นักพรตเสื้อคลุมเทากล่าวตามสัตย์จริง วินาทีที่เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือออกมา เขาตกใจยิ่งกว่าโมโห
ขณะที่ตกใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจเหลือแสน ต่อให้อีกฝ่ายมาตามหาสั่วหมิงจาง แต่ว่าสั่วหมิงจางที่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกร เผ่าพันธุ์คุนเผิงให้ความสำคัญขนาดนี้เลยหรือ
หลังความตกใจก็กลายเป็นความโมโห
เด็กน้อยระดับราชาปีศาจขั้นแปดตนเดียวขวัญกล้าบังอาจลงมือกับตัวเอง?
เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน
ตนความจริงเป็นมังกรเจียวหลง ไม่ใช่มังกรจริงแท้ แต่ก็อยู่ในระดับราชาปีศาจขั้นสิบสูงสุด เหลืออีกแค่ก้าวเดียวก็จะสำเร็จร่างมังกรจริงแท้แล้ว
ต่อให้เผ่าพันธุ์คุนเผิงมีพรสวรรค์กล้าแข็งขนาดนไหน มีการสืบทอดเหี้ยมหาญสักเพียงไรก็ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายก้าวข้ามข้อแตกต่างที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ได้
ราชาปีศาจขั้นเก้าถึงราชาปีศาจขั้นสิบ หรือว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าถึงจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบสมบูรณ์ ความแตกต่างในนี้เหมือนการขวางกั้นเพียงก้าวเดียว แต่ก็เหมือนกับร่องน้ำทางธรรมชาติ
ยอดฝีมือระดับราชาปีศาจขั้นเก้าสิบคนกลุ้มรุมโจมตี ยังทำอะไรมันไม่ได้ ยิ่งอย่าว่าแต่คุนเผิงที่อยู่ในระดับราชาปีศาจขั้นแปดเพียงตนเดียว
“บังอาจนัก!” นักพรตเสื้อคลุมเทารู้สึกเหมือนถูกดูถูกและหยามเหยียด เป็นเพราะมันเองก็มองออกว่าที่พึ่งของคุนเผิงน้อยตรงหน้านี้อยู่ที่อีกฝ่ายเป็นคุนเผิงเลือดบริสุทธิ์ แต่มันเป็นเผ่ามังกรเลือดผสม เบื้องหลังของทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกัน
นักพรตเสื้อคลุมเทาหัวเราะเย็นชาติดต่อกัน สะบัดกรงเล็บข้างหนึ่งออกไปคว้าจับใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!
“คุนเผิงน้อย เจ้าลืมแล้วหรือ ถึงแม้ข้าจะเป็นเจียวหลง แต่ว่าขอแค่ผ่านภัยพิบัติมนุษย์เซียนได้ก็จะสำเร็จเป็นมังกรจริงแท้!”
ยอดฝีมือที่มีศักยภาพเหมือนเขา เผ่ามังกรที่แท้จริงให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน
ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งเขามาทำงานในโลกมังกรอัคคี
ถ้าหากว่าเขากับเผ่ามังกรโดยกำเนิดเกิดความขัดแย้งกัน เช่นนั้นในฐานะลูกของแม่เลี้ยงยากจะไม่เสียเปรียบ
แต่ว่าในการต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่น เผ่ามังกรต่างสนับสนุนเขา!
ใบหน้าของนักพรตเสื้อคลุมเทาเปลี่ยนเป็นดุร้าย ถอดร่างมนุษย์ออกไปเกือบหมด ปรากฎศีรษะของมังกรเจียวหลง
แต่มันก็งงงวยอย่างรวดเร็ว เพราะเห็นประกายแสงกะพริบขึ้นในฝ่ามือของอีกฝ่าย จากนั้นฝ่ามืออีกข้างหนึ่งก็ยื่นมาจากด้านใน
กลิ่นอายของฝ่ามือข้างนั้นทำให้นักพรตเสื้อคลุมเทาไม่คุ้นเคย “นี่…นี่หรือว่าเป็นเลือดลมของมนุษย์?”
มันคิดในใจว่าแย่แล้ว หมายจะถอยหนี แต่ว่าฝ่ามือที่ยื่นออกมาจากในประกายแสงนั้นจะปล่อยให้เขาหนีได้อย่างไร
ฝ่ามือจับกรงเล็บมังกีเจียวหลงของนักพรตเสื้อคลุมเทาที่คืนร่างเดิม จากนั้นก็ฉุดลากเข้าไปในแสงสว่าง!
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกางปีกสองข้างที่ด้านหลัง ร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง ค่อยๆ กลายเป็นลักษณะของคุนเผิงที่แท้จริง
ปราณของจอมปีศาจอันยิ่งใหญ่กระจายไปรอบๆ อำพรางลมปราณที่เยี่ยนจ้าวเกอตัวจริงลงมือในระดับหนึ่ง
นักพรตเสื้อคลุมเทาทันส่งเสียงร้องแค่คำหนึ่ง ก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอลากเข้าไปในประกายแสงกลางฝ่ามือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกำหมัด ประกายแสงย่อมหายไป
นักพรตเสื้อคลุมเทาเวียนหัวสมองพอง ทิวทัศน์ตรงหน้าเปลี่ยนแปลงกลายเป็นม่านแสงหลายชั้น เข้ามาในมิติอันเป็นเอกเทศที่ไม่มั่นคงมิติหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอตัวจริงยืนอยู่ในมิตินี้ มองมันด้วยรอยยิ้ม
‘ยังมีจุดลมปราณอีกแปดจุดไม่ได้เห็นเทวะ มนุษย์ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าหรือ ไฉนจึงได้รู้สึกน่ากลัวถึงเพียงนี้’ นักพรตเสื้อคลุมเทาแตกตื่นสับสน ยังคงคิดจะดิ้นให้หลุดจากฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ
พลังที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ลากมันเข้าในมิติแห่งนี้ทำให้มันสั่นสะท้าน
วินาทีนี้มันไม่มีเวลาอับอายและโมโหอีกแล้ว ทั้งไม่คิดจะจู่โจมเยี่ยนจ้าวเกอ ขอแค่หลุดออกจากมิติแห่งนี้ได้ค่อยว่ากัน
แต่ว่าฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับรัดอยู่บนข้อมือของนักพรตเสื้อคลุมเทา ไม่ว่าจะออกแรงดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับหนีได้
‘คุนเผิงกับมนุษย์ร่วมมือกันแล้ว? พวกเขาคิดทำอะไร’ นักพรตเสื้อคลุมเทาเห็นว่าดิ้นไม่หลุดก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว คว้ากรงเล็บใส่ใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอไพล่มืออีกข้างไว้ด้านล่าง ไม่มีความคิดจะป้องกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี