ยันต์เต๋าสามใบที่เยี่ยนจ้าวเกอปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ มอบให้แก่เยว่เจิ้นเป่ย หลงเสวี่ยจี้ และราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง
ก่อนหน้าถึงแม้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอจะถูกกีดกันออกไป แต่กลับไม่จำเป็นต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอนำกลับมา มันก็กลับไปยังจักรวาลสำนักเต๋า กลับสู่โลกซ้อนโลกโลกอย่างว่าง่าย
“อาจารย์ลุงเยว่ อาจารย์ลุงหลง” เยี่ยนจ้าวเกอเห็นสองคน พลันยิ้มขึ้น คำนับพวกเขา
เยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ย เวลานี้หยุดหลอมลมปราณ เข้าไปคำนับ
พอเห็นกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกก็สะท้อนใจ
“หลายปีมานี้ ได้รับการดูแลจากเขานครหยก กลับเป็นเพราะพวกเราพ่อลูกนำปัญญามากมายมาให้แก่เขานครหยก อยากจะเจออาจารย์ลุงเยว่มาโดยตลอดแต่ไม่มีโอกาส คิดไม่ถึงว่าวันนี้ในที่สุดก็ได้พบกัน” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจกล่าว
“ไม่เป็นไร” ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก เยว่เจิ้นเป่ยสีหน้ายังคงเคร่งขรึมจริงจัง แต่สายตาอ่อนโยนลงมาก
หลังจากสำรวจเยี่ยนตี๋กับเยี่ยนจ้าวเกอ เยว่เจิ้นเป่ยก็ทอดถอนใจมากกว่าพวกเขาเสียอีก
วินาทีนี้ กษัตริย์กระบี่เหมือนกับเห็นอาจารย์ผู้มีพระคุณในอดีตปรากฏตัวตรงหน้าตนเองอีกครั้ง
การรอคอยตลอดหลายปี บัดนี้ในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง
เยว่เจิ้นเป่ยรู้สึกพลุ่งพล่าน ริมฝีปากสั่นไหว
แต่ที่พูดออกมากลับเป็นอีกเรื่อง
เขาใช้น้ำเสียงจริงจัง “ถึงพวกเราจะรวมตัวกัน แต่ว่าสภาพการณ์ยิ่งมายิ่งลำบาก อย่าเพิ่งประมาทไป”
“กษัตริย์ดินฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวงแล้่ว?” พวกเยี่ยนจ้าวเกอสบตากัน ต่างคาดเดาความนัยของกษัตริย์กระบี่ออก
เย่วเจิ้นเป่ยกษัตริย์กระบี่กล่าวอย่างแช่มช้า “มิผิด กษัตริย์ดินได้ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง สำเร็จระดับห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด อยู่ในระดับเซียนกำเนิดสุญญตาแล้ว”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพอฟังก็พยักหน้า ไม่กล่าวอันใด
ถ้าไม่ใช่ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางก่อเรื่องบนพื้นที่ของโถงเซียน กษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นเกรงว่าจะกลับโลกซ้อนโลกแต่แรก
บางทีการเรียกเขาว่ากษัตริย์ดินในตอนนี้อาจไม่เหมาะสมอีกแล้ว
จ้าวสวรรค์ดาวเสาร์จึงเป็นฉายากษัตริย์ในปัจจุบันของเขา หรือจะเรียกว่าราชันพระเสาร์ ฉายาในอดีตของเขายังเหมาะสมกว่า
เจี่ยงเซิ่นที่เลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า เกรงว่าแม้แต่กษัตริย์ดารา กษัตริย์กระบี่สองคนร่วมมือกัน ก็ยากจะต้านทาน
ทางราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง ถึงแม้ว่าจะสำเร็จระดับเซียนกำเนิดที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดเร็วกกว่าเจี่ยงเซิ่น แต่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มีทางยินดีอย่าหน้ามืดตามัวเช่นนี้
สั่วหมิงจางมีปัญหาของสั่วหมิงจาง
เป็นอย่างที่คาด กษัตริย์กระบี่กล่าวต่อ “ราชันพระอังคาร มีความแข็งแกร่งด้านพลังไร้ข้อกังขา แต่ว่าคราครั้งนี้ ก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว”
เขาเหมือนชมเชยเหมือนถอนใจ “ในการล้อมฆ่าที่เมฆดารากำเนิด และสงครามใหญ่หลังจากนั้น แค่จ้าวสวรรค์เส้นทางนอกรีต ก็มีสามคนที่ตายด้วยมือของราชันพระอังคารแล้ว”
“ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตที่ครั้งกระโน้นเข้าร่วมการกลุ้มรุมราชันพระพฤหัสบดีครั้งสุดท้าย และปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ ล้วนถูกราชันพระอังคารแก้แค้นสังหารหมดสิ้น”
เยว่เจิ้นเป่ยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทุกคนที่อยู่รอบๆ วินาทีนี้ต่างรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่พุ่งมาปะทะหน้า
หลงเสวี่ยจี้พยักหน้าอย่างแช่มช้า “สมคำร่ำลือ!”
ยอดฝีมือโถงเซียนที่ถูกสั่วหมิงจางฆ่าตายมีจำนวนมากขนาดนี้ ยิ่งอย่าว่าแต่กองทัพที่กลุ้มรุมไล่ล่าเขาในตอนนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน
ก่อนหน้านี้โถงเซียนส่งคนไปล้อมเมฆดาราปฐมกำเนิด ส่งยอดฝีมือที่ได้เข้าร่วมการไล่ล่าราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงเข้าไปในเมฆดาราปฐมกำเนิดออกมาหมด ด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าพวกเขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของเมฆดาราปฐมกำเนิด ด้านหนึ่งความจริงเพื่อใช้เป็นตัวล่อ ตรึงสั่วหมิงจาง ทำให้เขายอมสู้ไม่ถอย บรรลุเป้าหมายล้อมสังหารราชันพระอังคาร
แต่ว่าผลลัพธ์สุดท้าย เหยื่อกลับถูกกิน แหขาดออก แต่ปลาไม่ตาย!
สั่วหมิงจาฝ่าวงล้อมและการโจมตีหลายชั้นอย่างหักโหม สังหารเป้าหมายที่ตนคิดฆ่า แก้แค้นให้แก่เซ่าจวินหวง จากนั้นก็บุกตะลุยออกมาตลอดทาง!
ภายหลังเขาถึงขั้นสลัดหลุดจากผู้ไล่ตาม มาถึงตำหนักโอสถ
เหมือนกับที่เขาสัญญากับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี