ทั่วทั้งจักรวาลสำนักเต๋าสั่นไหวอยู่ชั่วขณะ
มิติเวลาทั้งหมดต่างตกสู่ความปั่นป่วน มิติช่องว่างทับซ้อนกันอย่างต่อเนื่อง เวลาค่อยๆ หยุดนิ่ง
ขณะนี้ สรรพชีวิตในจักรวาลนี้เหมือนกับตกสู่สภาพไร้ความรู้สึก
มีแค่การคงอยู่ระดับสุดยอดจำนวนน้อยนิดจึงค่อยรักษาความเป็นตัวเองไว้ได้
คนที่ปกครองจักรวาลนี้ในตอนนี้มีน้อยในน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นตัวตนที่งอนิ้วนับได้
ครั้งนี้เพื่อสั่วหมิงจาง เทวกษัตริย์เส้นทางนอกรีตมายังจักรวาลสำนักเต๋าด้วยตัวเอง
แสงดาวของจักรพรรดิโกวเฉิน คุ้มครองโลกซ้อนโลกไว้ก่อน
กลางความว่างเปล่ามีเสียงดังมา แปลกประหลาดยากแยกแยะ เหมือนกับเสียงอันเรียบง่ายของมหามรรคา
เซียนสวรรค์ไร้สิ้นสุดเส้นทางนอกรีตเปล่งเสียง มิได้เข้าใจยากลึกลับเหมือนจักรพรรดิโกวเฉิน แต่แม้เป็นเซียนลี้ลับพิศวง ก็ยากจะเข้าใจความหมายที่อยู่ด้านใน
กลับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ ฝืนแยกแยะได้คร่าวๆ เพราะได้สัมผัสกับวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
“ใต้เท้าโกวเฉิน…ลำบากเอาใจใส่…แต่มีคนไม่รู้จักลิขิตฟ้า หาที่ตายด้วยตัวเอง…ดังนั้นมอบให้พวกเราสนองให้เขาเถอะ…”
พลังงานอันน่ากลัวและยิ่งใหญ่ปรากฏ สั่นไหวมิติเวลา ถูกสั่งสมรอปล่อยออกไป
‘เป็นจ้าวสวรรค์จากสำนักเต๋าดั้งเดิมสวามิภักดิ์กับเส้นทางนอกรีตหรือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจ
อีกฝ่ายยังรักษาความเคารพต่อจักรพรรดิโกวเฉินอยู่หลายส่วน
เวลาล่วงเลยมาถึงยุคสมัยนี้ ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจำนวนมากในยุคสถาปนาเทพเจ้าอันเป็นยุคแรก และยุคตำนานไซอิ๋วในกาลต่อมา เหลือข่าวน้อยลงเรื่อยๆ
มาถึงก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ นอกจากเทพเซียนที่ได้รับสถาปนาขึ้นสู่วังเทพแล้ว ผู้ยิ่งใหญ่ที่เคลื่อนไหวในสองยุคสมัยก่อนมาโดยตลอด ล้วนเหลือน้อยสุดขีด
แต่ละยุคสมัยมีอัจฉริยะบุรุษปรากฏ คนรุ่นใหม่สับเปลี่ยนคนรุ่นเก่า
ยุคสมัยนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานที่โดดเด่นที่สุดของสำนักเต๋าอยู่บนวังเทพเป็นส่วนใหญ่
สี่เทวราชสำนักเต๋าก็คือตัวแทนในยุคสมัยนี้ มีเกียรติสูงส่ง โด่งดังมาเป็นหมื่นปี
คนที่มาจากวังเทพเกรงว่าจะเป็นกลุ่มคนที่เข้าใจดีที่สุดว่าจักรพรรดิโกวเฉินแข็งแกร่งขนาดไหน
ปัจจุบันแม้จะเข้ากับโถงเซียนเส้นทางนอกรีต เรื่องราวในวันวานจบลงในวันวาน ตำแหน่งในอดีตล้วนเป็นภาพมายา
พวกเขาไม่ต้องเคารพจักรพรรดิโกวเฉินก็ได้ แต่กลับไม่อาจไม่เคารพพลังของอีกฝ่าย
กระนั้นนี่ไม่ส่งผลต่อเรื่องที่พวกเขาจะทำต่อจากนี้
ผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์กับวังเทพล้วนเป็นอดีตไปแล้ว พวกเขาจึงเป็นสำนักเต๋าสายหลักในตอนนี้!
“สุดท้ายแล้วก็ยัง…” เจี่ยงเซิ่นสีหน้าอับจนและหมดเรี่ยวแรง หันไปมองกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย “เจิ้นเป่ย คิดให้ดี”
“ผู้อาวุโสเจี่ยงสมควรทราบว่า ไม่ว่าจะเป็นความคิดของใต้เท้าโกวเฉินหรือใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ ตัวข้าก็ไม่เอนเอียง” เยว่เจิ้นเป่ยตอบอย่างเคร่งขรึม “หลายปีมานี้ที่ข้าอยู่บนโลกซ้อนโลก ก็เพื่อทำตามข้อตกลงในวันนั้น”
“ตอนนี้ข้อตกลงสิ้นสุด ไม่ติดค้างกันอีก ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เยว่เจิ้นเป่ยร่ำเรียน ล้วนเป็นท่านอาจารย์ประทานให้ ตอนนี้ลูกหล่านของท่านอาจารย์ลำบาก ข้าจะช่วยสุดความสามารถ”
เจี่ยงเซิ่นถอนใจอีกครั้ง ส่ายหน้า รู้สึกเสียดาย “ในคนรุ่นเจ้า เจ้าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด”
“ต้องขอบคุณความสำเร็จของท่านอาจารย์” เยว่เจิ้นเป่ยกล่วอย่างเฉื่อยชา “แม้วันนี้ต้องสิ้นชีพลงที่นี่ ก็ยึดถือเป็นทดแทนท่านอาจารย์”
เห็นดังนั้น เจี่ยงเซิ่นก็ถอนใจอีกครั้ง ไม่พูดอะไรต่อ
“นอกจากจ้าวสวรรค์ตักตวงวิเศษและเทพสีครามสีครามจ้าวฝีดาษแล้ว อีกสองท่านเรียกว่าอะไร” สั่วหมิงจางสีหน้าสงบนิ่งขณะมองแสงวิเศษพลังศรัทธาทั่วฟ้านั้น
ก่อนหน้านี้เขาก่อความวุ่นวายที่โถงเซียน ได้ทำความรู้จักกับเซียนสวรรค์เส้นทางนอกรีตสองคนแล้ว
ถึงสั่งหมิงจากจะเป็นคนที่เกิดขึ้นหลังภัยพิบัติ แต่ว่าอีกฝ่ายก็นับว่าเป็นบุคคลในตำนานที่มีชื่อมีแซ่บนวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หลังจากได้ต่อสู้กัน ย่อมล่วงรู้ถึงความเป็นมาและรากฐานของอีกฝ่าย
‘ไม่ใช่สามคน แต่มาด้วยกันสี่คน…’ เจี่ยงเซิ่นขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี