้แต่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ยังดีที่ก่อนที่สองจักรพรรดิแพรจะมีผลแพ้ชนะอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นอาภรณ์ดำหรืออาภรณ์ขาวก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้แก่พวกเหอซีสิง นับว่าทำให้ทุกคนโล่งใจ

ถึงจะทราบว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำคล้ายไม่ถูกกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง แต่คนของยอดเขาอัศจรรย์ไม่เห็นสาเหตุที่ชัดเจน จึงหวังจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกันอย่างเต็มที่

ดังนั้นเหอซีสิงจึงมายังตึกความลับฟ้าในฐานะตัวแทน ติดต่อแทนอาจารย์ของตัวเอง หวังให้ตึกความลับฟ้ายินยอม อย่ายึดถือความขัดแย้ง

เขากลับไม่ทราบว่า ความขัดแย้งระหว่างเขากว่างเฉิงกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำแทบไม่อาจไกล่เกลี่ยได้ นอกเสียจากจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำยินยอมหยุดอยู่ในระดับนี้ ไม่พัฒนาขึ้นอีก

“ตอบรับเขา” เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดครู่หนึ่ง กลับเห็นด้วย

“…ขอรับคุณชาย” อาหู่ใช้สายตาประหลาดใจมองมา เยี่ยนจ้าวเกอจึงใช้นิ้วนวดขมับของตัวเองเบาๆ “เรื่องราวผิดธรรมดาย่อมมีเลศนัย ข้าอยากรู้ว่าเขาวางแผนอะไร หากไม่ให้เขามา ก็ไม่อาจทราบถึงร่องรอยและทิศทางของเขา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ปล่อยให้เขามาเถอะ”

หลังจากที่ชิวเจียไห่ซึ่งคอยคุ้มครองตึกความลับฟ้าได้ฟังข่าว ก็อดตื่นตระหนกไม่ได้ “จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะมา? ถ้าเกิดว่าอาละวาดขึ้นมา งานประมูลคงดำเดินต่อไปไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นจักรพรรดิคนหนึ่ง”

“ท่านชิวโปรดวางใจ จักรพรรดินีเองก็มาเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้ด้วย” อาหู่อธิบาย

ชิวเจียไห่พอฟังดังนั้นก็โล่งใจ “ที่แท้เป็นเช่นนี้ อย่างนั้นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”

เขาถามอย่างประหลาดใจ “จริงด้วย ศิษย์น้องเยี่ยนเล่า ตอนนี้ของที่จะใช้ประมูลล้วนครบแล้ว เขายังอยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกรอีกหรือ”

“คุณชายเขา…อืม กำลังดูแลโร่วโร่วที่นายหญิงทิ้งไว้” อาหู่ยิ้มอย่างสัตย์ซื่อ

ชิวเจียไห่มึนงง “โร่วโร่ว?”

แต่พูดถึงที่สุด การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้เชื่องและดูแลบ้านได้

ตัวโง่งมบางตัวที่มีความสามารถดูแลบ้าน ทว่าหลายๆ ครั้งก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน…

เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่า ในตอนที่ตนไม่อยู่ โร่วโร่วจะถูกพ่านพ่านกลั่นแกล้งอย่างไร

ไม่ทราบว่าเป็นความรู้สึกหลอนหรือไม่ เจ้าอ้วนที่ยิ่งมายิ่งเหมือนมนุษย์ มีสติปัญญาปราดเปรียวขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้คล้ายกับเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

มันเคยแว้งกัดอาหู่ เพราะว่าอาหู่เอามือไปชนใส่หูของมัน

แม้จะผ่านไปแล้วหลายปี ทว่าเสียงร้องโอดโอยในตอนนั้นของอาหู่ก็คล้ายยังดังขึ้นข้างหู่เยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เขาทราบว่าคนคนหนึ่งส่งเสียงร้องดังได้ขนาดไหน

และหลังจากเกิดเรื่องแล้วเจ้าอ้วนก็ทำหน้าซื่อตาใส แสดงสีหน้าบอกว่า ‘เขาลงมือก่อน’ ทำให้อาหู่อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา

“หลายปีมานี้ข้าเองก็เอาใจเจ้าโร่วโร่วมากไป โอ๋มันเสียยิ่งกว่าตอนที่อวิ๋นเซิงอยาเสียอีก สมควรหาคนมาเล่นบทดุแทนข้า ส่วนข้าก็เล่นบทคนดี” เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนทบทวนตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่มองเห็นสายตาน่าสงสารของโร่วโร่ว เขาโยนมันให้พ่านพ่าน จากนั้นก็ออกจากหุบเขาผีเสื้อมังกร มุ่งหน้าไปยังตึกความลับฟ้า

หลังจากรั้งอยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกรระยะหนึ่ง พอเยี่ยนจ้าวเกอไปถึงตึกความลับฟ้าในเมืองหยวนโจว ก็นับใกล้จะถึงวันเปิดงานประมูลแล้ว

เขาย่อมไม่ได้อยู่ที่หุบเขาผีเสื้อมังกรเพื่อโร่วโร่วเพียงอย่างเดียว แต่ยังจัดการเรื่องอื่นๆ ไปด้วย มาวันนี้ถึงค่อยถือว่าเตรียมการเสร็จสรรพ

แต่พูดไปก็นับว่าบังเอิญนัก ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงตึกความลับฟ้า เหนือเมืองหยวนโจวก็ปรากฏปราณม่วงที่มีรัศมีหมื่นลี้พอดี

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ตาเป็นประกายเล็กน้อย “โอ้? จักรพรรดิแพรหรือ”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี