วาจาเพิ่งกล่าวจากปากไม่ทันไร เจี่ยหมิงคงก็พลันรู้สึกเสียใจ อยากจะหาช่องบนพื้นแล้วมุดเข้าไป นางเห็นอย่างชัดเจนว่าสีหน้าของเฉินเสวียนจงเปลี่ยนจากสงบนิ่งเป็นประหลาดใจ
เมื่อเผชิญกับสายตาของอาจารย์ นางก็ก้มศีรษะต่ำโดยสัญชาตญาณ แต่จากนั้นนางพลันรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง
วันนี้ในที่สุดตนก็พูดคำพูดที่อยากจะเอ่ยออกจากปากได้แล้ว ไฉนจึงถอยเช่นนี้
ด้านแข็งกร้าวในนิสัยทำงาน ถึงแม้ว่าจะพะว้าพะวง แต่เจี่ยหมิงคงก็เงยหน้าขึ้นมองอาจารย์ของตนอีกรอบ
แต่กลับเห็นตอนนี้เฉินเสวียนจงเลื่อนสายตาออกไปแล้ว กล่าวอย่างราบเรียบ “หลีหลีเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนกลายเป็นความเคยชินแล้ว ที่แล้วมาเจ้าไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ ไฉนวันนี้ถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กเล่า”
เจี่ยหมิงคงอ้าปาก ยังไม่ทันได้กล่าวอะไร เฉินเสวียนจงก็โบกมือ “ไปเถอะ”
“…เจ้าค่ะอาจารย์” เจี่ยหมิงคงเม้มริมฝีปาก บอกลา แล้วออกจากหอกวาดหิมะ
หลังออกมา สมองของนางกระจ่างใสขึ้นมาก ทั้้งอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ทั้งรู้สึกสุขใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ถึงสุดท้ายจะพูดออกมาแล้ว แต่จิตใจก็ยังคงว้าวุ่นอยู่ดี
เจี่ยหมิงคงคิดว่าอาจารย์สมควรฟังความหมายที่แฝงในวาจาของเธอออก อาจารย์ไม่เพียงปฏิเสธหลีหลี ยังปฏิเสธนางด้วย ทว่าในใจนางก็มีความคิดที่พร่าเลือนอย่างหนึ่งปรากฏ
นางมองไม่ออกอยู่ชั่วขณะ แต่ว่าในใจขอแค่ยังคงมีความหวังส่วนหนึ่ง ก็ยากจะไม่คิดถึงผลร้ายผลเสีย
เฝยเฝยสัตว์ประหลาดที่ภายหลังฉู่หลีหลีตั้งชื่อให้ว่าผิงผิง สุดท้ายยังเป็นเจี่ยหมิงคงมอบให้นาง
เจี่ยหมิงคงดูออกว่าฉู่หลีหลีผิดหวังเล็กน้อย ของขวัญวันเกิดทุกๆ ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นเฉินเสวียนจงมอบแก่นางด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่านางจะชอบเฝยเฝยตัวนั้นยิ่ง ดูออกว่าเป็นเฉินเสวียนจงตั้งใจเตรียมของขวัญให้นางเหมือนเช่นในอดีต แต่ปีนี้ไม่เหมือนกันจริงๆ
ฉู่หลีหลีไม่ได้โง่งม ปีนี้นางได้สารภาพเรื่องราวกับอาจารย์ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับของขวัญวันเกิดในปีนี้ก็คือคำตอบองเฉินเสวียนจง
เด็กสาวไม่ยอมตัดใจ
“สตรีใจแข็งกลัวบุรุษพัวพัน ยอดบุรุษก็กลัวสตรีพัวพันเช่นกัน!” นางกล่าวกับเจี่ยหมิงคงเช่นนี้
เจี่ยหมิงคงได้แต่ลอบยิ้มอย่างหนักใจ ถ้าหากนางไม่ใช่มีความคิดเดียวกัน คงตักเตือนสั่งสอนฉู่หลีหลีด้วยเหตุผลไปแล้ว ทว่าตอนนี้ นางไม่มีความมั่นใจแบบนั้นจริงๆ
นางไม่ได้ก้าวก่ายขัดขวางฉู่หลีหลี แต่ก็ไม่ช่วยเหลืออีกฝ่ายเช่นกัน
สำหรับเจี่ยหมิงคงแล้ว นางเอาแต่คิดถึงปฏิกิริยาของอาจารย์หลังจากนางกล่าวประโยคนั้นออกไป และเรื่องที่เจี่ยหมิงคงเสียใจที่สุด คือตอนนั้นตนก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าสบตาอาจารย์
สุดท้ายรอนางปลุกปลอบความกล้าเงยหน้าขึ้นได้อีกครั้ง สายตาของเฉินเสวียนจงก็ย้ายไปที่อื่นแล้ว
เจี่ยหมิงคงเอาแต่รู้สึกว่า เทียบกับตอนเผชิญความตรงไปตรงมาของฉู่หลีหลีแล้ว ยามที่เผชิญหน้ากับนาง เฉินเสวียนจงคล้ายรู้สึกไม่เป็นตัวเองอยู่บ้าง
นี่ทำให้นางยังมีความหวังในใจตลอดมา แต่ก็กลัวอีกว่าจะเป็นความเข้าใจผิดและความรักเพียงฝ่ายเดียว
ขณะกังวลถึงผลได้ผลเสีย วันเวลาบนยอดเขาเมฆมรกตก็ผ่านไปเช่นนี้ จนกระทั่งการมาถึงของวันนั้น…
“เปรี๊ยะ!”
ชั้นน้ำแข็งจักรพรรดินี ซึ่งอยู่บนธารน้ำแข็งที่แช่แข็งมิติ พลันแตกออกเป็นร่องแยกสายหนึ่ง
นางสีหน้าไร้อารมณ์ ทั่วทั้งร่างกระจายด้วยความเย็น
สองตาที่ปิดอยู่มองยอดเขาที่ตระหง่านบนธารน้ำแข็งไกลออกไป เงียบงันเนิ่นนาน
ใต้ธารน้ำแข็ง กษัตริย์ดาราเงียบงันเช่นกัน
ครู่ต่อมา จักรพรรดินีทำความเคารพภูเขาน้ำที่อยู่ไกลออกไป “ขออภัยท่านอาจารย์”
“วันนี้จิตใจเจ้าไม่ค่อยสงบนัก” เสียงของกษัตริย์ดาราดังมา “นอกจากลูกหลานของซิงถางที่มาที่นี่แล้ว ยังมีเรื่องพิเศษเรื่องอื่นอีกหรือ”
จักรพรรดินีตอบ “คิดถึงอดีต ดังนั้นจิตใจจึงไม่มั่นคง”
กษัตริย์ดาราเงียบเสียงอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี