“จงมากับข้าเสียเถอะเสวียนจง รอพวกเรากลับจากนพยมโลก ทุกอย่างจะเริ่มต้นจากโลกซ้อนโลก!”
“เป็นไปไม่ได้ชั่วนิรันดร์”
แสงสว่างในอากาศตัดสลับ ชั่วพริบตาเดียว พื้นที่นับร้อยล้านลี้ถูกแช่แข็ง จักรวาลในอนาธการกลายเป็นแผ่นดินน้ำแข็งนิรันกาล
สุดท้าย แสงสว่างก็มอดดับตลอดกาล
กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงตั้งฝ่ามือประดุจดาบ ยังคงรักษาท่วงท่าฟันไปด้านหน้า
ภายใต้ฝ่ามือของเขา เป็นเกล็ดแก้วที่กระจายอยู่ในมิติไร้สิ้นสุด
ท่อนบนของรูปสลักน้ำแข็งรูปหนึ่งแตกสลายโดยสิ้นเชิง ท่อนร่างเองก็สลายหายไป
เฉินเสวียนจงสีหน้าไม่มีความยินดีและไม่มีความโศกเศร้า มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างสงบ
มารน้ำกุ่ยกลายเป็นมารน้ำแข็งคืนชีพขึ้นมา เวลาผ่านไปไม่นาน
ถึงร่างสถิตจะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข และจะสามารถผลักเปิดประตูเซียนได้อย่างอย่างรวดเร็ว พลังพุ่งทะยานหลังจากคืนชีพเป็นมาร แต่ถึงอย่างไรเวลาก็มีจำกัด
เฉินเสวียนจงลงมือด้วยตัวเอง สังหารเขาซึ่งพึ่งกลายเป็นมารได้ไม่นาน นับว่ายังไม่สายไป
แต่ในใจของเฉินเสวียนจงไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย เพราะเขาสังหารสหายที่สนิทที่สุดด้วยมือตัวเอง
สหายสนิทคนสุดท้าย หลังจากราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถางจากไป
เฉินเสวียนจงสีหน้าไร้อารมณ์ ยืนอยู่ตรงกลางจักรวาล ไม่เคลื่อนไหวเหมือนกับรูปปั้น
เนิ่นนานให้หลัง เขาสายตาเป็นประกาย หันไปมองที่ไกลออกไป แล้วเคลื่อนที่ไปด้านนั้น
ภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่งลอยเงียบๆ อยู่กลางมิติที่คลื่นการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้ของทั้งสองฝ่ายมาไม่ถึง
บนภูเขาน้ำแข็งเต็มไปด้วยศาลาและตัวตึก และตำหนักอันวิจิตรที่สร้างขึ้นจากน้ำแข็งหลังหนึ่ง
เฉินเสวียนจงก้าวเข้าไปด้านใน เดินอยู่ด้านในตำหนัก จู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดตัวเล็กหลายตัวพุ่งออกมา จากนั้นเด็กสาวคนหนึ่งก็ไล่ตามมาด้านหลัง เล่นกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น
พอเห็นเฉินเสวียนจง นางนิ่งอึ้งเล็กน้อย แล้วค่อยคารวะด้วยท่าทางของผู้ใหญ่ตามการสั่งสอนของผู้ปกครอง
“…ไม่ต้องมากมารยาท” เฉินเสวียนจงริมฝีปากขยับ สุดท้ายได้แต่กล่าวเพียงหกพยางค์
เด็กสาวเอียงคอเล็กน้อย มองเฉินเสวียนจงด้วยความฉงน
เฉินเสวียนจงสีหน้าพลันเปลี่ยนแปลง เดินเข้าไปจับมือข้างหนึ่งของเด็กสาว จากนั้นก็ม้วนแขนเสื้อนางขึ้น ลวดลายอาคมที่เปล่งแสงสีฟ้าบัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหายบนแขนของนาง
ด้านในไม่ได้เผยกลิ่นอายพิเศษอันใด แต่แสงสว่างกะพริบเหมือนกับคนที่กำลังหายใจ
การหายใจต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เหมือนกับคนที่อยู่ในห้วงหลับใหล
“เสียสติแล้ว เจ้าเสียสติไปแล้วจริงๆ แม้แต่บุตรีของเจ้ายัง…” เฉินเสวียนจงรู้สึกได้แค่ความโมโห
เด็กหญิงยังคงสับสน “ท่านอาเฉิน ท่านพ่อเล่า”
“…” เฉินเสวียนจงเงียบงันไปสักพัก ก่อนจะกล่าวเสียงเบาว่า “บิดาของเจ้าไปที่ที่ไกลมาก ไม่อาจมาหาเจ้าได้ในเวลาสั้นๆ”
“ท่านพ่อบอกว่าจะพาข้าไปด้วย” เด็กหญิงกล่าวอ้ำอึ้ง
ในความทรงจำของนาง บิดาเคยบอกว่าจะไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพียงแต่ว่าที่แห่งนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นคนละที่กับ ‘ที่ที่ไกลมาก’ ซึ่งเฉินเสวียนจงว่า
เด็กหญิงไม่เข้าใจ ทว่าเฉินเสวียนจงไม่อาจอธิบายได้
“ท่านอาเฉินท่านพาข้าไปหาท่านพ่อได้หรือไม่” เด็กหญิงมองคนหนุ่มผมขาวตรงหน้าด้วยสีหน้าคาดหวัง
เฉินเสวียนจงมองลวดลายอาคมบนแขนของเด็กสาว เนิ่นนานไม่กล่าววาจา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี