ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1145

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่ได้เกิดความรู้สึกตกตะลึง

เพียงแต่ว่าสงสัยและคิดทดลองหาคำตอบในปรากฏการณ์ที่ขัดกับสามัญสำนึก

แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้าก็อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายแล้ว!

ก่อนลงมือ เเยี่ยนจ้าวเกออยู่ในรูปโฉมเดิม ภายนอกเหมือนกับคนธรรมดาที่ไม่เคยร่ำเรียนวรยุทธ์สักวันเดียว

จนกระทั่งสองฝ่ายปะทะกำลังกัน เลศนัยจึงเผยออกมา

จุดลมปราณที่ได้ทำลายนภาเห็นเทวะสำแดงทั่วร่างเคลื่อนไหวเหมือนกับดวงดาวที่แท้จริงในอวกาศ

ดวงดารานอกจากจะดับสูญแล้ว ยังเกิดขึ้นมาใหม่!

ดวงดาวดวงหนึ่งก้าวสู่จุดจบ สุดท้ายดับแสง แต่กลับมีดวงดาวดวงใหม่กำเนิดขึ้น

ดวงดาวนับไม่ถ้วนมีเส้นทางการโคจรเฉพาะตัว เคลื่อนไหวอย่างอิสระ เป็นระเบียบเรียบร้อยและมีกฎเกณฑ์

เกิดดับกลับกลายไม่หยุดยั้ง พลังของจอมยุทธ์ก้าวสู่ระดับใหม่โดยสิ้นเชิง

จุดลมปราณทั่วร่างมีเพียงจุดลมปราณซ่อนเร้น และจุดลมปราณลับที่ยังไม่ทะลายนภาห็นเทวะสำแดง

ขอแค่จุดลมปราณทั้งหมดต่างได้เห็นเทวะสำแดง ก็หมายความว่าสำเร็จร่างของมนุษย์เซียน ก้าวสู่ระดับประมุข ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์

เทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอตอนที่ยังอยูในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดในนพยมโลก ย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนกระดูกสร้างเส้นเอ็น

ตอนจักรพรรดิแพรอยู่ในนพยมโลก เขาได้สัมผัสกับเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดด้วยตัวเอง ถึงแม้เขาในตอนนั้นจะยังไม่ได้แยกจากหนึ่งเป็นสอง กลายเป็นคนสองคนที่สวมอาภรณ์ดำขาว แต่ก็จำได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

เทียบกับสองสภาวะ เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้เมื่อเทียบกับครั้งนั้นมีความแตกต่างอย่างชัดเจน จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเข้าใจดี

แต่ยิ่งทำให้เขาเกิดความสงสัยกว่าเดิม

เป็นคนอื่นยังพอว่า ตอนอยู่ในนพยมโลก เขาได้เห็นเยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนจากระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด สู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดด้วยตาตัวเอง

คนอื่นๆ ไม่เข้าใจสถานการณ์ เขาไหนเลยจะไม่เข้าใจ

ถึงจะดูออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้น่าจะเพิ่งเลื่อนมาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า แต่ห่างจากตอนอยู่ในนพยมโลกยังไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ!

ยิ่งระดับสูง การเลื่อนระดับก็ยิ่งลำบาก เวลาที่ต้องใช้ย่อมมากตามไปด้วย

พอมาถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน ทุกๆ ย่างก้าวต่างยากลำบากสุดแสน

คนส่วนใหญ่เมื่อหยุดอยู่ในระดับหนึ่ง อาจกินเวลาเป็นสิบกว่าปี หลายสิบปี หรือแม้แต่มากกว่าร้อยปี

พวกเขาไม่มีความสามารถหรือ

จอมยุทธ์ที่ปีนขึ้นสะพานเซียนได้ ไม่มีผู้ใดไม่ใช่หงส์มังกรในหมู่คน หรืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ

แต่ว่าเส้นทางยิ่งทอดสูงก็ยิ่งเดินลำบาก หลักการนี้ใช้ได้กับทุกคน

จักรพรรดิแพรงามสามารถผลักเปิดประตูเซียนได้ ย่อมเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน แต่ครั้งกระโน้นเขาเร็วไม่เท่าเยี่ยนจ้าวเกอ

โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงว่าเยี่ยนตี๋บิดาของเขาก็มีความเร็วในการเติบโตน่าตระหนกเช่นกัน จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ “พ่อลูกตระกูลเยี่ยน ล้วนเป็นมนุษย์เซียนผู้ถูกเนรเทศ…หรือ”

“จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ ขอล่วงเกินแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ในการต่อสู้ระหว่างท่านกับจักรพรรดิแพรอีกคนหนึ่ง บอกตามตรงว่าข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่ได้ยืนอยู่ข้างท่าน ด้วยเหตุผลอะไรท่านล้วนรู้อยู่เต็มอก ทว่าแม้ข้าจะสนับสนุนจักรพรรดิแพรท่านนั้น แต่ก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้สู้กับท่านเร็วขนาดนี้”

เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มขึ้น “ถ้าหากไม่ใช่เพราะข้ามีเรื่องต้องต้องรีบจัดการ ความจริงนับว่าไม่เลว มนุษย์สู้เซียนคงเป็นเรื่องที่สาแก่ใจยิ่งง!”

คำพูดของทั้งสองฝ่ายไม่ได้ปกปิดอันใด ดังไปทั่วตึกความลับฟ้า ผู้คนยามนี้ค่อยเหมือนตื่นจากหลับใหล

จากนั้นก็เป็นความซึมเซาที่เกิดขึ้นจากความตกตะลึงที่มากกว่าเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอ เซียนผู้ถูกเนเรศใช้พลังฝึกปรือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายท้าสู้จักรพรรดิแพรงามที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนแล้วซึ่งหน้า!

เรื่องที่จักรพรรดิแพรแบ่งจากหนึ่งเป็นสองคนยังคงกระจายอยู่ในหมู่คนไม่กี่คน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงแตกตื่นเป็นพิเศษ

ต่อให้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์ที่ประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวสู้เสมอจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัด เนี่ยจิงเสินสู้เสมอกับเฉินเฉียนหัว คนที่อยู่รอบๆ ในตอนนี้ก็ยังคงตะลึงพรึงเพริด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี