เยี่ยนจ้าวเกอมองสั่วหมิงจาง กล่าวเสียงทุ้ม “ขอให้ผู้อาวุโสสั่วรักษาตัวให้มาก ครั้งนี้ท่านเผชิญอันตรายมากมาย”
“ข้ารู้ดี ไม่เพียงแต่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณนั่นเท่านั้น แม้แต่พระเมตไตรยพุทธเจ้าก็ใช่ว่าจะชื่นชอบข้า” สั่วหมิงจางยิ้มเล็กน้อย “อาศัยจังหวะที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจับข้า พระเมตไตรยพุทธเจ้าไม่ยอมปล่อยโอกาสในการทำตัวเป็นชาวประมงได้ประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ท่านเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมอบเวลาให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเล็กน้อย”
หากผ่านเวลาเล็กน้อยนี้ไม่ได้ย่อมไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น
หากผ่านช่วงเวลาเล็กน้อยนี้ได้ รอจนพระศรีอาริย์บุกโถงเซียนที่ว่างเปล่าเต็มกำลัง เทวกษัตริย์ไร้ประมาณไม่อาจไม่ถูกดันให้ป้องกัน ละทิ้งความสนใจทางด้านสามพิสุทธิ์สายหลักชั่วคราว
ถึงจะขอให้ผู้ช่วยเหลือป้องกัน แต่ว่าแดนสุขาวดีก็ดึงคนอื่นมาเป็นพวกเช่นกัน ดังนั้นหากต้องป้องกันพระศรีอาริย์ จำเป็นต้องให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเฝ้าโถงเซียนด้วยตัวเอง
แต่คิดจะผ่านห้วงความเป็นความตายนี้ได้ ยากเย็นเกินไปแล้ว
ยากจนไม่มีใครมีความมั่นใจมากพอ
“คราบของจวินหวง ต่อจากนี้ฝากพวกเจ้าดูแลด้วย ข้าอาจจะไม่ได้กลับมาเยี่ยมแล้ว” สั่วหมิงจางถอนใจเบาๆ อย่างหาได้ยาก
เขาทั่วร่างมีเปลวเพลิงลุกไหม้ เกล็ดมังกรบนผิวหายไปอีกครั้ง เขามังกรบนศีรษะก็หายไปด้วยเช่นกัน
เพลิงยิ่งมายิ่งโชติช่วง เพียงแต่ลักษณะของสั่วหมิงจางเหมือนกับกำลังฟื้นฟู่สู่สภาพเดิม
ทว่า ในสายตาของคนอื่นๆ ให้ความรู้สึกว่ามีตรงไหนสักแห่งที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว
เหมือน…สูงใหญ่ยิ่งขึ้นแล้ว
ชั่วขณะที่เลือนราง ศีรษะก็เข้าใกล้ดวงดาวหกดวงที่จักรพรรดิโกวเฉินสร้างขึ้นจากแสงดาว
เจี่ยงเซิ่นได้ยินสั่วหมิงจางพูดกับเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ขมวดคิ้วมุ่น พอเห็นดังนั้นก็สั่นไปทั่วร่าง “สหายร่วมเส้นทางสั่ว ท่านมาถึงสภาพนี้แล้วจริงๆ ตอนนี้ก้าวเท้าก้าวนั้นได้แล้วหรือ?”
“ไม่ใช่ตอนนี้ เป็นหนึ่งพันปีก่อน”
สั่วหมิงจางสีหน้าซึมเซา
ข้างหูของเขาเหมือนมีเสียงกระดิ่งที่ยืดยาวดังขึ้นอีกครั้ง
ถูกต้อง พันปีก่อน
หนึ่งพันปีก่อน ตอนที่เขากลับโลกมังกรอัคคีทำความสะอาดหลุมศพให้บิดามารดา ทิ้งพัดพับที่เซ่าจวินหวงเคยมอบให้ไว้ที่นั่น ก็สามารถก้าวเท้าก้าวนี้ออกได้แล้ว
สำหรับเขา การก้าวเท้าก้าวนี้ขึ้นอยู่กับว่าอยากหรือไม่อยาก ไม่ใช่ได้หรือไม่ได้
ในตอนนั้นเขาไม่อยาก
เป็นเพราะการก้าวเท้าก้าวนี้อาจจะถูกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์จับตาดู
เขารักวรยุทธ์ ชอบค้นคว้ามรรคายุทธ์ แต่ไม่มีทางต่อสู้เป็นตายกับคนโดยไร้เหตุผล โดยเฉพาะเป็นการต่อสู้ที่รู้ทั้งรู้ว่าอาจล้มเหลว
ต่อให้ต้องสู้ ก็เป็นเขาอยากสู้ อยากสู้ในตอนที่ต้องการจะเห็นหลักการอันลี้ลับระหว่างฟ้าดินมากกว่าเดิม ต่อให้ต้องจ่ายด้วยชีวิต เพื่อแสวงหามรรคาแล้ว ไม่มีทางหวั่นเกรง
แน่นอนว่า เขายิ่งไม่ยินยอมรับการชำระล้าง
เพื่อป้องกันเรื่องเหล่านี้ เมื่อก้าวเท้าก้าวนั้นออก เขาจะต้องกึ่งล่องลอยกึ่งหลับใหลในความว่างเปล่าเหมือนจักรพรรดิโกวเฉิน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ และเจ้าแม่อู๋ตัง เพื่อป้องกันไม่ให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณและพระศรีอาริย์ทราบร่องรอย
ถึงจะไม่ใช่ต้องเร้นกายตลอดกาล แต่ก็มีข้อจำกัดมากมาย
เขาไม่ยินยอม
เป็นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องกระทำ
ตามหาที่อยู่ของเซ่าจวินหวง
ในเวลานั้น ห่างจากตอนที่เซ่าจวินหวงหายไปหนึ่งพันสี่ร้อนกว่าปีแล้ว
สั่วหมิงจางตามหามาหนึ่งพันสี่ร้อยกว่าปี กลับหาไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงต้องตามหาต่อไป
ตอนนั้นเพื่อตามหาเซ่าจวินหวง เขาสะกดตัวเองให้อยู่ในระดับเดิมนับพันปี ไม่ก้าวข้ามประตูบานนั้น
ปัจจุบันเพื่อดูแลผู้สืบทอดของเซ่าจวินหวง เขายังตั้งใจอยู่ในระดับเดิม รอให้อีกฝ่ายรวมตัวหลายๆ คน ค่อยจัดการในทีเดียว
โกวเฉินลงมือปกป้องเจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อ ทำให้เขาที่อยู่ในระดับเซียนกำเนิดทำอะไรไม่ได้
เช่นนั้น เขาจะก้าวเท้าก้าวนั้นออก เลื่อนเป็นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล!
ส่วนแสงวิเศษพลังศรัทธาเต็มฟ้านั้น…
“ฝยโถงเซียน ต่ำกว่าเทวกษัตริย์ ล้วนเป็นมดปลวก” สั่วหมิงจางสีหน้าไม่ซึมเซาอีก สายตากลับเหมือนเปลวเพลิงพวยพุ่ง กวาดมองเทวกษัตริย์จ้าว เทวกษัตริย์ตักตวงวิเศษ เซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลเส้นทางนอกรีต
ทว่าพอเห็นเหตุการณ์นี้ ทุกคนก็ไร้ข้อสงสัย!
วินาทีนี้เปลวเพลิงลุกโชนแยกมิติเวลาในจักรวาล สั่วหมิงจางอยู่ด้านใน เหมือนกับมิได้อยู่ในจักรวาลแห่งนี้อีก
ตำแหน่งตรงกลางสองบุปผาบนศีรษะของเขา ค่อยๆ มีแสงสว่างหย่อมที่สามลอยขึ้น!
สามบุปผาบนกระหม่อม ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!
ร่างมหาชาลเซียนสวรรค์ ไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง
ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล!
ร่างของสั่วหมิงจางเริ่มหายไปกลางแสง
มีแต่เปลวไฟหลายสายที่ลามเลียอย่างต่อเนื่อง อักขระอาคมหลายสายปรากฏขึ้นกลางเปลวเพลิง ขวางอยู่ระหว่างจักรวาล
ดวงดาวดวงหนึ่งลอยขึ้นกลางทะเลเพลิง
นั่นไม่ใช่ดวงดาวปลอมๆ และมิได้เกิดจากพลังงานของตัวสั่วหมิงจาง แต่เป็นดวงดาวที่แท้จริง!
วินาทีนี้ความว่างเปล่าอันไพศาลไร้ขอบเขตถูกสั่วหมิงจากกระตุ้น ดวงดาวทั้งหมดปรากฏขึ้นในทะเลเพลิงลุกโชน โผล่มาดวงแล้วดวงเล่า
แสงดาวส่องละลานตา พอเข้าไปใกล้ สามารถเห็นเปลวเพลิงไร้สิ้นสุดลามเลียบนผิวดาว
เพลิงสวรรค์บนดวงดาวอันร้อนเร่ายุบตัวเข้าด้านใน พลังยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ทะเลเพลิงที่เกิดมาจากสั่วหมิงจาง ทำให้จักรวาลสำนักเต๋าทั้งจักรวาลเหมือนกับลุกไหม้ขึ้นมา
เปลวเพลิงลุกไหม้เป็นเสียงเพียะพะ เสียงที่ลี้ลับมิอาจหยั่งคาดเหมือนจักรพรรรดิโกวเฉินสะท้อนไปทั่วจักรวาล
ในจักรวาลสำนักเต๋า ไม่ว่าจะเป็นโลกซ้อนโลก มรกตท่องฟ้า หรือว่าโลกเบื้องล่างที่อยู่ใต้การปกครองของพวกมันและมิติพิเศษ ตอนนี้สทุกสิ่งมีชีวิตามารถได้ยินเสียงนี้ ต่างเห็นแสงเพลิงที่กระจายทั่วฟากฟ้าครอบคลุมโลกนั้น
ขณะนี้ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ แม้เสียงนั้นยังคงลี้ลับ แต่ว่าทุกคนเข้าใจว่าเกิดเรื่องราวใดขึ้น
ในกลุ่มจอมยุทธ์หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ให้กำเนิดเทวกษัตริย์คนแรก!
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี