“การเปลี่ยนแปลงของเพลงกระบี่เจ็ดดารานั้นลึกลับ ลึกซึ้ง และซับซ้อน เป็นวิถีแห่งกระบี่ที่เปลี่ยนจากยากไปง่าย”
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอประมือกับลู่เวิ่น ก็กล่าวอธิบายให้จ้าวหมิงฟังไปด้วย
ระหว่างที่ทั้งสองประมือกัน ในชั่ววินาทีที่โจมตีและตั้งรับ การแย่งชิงตำแหน่งของดาวเหนือก็เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน
ผู้ที่ยึดครองตำแหน่งดาวเหนือจะโจมตีศัตรูให้ล่าถอยไป แต่ถ้าตำแหน่งของดาวเหนือถูกศัตรูยึดไปได้ ตนเองก็จะเป็นฝ่ายเสียโอกาส
“ผู้ชนะได้สิทธิควบคุม นี่ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าอยากจะทำให้ได้ถึงจุดนี้จริงๆ การนำใจความสำคัญในหนังสือ แปรเปลี่ยนให้เป็นเรื่องที่ตนเองสามารถทำได้ นั่นก็ต้องสะสมประสบการณ์”
ในขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด ชั่วพริบตาที่เคลื่อนตัว เขาใช้นิ้วแทนกระบี่ เงากระบี่ก็พุ่งตัวออกไป
เงากระบี่ทั้งเจ็ดก็ปรากฏกลางอากาศแวบหนึ่ง ประดุจกับดาวเหนือเจ็ดดวง
“การสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้จริง และการสั่งสมความความรู้ความเข้าใจในวิถีกระบี่ ถึงจะทำให้เจ้าได้เปรียบและใช้มันได้ตามใจในทุกสถานการณ์”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มให้จ้าวหมิง แล้วพูดว่า “เจ็ดดารารวมตัวกัน ดาวเหนือลอยสูง พูดง่ายแต่จะทำให้ได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อครู่ข้าถึงบอกอย่างไรเล่า ว่าเหมาะที่เจ้าจะฝึกฝนมัน”
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด ชายหนุ่มก็ก้าวเท้าออกมาก้าวหนึ่ง ยึดตำแหน่งดาวเหนือไว้ จากนั้นเงากระบี่ทั้งเจ็ดก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางลู่เวิ่น
สีหน้าของลู่เวิ่นนิ่งเฉย เพราะตอนนี้เขากำลังอยู่ในท่าเดียวกันกับอีกฝ่าย ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่งเช่นเดียวกัน กระบี่ทั้งเจ็ดลอยอย่างพร้อมเพรียงกัน
ขาขวาของทั้งสอง ปลายเท้าประจันเข้าหากันทันที!
เงากระบี่สั่นไหวกลางท้องฟ้า คล้ายกับกระบี่ยาวจริงๆ กำลังปะทะกัน และมีเสียงเหล็กกระทบดังขึ้นรางๆ
ทั้งสองปะทะกันครั้งหนึ่งแล้วถอยทันที หลังจากประจันกันครั้งหนึ่ง และถอยกลับพร้อมกัน ทั้งคู่ก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอีกครั้งทันที!
แม้จะต่อสู้กันแค่เพียงการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่า ไม่ได้ปล่อยพลังจริงๆ ออกมา แต่ภายในหอคัมภีร์ก็เหมือนจะสั่นสะเทือนอยู่ไม่น้อย
ถึงกระนั้นระหว่างที่กระบี่ฟาดฟันกันไปมา ยอดศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งสองของเขากว่างเฉิงก็ได้แสดงความอัศจรรย์ของเพลงกระบี่เจ็ดดาราออกมาแล้ว
พลังกระบี่หนึ่งลึกซึ้งประณีต ราวกับเส้นทางในยามวิกาลเปล่งประกายระยิบระยับชั่วนิรันดร์ ส่วนอีกกระบวนกระบี่หนึ่งกลับโอ่อ่าผ่าเผย เสมือนจักรวาลที่กำลังเคลื่อนตัว
หลังจากประมือกันครู่หนึ่ง แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็เริ่มทอประกาย เพราะเขาเริ่มรู้ทางกระบี่ของลู่เวิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
แววตาของลู่เวิ่นเองก็วูบไหวเช่นกัน มีความรู้สึกว่าจับทิศทางของอีกฝ่ายได้แล้ว
ทั้งสองเคลื่อนไหวด้วยวิชากาย แย่งชิงตำแหน่งดาวเหนือกันอีกครั้งหนึ่ง
ต่อสู้กันมาจนถึงตอนนี้ เจตจำนงกระบี่ของทั้งสองคนก็ถูกขับเคลื่อนจนเต็มกำลัง สถานการณ์การต่อสู้มาถึงช่วงตัดสินแพ้ชนะแล้ว
ในเวลานี้ผู้ใดสามารถยึดตำแหน่งดาวเหนือได้ อีกฝ่ายก็จะชิงกลับไปได้ยากยิ่งขึ้น และจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบไป ส่วนฝ่ายที่ครอบครองตำแหน่งดาวเหนือ จะได้รับชัยชนะไป!
เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วมือแทนกระบี่ เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังขึ้น เขาปลดปล่อยพลังของกระบี่จนถึงขีดสุด ราวกับในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยความขุ่นเคืองของเพลงกระบี่เจ็ดดาราที่ถูกลู่เวิ่นข่มไว้มานาน
เงากระบี่ทั้งเจ็ดสั่นไหวอยู่กลางอากาศ แล้วเทตัวลงมาประหนึ่งกับฝนดาวตก โจมตีไปทางลู่เวิ่น
เจ็ดดาราขึ้นเหนือ!
กระบวนท่าที่แก่กล้าที่สุดของเพลงกระบี่เจ็ดดารา!
“ดูท่าหลายปีมานี้เจ้าไม่ได้ทิ้งเพลงกระบี่เจ็ดดาราไปจริงๆ สินะ ถึงได้มีผลสัมฤทธิ์เช่นนี้”
ลู่เวิ่นกล่าวอย่างนิ่งเฉยว่า “สู้กับข้าได้สูสีนานเช่นนี้ เพลงกระบี่เจ็ดดาราของเจ้าก็เหนือกว่าคนอื่นๆ มากแล้ว หากตอนนั้นระดับความสามารถของเจ้าเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องไปคิดวิชามังกรเขียวในชายเสื้ออะไรนั่นแล้วละ”
ระหว่างที่พูด ลู่เวิ่นก็โจมตีด้วยพลังเจ็ดดาราขึ้นเหนือของทั้งเจ็ดกระบี่เช่นเดียวกัน เข้าปะทะกับเยี่ยนจ้าวเกออย่างซึ่งหน้า
กระบี่ของทั้งสองคนกระทบกันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าพลังกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอหมดแล้ว พลังกระบี่ของลู่เวิ่นก็เปลี่ยนไป “เจ้าพัฒนาขึ้น แต่ข้าพัฒนามากกว่าเจ้าอีก”
ลู่เวิ่นใช้นิ้วมือแทนกระบี่ พลังกระบี่กวัดแกว่ง จู่ๆ เจ็ดกระบี่ก็กลายเป็นหกกระบี่
นั่นไม่ใช่กระบี่เจ็ดดาราตามความหมายอีกต่อไป แต่หลอมรวมเข้ากับการเปลี่ยนแปลงตามความเข้าใจของลู่เวิ่นที่มีต่อวิถีกระบี่ของตน!
กลุ่มดาวไถเจ็ดดารา กับกลุ่มดาวคนยิงธนูหกดารา ขณะนี้ส่องสว่างระยิบระยับขึ้นพร้อมกัน!
กลุ่มดาวไถกุมความตาย กลุ่มดาวคนยิงธนูกุมการกำเนิดชีวิต
เดิมทีลู่เวิ่นได้เปลี่ยนแปลงถึงจุดสิ้นสุดของเพลงกระบี่เจ็ดดาราแล้ว แต่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นใหม่อีกครั้ง!
แม้ในใจจะรู้ว่าผิดปกติ กระนั้นลู่เวิ่นก็ทำได้เพียงกัดฟันแล้วก้าวไปข้างหน้า เพื่อแย่งชิงอำนาจฝ่ายรุกคืนมา
แต่พอร่างกายเริ่มขยับ เยี่ยนจ้าวเกอที่เดิมทีถอยกลับไปครึ่งก้าว ก็พลันสาวเท้ามาข้างหน้าก้าวหนึ่งอย่างรวดเร็ว!
ความเร็วของเยี่ยนจ้าวเกอในขณะนี้ รวดเร็วเสียกว่าตอนที่เขาถอยหลังไปเสียอีก ราวกับเขาไม่ได้คิดจะถอยหลังไปตั้งแต่แรก และเดิมทีเตรียมจะก้าวมาข้างหน้าอยู่แล้ว
การถอยหลังอย่างรวดเร็ว และการก้าวไปข้างหน้าอย่างกระชั้นชิดนี้ ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงพริบตา ไม่มีการลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย กระนั้นกลับดูเหมือนง่ายดายยิ่งนัก ไม่มีความรู้สึกแข็งทื่อเลยสักนิด
การก้าวรุดไปข้างหน้าครั้งนี้ ก็เกิดจากกระบวนท่าของเพลงกระบี่เจ็ดดาราที่ส่งออกมา
ลู่เวิ่นเบิกตาโพลง เขาในตอนนี้ราวกับส่งตัวเองไปที่ปลายดาบของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตนเอง!
“ก็เป็นเช่นนี้แหละ”
เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบี่แล้วยืดตัวตรง ไม่ได้มองลู่เวิ่นแต่อย่างใด แต่หันศีรษะกลับไปยิ้มและพูดกับจ้าวหมิง
จ้าวหมิงอ้าปากกว้าง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา หลังจากสักพักใหญ่ถึงได้หัวเราะแห้งๆ “คนหนึ่งคืออัจฉริยะ ส่วนอีกคนก็คืออัจฉริยะที่สามารถเอาชนะอัจฉริยะได้!”
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่ในอดีตเอาชนะลู่เวิ่นไม่ได้ และดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปฝึกวิถีกระบี่อื่นแทน ทว่าสุดท้ายกับซุ่มฝึกอีกครั้งอย่างเงียบๆ ดังคำกล่าวที่ว่า ‘หกล้ม ณ แห่งหนใด ก็จงลุกขึ้นยืน ณ ที่แห่งนั้น’
ลู่เวิ่นจ้องเยี่ยนจ้าวเกอไม่วางตา พลางกล่าวด้วยเสียงแหบแห้งว่า “เจ้ารู้การเปลี่ยนแปลงสุดท้ายจากตายแล้วเกิด จากว่างเปล่าถึงมีอยู่ของข้าแล้วหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาครั้งหนึ่ง แล้วตวัดมือ ใช้นิ้วแทนกระบี่ ปล่อยพลังเจ็ดดาราขึ้นเหนือไปที่กลางอากาศครั้งหนึ่ง ครั้นพลังกระบี่ถึงจุดสิ้นสุด ก็พลันกลายสภาพเป็นกระบี่กลุ่มคนยิงธนูทันที เมื่อพลังเก่าหมดสิ้นไป ก็เกิดพลังใหม่ขึ้นกลางอากาศ
ดูเหมือนใช้พลังทั้งหมดจนสิ้น ทว่าความจริงแล้วกลับมีพลังใช้เหลือเฟือ
“เพราะว่าข้าก็ทำได้อย่างไรเล่า” เยี่ยนจ้าวเกอผายมือออก
ลู่เวิ่นปิดเปลือกตาลง
การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าสุดท้ายของเยี่ยนจ้าวเกอ เขากลับทำไม่ได้
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี