“ต่อจากนี้ข้าต้องไปคืนกระบี่เปิดกำเนิดที่เขาคุนหลุน” เยี่ยนจ้าวเกอแย้มยิ้ม “เรื่องของตึกความลับฟ้าก็จำเป็นต้องจัดการ ถึงเวลานั้นถ้าได้เจอเสี่ยวอ้าย เมื่อบอกต่อนาง นางคงมาหาท่านที่นี่โดยไม่เสียเวลาแน่”
เสวี่ยชูฉิงยิ้มเล็กน้อย “เด็กน้อยผู้นั้น…”
“จริงด้วยท่านแม่ ท่านต้องการพบศิษย์น้องซือคงหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอถาม “อืม ยังมีคนอื่นๆ ที่คล้ายนาง ซึ่งข้าเจอโดยบังเอิญและพากลับเขากว่างเฉิง”
เสวี่ยชูฉิงสั่นศีรษะเบาๆ “บอกตามตรง ข้าละอายใจต่อพวกเขา เป็นข้าทำให้ชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบ”
เยี่ยนจ้าวเกอพลันนึกอีกเรื่องหนึ่งได้ ถามว่า “ท่านแม่ ตอนท่านกระจายเศษศิลาฟ้ากำเนิด ท่านมีแบบแผนอะไรหรือไม่ ถ้าหากมีแบบแผน เช่นนั้นเป็นไปตามค่าเฉลี่ยของจำนวนโลก หรือเป็นไปตาค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากร”
“ตามปฏิกิริยาในตอนแรก โลกใบหนึ่งประชากรยิ่งมาก เช่นนั้นจำนวนที่ปรากฏคนเช่นนี้ก็ยิ่งมากตาม” เสวี่ยชูฉิงประหลาดใจเล็กน้อย “ข้าย่อมหวังจะเฉลี่ยไปยังโลกแต่ละใบได้ ไม่อย่างนั้นจำนวนบนโลกซ้อนโลกเกรงว่าจะเหนือกว่าผลรวมของโลกเบื้องล่าง ออกจะสะดุดตาเกินไป น่าเสียดายที่เหลือนี้ไม่ใช่ข้าตัดสินใจได้”
นางรู้สึกได้อย่างประเปรียว “เพื่อป้องกันไม่ให้คนมองเห็นเลศนัย และออกตามหาพวกเขาเพราะข้า ข้าจึงหลีกเลี่ยงไม่ติดต่อกับบุคคลคล้ายๆ กัน พวกเขามีหน้าตาอย่างไรหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สบตากัน เยี่ยนตี๋ลูบฝ่ามือใส่ความว่างเปล่า ปรากฏรูปเหมือนเงาแสงแถวหนึ่ง
ขณะมองซือคงจิง เหออิ่ง เยว่เป่าฉีที่หน้าตาเหมือนกัน เสวี่ยชูฉิงไม่ทราบจะกล่าวกระไรดี
“หน้าตาโดดเด่นขนาดนี้…”
เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกสีหน้าฉายแววหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
“ไม่ใช่แค่หน้าตาโดดเด่นเท่านั้น พรสวรรค์วรยุทธ์ก็เหนือกว่าผู้คนขั้นหนึ่ง แต่ว่าต้องฝึกปราณเป็นจิตรา อยู่ในระดับปรมาจารย์ก่อนถึงจะปรากฏให้เห็น” เยี่ยนตี๋กล่าว
เสวี่ยชูฉิงมีสีหน้าอึดอัด “…วันนี้จึงค่อยพบว่า ตอนนั้นข้าได้ทำเรื่องโง่เง่าประการหนึ่ง”
คนที่มีหน้าตาโดดเด่นสะดุดตา และมีพรสวรรค์ล้ำเลิศเฉกเช่นพวกซือคงจิง ทั้งยังมีจำนวนมหาศาล มิหนำซ้ำรูปร่างหน้าตายังเหมือนกัน หวังให้คนไม่คิดให้ความสนใจยังยากเย็น
ต่อให้หลายคนในนี้จะถูกกลบฝัง แต่ว่าจำนวนเมื่อมากเกินไป ก็ยังคงอาจจะถูกคนที่ตั้งใจค้นพบ
หากว่าใบหน้าธรรมดายังพอทำเนา ความโดดเด่นเช่นนี้ หากโยนไปกองไว้ด้วยกันก็มักถูกคนอื่นๆ สังเกตเห็นในทันที แล้วจะซ่อนได้อย่างไร
โดยเฉพาะบนโลกซ้อนโลก เป็นเพราะจำนวนประชากร คนที่คล้ายกันเกรงว่าจะมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยไปจนถึงพันคน
“ดูจากความหมายในวาจาของพวกเจ้า บนโลกซ้อนโลกนี้เหมือนเจอไม่มากเท่าไรกระมัง” เสวี่ยชูฉิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“อย่างน้อยก็น้อยกว่าที่คาดไว้มาก ปัจจุบันข้าเจอรวมกันทั้งหมดแค่สองคน” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าหากเป็นไปตามคำพูดของท่านที่ว่า ทางโลกซ้อนโลกมีคนที่เหมือนศิษย์น้องซือคงมากกว่าผลรวมของโลกเบื้องล่างจำนวนมากจริงๆ เช่นนั้นสมควรดึงดูดความสนใจของผู้คนแต่แรก”
ต่อจากนั้น จะเกิดการปูพรมตามหาคนอย่างซือคงจิงในโลกเบื้องล่างมากมาย
ไม่ใช่จนถึงตอนนี้คลื่นลมยังสงบ
“ถ้าไม่ใช่เพราะการแยกแยะในตอนแรกของข้าผิดพลาด ไม่ได้ยึดตามค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากร ก็ยึดตามค่าเฉลี่ยของโลกต่างๆ” เสวี่ยชูฉิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมสุดขีด “แต่ความเป็นไปได้นี้มีต่ำยิ่ง ตอนนั้นข้าสมควรมองไม่ผิด”
เยี่ยนตี๋ใคร่ครวญพลางกล่าวว่า “หรือไม่ก็มีคนรู้สึกถึงเรื่องนี้ได้ตั้งแต่แรก ลอบตามหาคนที่เหมือนกับศิษย์หลานซือคง มิหนำซ้ำยังถูกคนผู้นั้นพบเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ไม่ได้ป่าวประกาศ”
“เรื่องนี้ควรค่าแก่การสนใจ” เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วแตะริมฝีปาก
เยี่ยนตี๋กับเสวี่ยชูฉิงพยักหน้าเล็กน้อย
คนทั้งสามปรึกษากันต่อสักพัก จากนั้นก็แยกกันไปจัดการตามแผนการก่อนหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาเยี่ยนตี๋และเสวี่ยชูฉิง กลับตึกความลับฟ้าก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี