จักรพรรดิแพรคนใด?
วาจานี้ของเยี่ยนจ้าวเกอพอฟังดูกลับน่าหัวเราะอยู่บ้าง แต่ความจริงกลับเป็นปัญหาที่เอาจริงเอาจังยิ่ง
จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำหรือจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว ล้วนมีนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
อาหู่รู้ความแตกต่างดี ดังนั้นจึงตอบว่า “อาภรณ์ดำ!”
“อาภรณ์ดำ?” เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่ว่าจะดูจากด้านเยี่ยนตี๋กับเมฆแปลงกำเนิด หรือเมิ่งหว่านกับฟู่ถิง จุดยืนของเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำอยู่ตรงกันข้ามกัน ทุกคนเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู
หลายปีมานี้ ระหว่างพวกเขาไม่มีเรื่องราวใด เพียงแต่เป็นเพราะว่าต่างฝ่ายต่างสะกดกันเอง และส่วนใหญ่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก
“เป็นข่าวที่ส่งมาจากยอดเขาอัศจรรย์” อาหู่กล่าวอย่างจนปัญญา “เป็นท่านที่ใส่อาภรณ์ดำไม่ผิดแน่”
ถึงแม้ต้องการจะกำจัดฟู่ถิงและเมิ่งหว่าน แต่ว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกลับไม่มีเจตนาเป็นศัตรูกับคนอื่นๆ ในยอดเขาอัศจรรย์
แน่นอนว่าไม่อาจพูดถึงความสัมพันธ์ใดๆ แต่สำหรับเขาแล้ว ลูกศิษย์ในสำนักไม่ใช่สิ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้ ในด้านที่ส่งผลดีต่อเขาเช่นกันย่อมไม่อาจละทิ้ง
นอกเสียจากว่า คนของยอดเขาอัศจรรย์จะสนับสนุนจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว หรือขัดขวางจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำอย่างชัดเจน
ตอนนี้พวกเหอซีสิงยังคงรักษาท่าทีเป็นกลาง สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิแพรแพรอาภรณ์ขาวหรืออาภรณ์ดำ ความจริงก็ถือเป็นผู้ปกครองยอดเขาอัศจรรย์อยู่ดี
ไม่ว่าสุดท้ายใครชะมีชัย ยอดเขาอัศจรรย์ก็ยังมีจักรพรรดิแพรเป็นผู้ปกครอง
ถึงแม้ว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะไม่ค่อยน่าคบหา แต่ทุกคนย่อมไม่ต่อต้าน
นอกจากว่าส่วนใหญ่จะแสร้งเป็นเลอะเลือน ทำเป็นคนหูหนวกต่อเรื่องจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวกับฟู่ถิงแล้ว จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเมื่อมีคำขอหรือคำสั่งใด ทั่วทั้งยอดเขาอัศจรรย์ก็ได้แต่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ยังดีที่ก่อนที่สองจักรพรรดิแพรจะมีผลแพ้ชนะอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นอาภรณ์ดำหรืออาภรณ์ขาวก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้แก่พวกเหอซีสิง นับว่าทำให้ทุกคนโล่งใจ
ถึงจะทราบว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำคล้ายไม่ถูกกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง แต่คนของยอดเขาอัศจรรย์ไม่เห็นสาเหตุที่ชัดเจน จึงหวังจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกันอย่างเต็มที่
ดังนั้นเหอซีสิงจึงมายังตึกความลับฟ้าในฐานะตัวแทน ติดต่อแทนอาจารย์ของตัวเอง หวังให้ตึกความลับฟ้ายินยอม อย่ายึดถือความขัดแย้ง
เขากลับไม่ทราบว่า ความขัดแย้งระหว่างเขากว่างเฉิงกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำแทบไม่อาจไกล่เกลี่ยได้ นอกเสียจากจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำยินยอมหยุดอยู่ในระดับนี้ ไม่พัฒนาขึ้นอีก
“ตอบรับเขา” เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดครู่หนึ่ง กลับเห็นด้วย
“…ขอรับคุณชาย” อาหู่ใช้สายตาประหลาดใจมองมา เยี่ยนจ้าวเกอจึงใช้นิ้วนวดขมับของตัวเองเบาๆ “เรื่องราวผิดธรรมดาย่อมมีเลศนัย ข้าอยากรู้ว่าเขาวางแผนอะไร หากไม่ให้เขามา ก็ไม่อาจทราบถึงร่องรอยและทิศทางของเขา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ปล่อยให้เขามาเถอะ”
หลังจากที่ชิวเจียไห่ซึ่งคอยคุ้มครองตึกความลับฟ้าได้ฟังข่าว ก็อดตื่นตระหนกไม่ได้ “จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะมา? ถ้าเกิดว่าอาละวาดขึ้นมา งานประมูลคงดำเดินต่อไปไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นจักรพรรดิคนหนึ่ง”
“ท่านชิวโปรดวางใจ จักรพรรดินีเองก็มาเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้ด้วย” อาหู่อธิบาย
ชิวเจียไห่พอฟังดังนั้นก็โล่งใจ “ที่แท้เป็นเช่นนี้ อย่างนั้นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”
เขาถามอย่างประหลาดใจ “จริงด้วย ศิษย์น้องเยี่ยนเล่า ตอนนี้ของที่จะใช้ประมูลล้วนครบแล้ว เขายังอยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกรอีกหรือ”
“คุณชายเขา…อืม กำลังดูแลโร่วโร่วที่นายหญิงทิ้งไว้” อาหู่ยิ้มอย่างสัตย์ซื่อ
ชิวเจียไห่มึนงง “โร่วโร่ว?”
แต่พูดถึงที่สุด การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้เชื่องและดูแลบ้านได้
ตัวโง่งมบางตัวที่มีความสามารถดูแลบ้าน ทว่าหลายๆ ครั้งก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน…
เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่า ในตอนที่ตนไม่อยู่ โร่วโร่วจะถูกพ่านพ่านกลั่นแกล้งอย่างไร
ไม่ทราบว่าเป็นความรู้สึกหลอนหรือไม่ เจ้าอ้วนที่ยิ่งมายิ่งเหมือนมนุษย์ มีสติปัญญาปราดเปรียวขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้คล้ายกับเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
มันเคยแว้งกัดอาหู่ เพราะว่าอาหู่เอามือไปชนใส่หูของมัน
แม้จะผ่านไปแล้วหลายปี ทว่าเสียงร้องโอดโอยในตอนนั้นของอาหู่ก็คล้ายยังดังขึ้นข้างหู่เยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เขาทราบว่าคนคนหนึ่งส่งเสียงร้องดังได้ขนาดไหน
และหลังจากเกิดเรื่องแล้วเจ้าอ้วนก็ทำหน้าซื่อตาใส แสดงสีหน้าบอกว่า ‘เขาลงมือก่อน’ ทำให้อาหู่อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา
“หลายปีมานี้ข้าเองก็เอาใจเจ้าโร่วโร่วมากไป โอ๋มันเสียยิ่งกว่าตอนที่อวิ๋นเซิงอยาเสียอีก สมควรหาคนมาเล่นบทดุแทนข้า ส่วนข้าก็เล่นบทคนดี” เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนทบทวนตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่มองเห็นสายตาน่าสงสารของโร่วโร่ว เขาโยนมันให้พ่านพ่าน จากนั้นก็ออกจากหุบเขาผีเสื้อมังกร มุ่งหน้าไปยังตึกความลับฟ้า
หลังจากรั้งอยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกรระยะหนึ่ง พอเยี่ยนจ้าวเกอไปถึงตึกความลับฟ้าในเมืองหยวนโจว ก็นับใกล้จะถึงวันเปิดงานประมูลแล้ว
เขาย่อมไม่ได้อยู่ที่หุบเขาผีเสื้อมังกรเพื่อโร่วโร่วเพียงอย่างเดียว แต่ยังจัดการเรื่องอื่นๆ ไปด้วย มาวันนี้ถึงค่อยถือว่าเตรียมการเสร็จสรรพ
แต่พูดไปก็นับว่าบังเอิญนัก ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงตึกความลับฟ้า เหนือเมืองหยวนโจวก็ปรากฏปราณม่วงที่มีรัศมีหมื่นลี้พอดี
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ตาเป็นประกายเล็กน้อย “โอ้? จักรพรรดิแพรหรือ”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี