“มีความสามารถแต่กลับไม่ควบคุมตัวเอง รังแต่จะสร้างเพทภัย ทำร้ายคนอื่นๆ สั่วหมิงจางเป็นตัวอย่างของเขา” ราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นมองทะลุมิติเวลา เหมือนกับมองข้ามจักรวาล ไปยังโลกซ้อนโลกที่อยู่ไกลแสนไกล
หยางเซ่อว่า “ตอนนี้ได้แต่หวังให้ใต้เท้าโกวเฉินลงมือตัดสิน หลีกเลี่ยงไม่ให้เส้นทางนอกรีตเข้ามายุ่งเกี่ยว เมื่อเป็นแบบนี้ เรื่องของสหายร่วมเส้นทางสั่วจะสงบลง พี่ร่วมเส้นทางสามารถควบคุมความวุ่นวายได้”
เมื่อไม่มีสั่วหมิงจางสอดมือ เจี่ยงเซิ่นที่ปัจจุบันได้สำเร็จเป็นจ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดย่อมมีความสามารถกำหนดสถานการณ์บนโลกซ้อนโลก
“ปัญหาที่สหายร่วมเส้นทางสั่วสร้างขึ้นในครั้งนี้ใหญ่เกินไป อาจจะเร่งให้โถงเซียนเส้นทางนอกรีตตัดสินใจยาตราทัพมายังจักรวาลสำนักเต๋าเรา ถึงเวลานั้นจะเป็นภัยพิบัติใหญ่แล้ว” เจี่ยงเซิ่นสายตาทอแววกังวล “หลังจากมรสุม จะสูญเสียมากเท่าไร?”
“ด่านนี้จะมีผลลัพธ์อย่างไร ข้าก็ไม่ทราบ เมื่ออยู่ในนี้ได้แต่ต้องช่วยเหลือสุดกำลัง”
หยางเซ่อพยักหน้าเงียบงัน ครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่ทราบสหายร่วมเส้นทางเกากับสหายร่วมเส้นทางหลิงจะสอดมือหรือไม่?”
ย่อมหมายถึงเกาหานราชันพระอาทิตย์และหลิงชิงราชันพระจันทร์ที่ออกจากจักรวาลสำนักเต๋าไปยังมิติต่างแดนตามจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
“ย่อมสอดมือแล้ว” ตอนนี้เจี่ยงเซิ่นสีหน้าราบเรียบยิ่ง
เขารู้จักเกาหานกับหลงชิงมานานกว่าหยางเซ่อ เข้าใจในตัวคนที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่สองคนเหมือนตนมากกว่าคนอื่นๆ
“ตำหนักโอสถนั่นสุดท้ายตกไปอยู่ในมือของสหายร่วมเส้นทางสั่วหรือ? หรือว่าจะเป็น…” หยางเซ่อถาม
เจี่ยงเซิ่นว่า “ไม่ได้อยู่ในมือสหายร่วมเส้นทางสั่ว เพราะคนของเส้นทางนอกรีตเร่งรุดมา เขาต้องรีบไปรับมือ”
“ข่าวที่สหายร่วมเส้นทางจางสายเหนือพิสุทธิ์ส่งมาบอกว่า สุดท้ายตำหนักโอสถอาจจะตกอยุ่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก”
หยางเซ่อส่ายหน้า “น่าเสียดาย นี่บางทีอาจจะมีเรื่องพลิกผลันอีกรอบ หวังแต่เพียงสุดท้ายไม่ถูกเส้นทางนอกรีตแย่งไป”
“ถึงแม้อยู่คนละเส้นทางไม่วางแผนร่วมกัน แต่จำเป็นต้องกล่าวว่า สหายร่วมเส้นทางเซ่าร้ายกาจจริงๆ ถึงแม้จะมิได้ขึ้นชื่อเรื่องวรยุทธ์เหมือนอย่างสั่วมังกรอัคคี แต่ดูจากตอนนี้ กลับมีคุณค่ายิ่งกว่า นางเสียชีวิตไปแล้ว ช่างน่าเสียดายนัก”
เจี่ยงเซิ่นพอฟัง ไม่ได้พูดอะไร สายตาซึมเซา
ตรงหน้าเขาเหมือนปรากฏเงาร่างสายหนึ่ง
โฉมสะคราญผู้มีบุคลิกสูงส่ง ในความเกียจคร้านแฝงความแข็งกร้าวหลายส่วน ในความเอาแต่ใจแฝงความแน่วแน่เข้มแข็งหลายส่วนนางนั้น
ในอดีต นางเรียกเขาเป็นอาจารย์เจี่ยง เขาเองก็คิดว่านางเป็นคนรุ่นหลังที่เก่งกาจที่สุด และคบหาแบบสหายต่างวัย
ทว่าสุดท้ายก็ต้องเดินคนละเส้นทาง ถึงขั้นที่เพาะเป็นความแค้น
กาลเวลาอันยาวนานเลื่อนไหล ไม่เจอมาหลายพันปี ในตอนที่ทราบข่าวอีกครั้ง กลับเป็นข่าวการตายของอีกฝ่าย
ตอนนี้ตนจะต้องตัดสินกับผู้สืบทอดของนาง
เจี่ยงเซิ่นดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
“กระนั้น สหายร่วมเส้นทางสั่วถึงกับโมโหดเดือดดาลเพราะสหายร่วมเส้นทางเซ่าเสียชีวิต ก่อนหน้าข้านึกไม่ถึงจริงๆ” หยางเซ่อยามนี้พูดขึ้น
เจี่ยงเซิ่นกล่าวอย่างแช่มช้า “พวกเขาสองคนเคยเป็นคู่รัก เพียงแต่ว่าความต้องการไม่เหมือนกัน สุดท้ายจึงแยกทาง”
หยางเซ่อเอียงศีรษะเล็กน้อย “เช่นนั้นปัจจุบันสหายร่วมเส้นทางเซ่าเสียชีวิต สหายร่วมเส้นทางสั่วหรือจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง?”
“ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เจี่ยงเซิ่นว่า “ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่แก้แค้นให้จวินหวง หลังภัยพิบัติครั้งนี้ผ่านไป อาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น จุดยืนอยู่เขาอาจจะไม่ได้อยู่ตรงกลาง แต่เอนเอียงไปทางพวกใต้เท้าอายุวัฒนาและสหายร่วมเส้นทางเกา”
หยางเซ่อส่ายหน้า “ไม่ใช่ข่าวดีจริงๆ”
“ก่อนหน้านี้เขาเข่นฆ่าออกจากวงล้อมของโถงเซียนเส้นทางนอกรีตอีกครั้ง ตอนนี้อาจจะกลับโลกซ้อนโลกแล้ว” เจี่ยงเซิ่นกล่าว ก้าวไปด้านหน้า “พวกเราต้องรีบกลับให้เร็วที่สุด”
หยางเซ่อร่วมทางกับเขา ถามคำถามขึ้น “ข่าวที่สหายร่วมเส้นทางเฉินเป็นอิสระ พี่ร่วมเส้นทางทราบแล้ว?”
“ได้ยินมาแล้ว สหายร่วมเส้นทางเฉินช่วยลูกหลานของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยน เป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว” เจี่ยงเซิ่นกล่าวด้วยความเสียดาย “น่าเสียดายเขาไม่มองสถานการณ์โดยรวม ยังคงยึดติดกับน้ำใจส่วนตัว เหมือนเช่นวันวาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี