ชั่วพริบตานี้หยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับมีความรู้สึกชาไปทั่งร่าง
ไม่เพียงแต่วายุเซียนจะโคจรไม่ราบรื่น แม้แต่ความคิดก็เหมือนกับกำลังจะหยุดนิ่ง
โชคดีที่หยางเซ่อกษัตริย์ดาราไม่ห่วงชนะแต่ห่วงแพ้ ได้คาดคิดไว้ถึงความเป็นไปได้ที่แช่แข็งสามฉื่อจะก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บอย่างสาหัส หากตนฝืนรับไว้แล้ว
แม้จะอยู่ในสภาพที่จิตใจว่างเปล่า เหมือนกับไร้ความรู้สึก แต่ว่าของวิเศษชิ้นหนึ่งที่เตรียมไว้แต่แรกก็สำแดงฤทธิ์
แก่นเพลิงโหมลมสุริยะที่รุนแรงระเบิดออกมาจากในสมอง ทำให้จิตใจของเขาตื่นขึ้นจากสภาพถูกแช่แข็งในทันที
น้ำแข็งกับเพลิงผสมกัน กษัตริย์เร้นลับวิงเวียนศีรษะ รู้สึกว่าวิญญาณของตัวเองเหมือนถูกฉีกขาด
แต่ว่าเขาที่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว แสงสว่างและความมืดทั่วร่างหายไป สะกดความเย็นเยียบที่บ้าคลั่งในร่างตัวเอง จากนั้นก็ถอยฉากออกไปอย่างรวดเร็ว
เจ็ดดาบผ่านไป ในร่องแยกกลางหน้าผากของกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงพลันมีแสงมารสีฟ้าบัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฎ
เฉินเสวียนจงฝืนสะกดจิตใจของตัวเอง แต่ยังคงเสริมไปอีกหนึ่งดาบ ฟันใส่หยางเซ่อกษัตริย์ดารา
ถึงจะไม่แข็งแกร่งเท่าเจ็ดดาบก่อนหน้า กลับรุนแรงไม่ธรรมดา
ถ้าหากว่าหยางเซ่ออยู่ในสภาพถูกแช่แข็ง ยากจะต้านทานดาบนี้
กระนั้นในตอนนี้เขาฟื้นสติ แก้ไขอาการอัมพาตของตัวเองทันเวลา ถอยไปด้านหลังอย่างไม่ลังเล ในที่สุดก็หลบพ้นดาบของเฉินเสวียนจงอย่างหวุดหวิด
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ อาการบาดเจ็บบนร่างของหยางเซ่อในตอนนี้ ร้ายแรงว่าที่เขาคาดไว้จม
แม้ว่าเฉินเสวียนจงร่างกายจะมีปัญหา กลับแข็งแกร่งกว่าเขา
สงครามนี้แบ่งผลแพ้ชนะได้แล้ว
กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงชนะ!
“ถูกแช่งแข็งพันปี สู้กับมารน้ำกุ่ยอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ไม่ใช่ต่อสู้เข่นฆ่ากับคนจริงๆ กลับทำให้คมดาบของท่านคมกล้ากว่าเดิม” ร่างเซียนลี้ลับของหยางเซ่อ ไม่ใช่ร่างเลือดเนื้อของมนุษย์มานานแล้ว
ทว่าในตอนนี้ สีผิวซีดขาวถึงขีดสุด เหมือนกับคลุมทับด้วยน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่ง
เขามองเฉินเสวียนจง ถอนใจยืดยาว
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้างตาเป็นประกาย พยักหน้าติดต่อกัน รู้สึกว่าไม่ได้มาเสียเที่ยว
เฉินเสวียนจงราชันพระพุทธหยางเซ่อราชันพระเกตุ ถูกจัดอยู่ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่เหมือนกัน ล้วนเป็นอัจฉริยะแห่งยุคอดีต และผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานแห่งยุคปัจจุบัน
แม้ว่าจะเป็นยุคก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ กษัตริย์เซียนพิศวงที่มีระดับเท่าพวกเขาก็หายากถึงขีดสุด
ยิ่งอย่าว่าแต่ การสู้กันระหว่างสองกษัตริย์ระดับนี้หายากกว่า
ถึงแม้ว่าเวลาต่อสู้จะไม่ยาวนาน ตัดสินผลแพ้ชนะในสิบกระบวนท่า แต่สองฝ่ายใช้พลังเต็มที่ อันตรายในนี้เหนือกว่าจินตนาการของคนอื่น
“ใต้เท้ากษัตริย์เร้นลับดูออกว่าใต้เท้ากษัตริย์ดาราไม่อาจอดทนสู้ได้นานเพราะเรื่องตรามาร ต้องการเผด็จศึก ดังนั้นเดิมทีจึงไม่คิดสู้กับใต้เท้ากษัตริย์ดาราตรงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอจุ๊ปากถอนใจชมเชย “การโจมตีอันแข็งแกร่งของเขาในตอนแรกเป็นความจงใจ”
เยว่เจิ้นเป่ยกษัตริย์ดาราที่อยู่ด้านข้างเอ่ย “มิผิด ประการแรกชิงสะกดก่อนแต่ไม่ถึงกับกดดันโดยสมบูรณ์ ประการสองกดดันสภาวะสั่งสมของใต้เท้ากษัตริย์ดารา ทำให้เปลี่ยนเป็นเร่งรีบ”
ประสบการณ์ที่แสดงออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจง หรือหยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับ ความจริงเดิมทีเป็นคนที่ถนัดการต่อสู้ถ่วงเวลามากที่สุด
ไม่ใช่พวกเขามีพลังยิ่งใหญ่ ไม่มีสิ้นสุด แต่เป็นเพราะพวกเขาสองคนล้วนเป็นประเภทยิ่งสู้ยิ่งเข้มแข็ง
ตรงกันข้าม คู่ต่อสู้ที่สู้กับพวกเขา กลับอาจยิ่งสู้ยิ่งอ่อนแอ
เฉินเสวียนจงใช้วรยุทธ์กับผู้คน ความจริงเครื่องร้อนช้า
มิได้หมายถึงเขาไม่แข็งแกร่งแต่แรก ทว่าปราณความเย็นของเขาเมื่อแผ่พุ่งอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง จนกระทั่งพุ่งสู่ระดับสูงสุดในตอนสุดท้าย ค่อยอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเอง
คู่ต่อสู้ของเขากลับเป็นเพราะความเย็นกัดกร่อนและการสั่งสมย่างต่อเนื่อง ต่อให้ไม่ถูกวิชาแช่แข็งสามฉื่อระเบิด แต่ก็ได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงยิ่งมายิ่งอ่อนแอ ยากจะใช้พลังของตัวเองออกมาได้หมดเหมือนยามปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี