กษัตริย์ดาราได้รับอิสระ ความฝันของจักรพรรดินีกลายเป็นจริง
แต่ว่าในตอนที่วินาทีนี้เกิดขึ้นจริงๆ กลับเป็นเวลาที่เจี่ยหมิงคงไม่มีหน้าพบอาจารย์ของตัวเอง
ถึงแม้ผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายจะค่อนข้างตรงกับแผนการเดิมของนาง แต่พอได้สัมผัสกับสายตาที่ซับซ้อนของเฉินเฉียนหัว นางก็ไม่อาจสบตาอีกฝ่ายได้ตรงๆ
ถ้าหากว่าต้องเผชิญความเคียดแค้นและความโกรธ บางทีนางอาจรับได้
ขณะมองเงาหลังที่ห่างออกไปของเจี่ยหมิงคง กษัตริย์ดาราก็เงียบงันอยู่เนิ่นนาน จนกระทั่งเงาร่างสีขาวนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง เขาจึงค่อนถอนใจอย่างไร้เสียง
“พวกเราทำสำเร็จแล้ว เรื่องราวยังไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจหันหลังกลับ ยังสามารถคิดหาแผนการได้” เยี่ยนจ้าวเกอลดเสียงกล่าวขึ้นจากด้านข้าง
ถ้าหากทำให้ฉู่หลีหลีกลายเป็นมาร หรือถึงขั้นถูกมรกตท่องฟ้ารุมสังหารตามแผนการก่อนหน้าของเจี่ยหมิงคงจริงๆ เท่ากับเรื่องราวที่จะตามมาก็จบลงไปด้วย
“ข้าไม่โทษหมิงคง” กษัตริย์ดาราส่ายหน้า “ตอนนั้นเป็นข้าที่ติดค้างนาง สาเหตุทุกอย่างล้วนมาจากการตัดสินใจของตัวข้า เมื่อมีผลลัพธ์อะไรตามมา ย่อมเป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ ไม่อาจต่อว่าหมิงคงและไม่อาจต่อว่าหลีหลีเช่นกัน เพียงแต่การกระทำในวันนี้ของหมิงคงอยู่เหนือความคาดหมายของข้า ผลกระทบของเรื่องราวในวันนั้นส่งผลต่อนางมากเกินไป”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังคำพูดนี้แล้ว ก็อดลืมตาโตไม่ได้ ต่อจากนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออย่างรู้ความ
ถึงเขาจะสงสัยมาก แต่ถ้าถามอีกก็เกรงว่าจะเกิดเรื่อง…
“เจ้าไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น” กษัตริย์ดารายิ้มพร้อมมองเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นค่อยส่ายศีรษะและพูดอย่างตรงไปตรงมา “การให้ความสำคัญกับจารีตประเพณีบางอย่างไม่ใช่จะไร้เหตุผล อย่างเช่นอาจารย์บุรุษรับลูกศิษย์สตรี อาจารย์สตรีรับลูกศิษย์บุรุษ”
เยี่ยนจ้าวเกอพลันตาเป็นประกาย
ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบถึงอดีตของกษัตริย์ดาราสามศิษย์อาจารย์ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็มีการคาดเดาผ่านท่าทีแปลกประหลาดระหว่างคนทั้งสามไม่น้อย เปลวไฟแห่งความอยากรู้อยากเห็นลุกโชติช่วง
‘ตอนนั้นเป็นข้าที่ติดค้างนาง’
เมื่อรวมกับคำพูดเมื่อครู่ของกษัตริย์ดารา เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง
ถึงแม้จะยอมแบกรับความลำบากแทนฉู่หลีหลี เฝ้าอยู่ที่นี่อย่างเดียวดายไม่ออกไปไหนมาเป็นร้อยเป็นพันปี แต่ว่ากับศิษย์คนเล็กผู้นี้ บางทีกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงอาจผูกพันฉันท์ศิษย์อาจารย์ มีเพียงความรู้สึกรับผิดชอบและความรู้สึกทำตามชะตาลิขิต
ผู้ที่ทำให้เฉินเสวียนจงต้องประสบกับด่านรักจริงๆ กลับเป็นศิษย์คนโตของเขา จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคง!
กษัตริย์ดารามองเยี่ยนจ้าวเกอ ถอนใจคำหนึ่งและไม่ได้กล่าวสืบต่อ เขาไม่ใช่คนพูดมาก แต่ว่าเรื่องราวในวันนี้ทำให้จิตใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือน
เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งช่วยงานใหญ่ไป ทั้งยังเป็นลูกหลานของคนรู้จักเก่า ยิ่งทำให้กษัตริย์ดาราไม่อาจไม่ลดการป้องกันทางจิตใจลงหลายส่วน
เหตุผลที่อยู่ในระดับชั้นลึกยิ่งกว่าก็คือ การคบหาระหว่างเทพกระบี่เยี่ยนซิงถางและจักรพรรดิกระบี่ตี๋ชิงเหลียนสามีภรรยา ซึ่งเป็นปู่และย่าของเยี่ยนจ้าวเกอครั้งกระโน้น มีความรักหวานซึ้ง สมัครสมานกลมเกลียว ทำให้เฉินเสวียนจงซาบซึ้ง
และเป็นเพราะตอนนั้น จิตใจของเฉินเสวียนจงซึ่งที่แล้วมาไม่เคยคิดถึงเรื่องรักใคร่ถูกสั่นไหว
เพียงแต่ก็หยุดแค่เท่านี้
ในกาลเวลาเนิ่นนาน เขาไม่ได้พบสตรีที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวเพิ่ม
จนกระทั่งในวินาทีหนึ่ง เขาพลันพบว่าดรุณีอาภรณ์ขาวที่อยู่ข้างกายตนเติบโตแล้ว…
นั่นความจริงยังเป็นตอนที่ฉู่หลีหลีเข้าสำนัก เพียงแต่ว่า เฉินเสวียนจงไม่แสดงออกภายนอก เจี่ยหมิงคงจึงไม่เคยรู้ c]tเป็นเพราะเขาไม่กล้ายืนยันว่าตนทำแบบนี้จะถูกหรือผิด
ด้านจริยะย่อมไม่เหมาะสม แต่ด้านความรักเล่า?
เฉินเสวียนจงที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนมานาน และเดินเชิดหน้าอยู่บนเส้นทางวรยุทธ์รู้สึกสับสนอย่างหาได้ยาก
เขาไม่ได้มีโทสะต่อเจี่ยหมิงคงที่ทำตามอำเภอใจในวันนี้จริงๆ
ตอนนี้เขายังจำอดีตในปีนั้น ในวันนั้น ในเวลานั้นได้…นั่นเป็นวันเกิดของเจี่ยหมิงคง
และวันนั้น เจี่ยหมิงคงก็ได้รับของขวัญวันเกิดที่ผู้เป็นอาจารย์มอบให้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าสำนักมา เหมือนกับฉู่หลีหลี
สีหน้าแตกตื่นยินดี กังวลใจ เขินอาย ลังเล ว้าวุ่น เฉินเสวียนจงยังคงจำได้ดีจนถึงวันนี้
น่าเสียดายที่เดิมทีเขาคิดจะให้คำตอบกับเจี่ยหมิงคง แต่กลับถูกขัดขวาง
คำพูดที่ต้องการกล่าวไม่ได้พูดออกจากปาก มิคาดกลายเป็นตลอดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี