อารามคงมายาบนเขาหอเมฆาเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญของประมุขอุดร ในประมุขทั้งสิบบนโลกซ้อนโลก
เยี่ยนจ้าวเกอเดินทางมาถึงที่นี่ แต่ไม่ได้ไปอารามคงมายา มาถึงในเมืองเมืองหนึ่งที่สร้างติดเขา อยู่ด้านนอกเขาหอเมฆา
เขากว่างเฉิงกับผากิเลนแห่งยอดเขาหนานเกาบนเขาคุนหลุนประกาศตัวเป็นศัตรูกัน ยามนี้พอมาถึงทิศเหนือ หากเขาเข้าไปโดยตรง ก็ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกสงสัยว่าคุกคามคนให้เลือกข้าง
ก่อนหน้านี้ในตอนที่โลกซ้อนโลกไล่ล่าเสวี่ยชูฉิง ประมุขอุดรห้ามไม่ให้คนในสำนักเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นเสวี่ยชูฉิงหรือเยี่ยนจ้าวเกอต่างรู้สึกซาบซึ้ง
ดังนั้นตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่คิดสร้างความลำบากให้
ประมุขอุดรไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่ก้าวก่ายการช่วงชิงใด เยี่ยนจ้าวเกอยินดีทำตาม แต่ว่าเขาเชื่อว่าอีกฝ่ายอาจจะยอมยื่นหมูยื่นแมว
ดูจากเรื่องของเสวี่ยชูฉิงในหลายปีมานี้ ประมุอุดรดูจะเห็นด้วยเรื่องของจักรพรรดิประกายกาฬในตอนนั้น
ครั้งนี้ที่เขามา แม้จะไม่ได้ขึ้นเขาหอเมฆา แต่ว่าอารามคงมายาในฐานะผู้ปกครองทิศเหนือย่อมได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว
ประมุขอุดรมีปฏิกิริยาใด อีกสักครู่จะมีผลลัพธ์
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงในเมืองเล็กๆ เมืองนั้น มองดูผู้คนเดินไปมาอย่างสงบ
ที่นี่เคยเป็นที่ที่เฟิงอวิ๋นเซิงเคยมา เยี่ยนจ้าวเกอมองทิวทัศน์และผู้คนในเมืองเงียบๆ เหม่อลอยเล็กน้อย
ไม่ทันไรเขาก็รู้สึกตัว ยิ้มเล็กน้อยและหันไปมอง เห็นเงาร่างของดรุณีในอาภรณ์สีเหลืองนางหนึ่งเข้าสู่คลองจักษุ
เป็นกวนอวี่ลั่วลูกศิษย์อารามคงมายา และเป็นหลานสาวของนักพรตกวนเค่อ ประมุขอุดรที่รู้จักกันแล้ว
“แม่นางกวน ไมได้พบกันนาง” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มทักทาย
กวนอวี่ลั่วเข้ามาใกล้ๆ พิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความสงสัย เหมือนกับเพิ่งรู้จักเขาเป็นครั้งแรก
“ท่านไม่ได้ใช้สายตาแบบนี้มองดูข้าเป็นครั้งแรก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ทุกครั้งที่เห็นท่าน ล้วนรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักท่านอย่างแท้จริงมาก่อน” กวนอวี่ลั่วพยักหน้า “เซียนผู้ถูกเนรเทศ ผู้อาวุโสหวังแห่งผากิเลนถูก…ถูกท่าน…”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเรียบๆ “ถูกต้อง เป็นข้าทำเอง”
สายตาของกวนอวี่ลั่วยังเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“เอาละ มีข่าวของอวิ๋นเซิงหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอถามขึ้นก่อน
สาเหตุที่เป็นกวนอวี่ลั่วออกหน้า เป็นเพราะว่านางคุ้นเคยกับเยี่ยนจ้าวเกอแต่แรกเพราะเฟิงอวิ๋นเซิง
ถึงแม้ด้วยสภาพในตอนนี้ หากมีคนอื่นมาเห็นว่าในอารามคงมายามีคนออกนหน้าพบเยี่ยนจ้าวเกอแล้วจะกลายเป็นปัญหา แต่เมื่อป้องกันไว้ชั้นหนึ่ง สุดท้ายก็ยังเหลือพื้นที่ให้คนอื่นๆ กริ่งเกรง ไม่กล้าฉีกหน้าโดยตรง
“ไม่มีข่าวของพี่เฟิง” อารมณ์ของกวนอวี่ลั่วพลันหม่นหมองลงมาก
นางคิดถึงเฟิงอวิ๋นเซิงยิ่ง เพียงแต่ว่าต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ นางควบคุมตัวเองไว้ เพราะรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับตัวเองแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอเกรงว่าจะทรมานยิ่งกว่า
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าสงบนิ่ง กลับเป็นฝ่ายปลอบนาง “ฟ้าต้องคุ้มครองอวิ๋นเซิง”
“อืม ใช่แล้ว เสียดายที่ท่านปู่เองก็คำนวณสถานการณ์ในตอนนี้ของพี่เฟิงไม่ออก” กวนอวี่ลั่วถอนใจคำหนึ่ง จากนั้นก็ปลุกปลอบจิตใจ มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างจริงจัง ลดเสียงเอ่ยว่า “ในตอนที่ข้าออกมาจากสำนัก ท่านปู่ได้กล่าวประโยคหนึ่ง คนอยู่ที่นี่ แต่ไม่ทราบอยู่ที่ไหนกันแน่”
คำพูดที่ฟังดูเหมือนไม่มีต้นสายปลายเหตุ เยี่ยนจ้าวเกอกลับเข้าใจความหมายในชั่วพริบตา
แม้ประมุขอุดรจะดูแก่ชรา อายุขัยใกล้หมดสิ้น เหมือนพร้อมจากไปได้ทุกชั่วขณะ แต่ความจริงแล้วจิตใจและสายตากลับกระจ่างแจ้ง เข้าใจเรื่องต่างๆ เป็นอย่างดี
เขากว่างเฉิงกับผากิเลนยอดแห่งเขาหนานเกาบนเขาคุนหลุนเป็นศัตรูกันอย่างเป็นทางการ ถึงแม้จะมีกษัตริย์กระบี่อยู่เบื้องหลัง แต่เมื่อเผชิญกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับพร้อมกัน แรงกดดดันย่อมหนักหน่วง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องคิดหาวิธีวางแผน อาจจะดึงกษัตริย์ลี้ลับและจักรพรรดิน้ำพุในมรกตท่องฟ้ามาสนับสนุนได้ แต่ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ย่อมไม่อาจกระทำ
ถ้าดึงมรกตท่องฟ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องภายในของโลกซ้อนโลก สถานการณณ์จะเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ กษัตริย์กระบี่ใช่ว่าจะยินดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี