เยี่ยนจ้าวเกอมองเฟิงอวิ๋นเซิง กล่าวเสียงเบา “นอกจากพวกเราไม่กี่คน ตอนนี้ไม่มีคนรู้ว่าทำไมมารเงาถึงมาในครั้งนี้”
“มารเงาย่อมรู้สาเหตุของเรื่องราว แต่ใครๆ ก็ทราบว่า มารถนัดการล่อลวง เชื่อถือวาจาไม่ได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ไม่มีเรื่องของเจ้า นพยมโลกก็อาศัยความปั่นป่วนของโลกซ้อนโลกในครั้งนี้จับปลาตอนน้ำขุ่นอยู่ดี”
เฟิงอวิ๋นเซิงพอฟังก็ยิ้มเล็กน้อย ส่ายหน้าเบาๆ
“ก็ได้…” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจ “ข้าจะส่งเจ้าไป”
เขาปรบมือครั้งหนึ่ง หอเซียนม่วงมีแสงสีทองหลายสายสว่างขึ้น ห่อหุ้มเฟิงอวิ๋นเซิง ก่อนที่ร่างของนางจะค่อยๆ หายไป
กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยเห็นเงาร่างของนางหายไป ดวงตาฉายความกังวล “ในเรื่องร้ายมีเรื่องดี ในเรื่องดีมีเรื่องร้าย จะดีหรือร้าย ยังยากจะบอกกล่าว…”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเงียบๆ “มองจากมุมอื่น เหมือนกับเรื่องราวโลกซ้อนโลกในครั้งนี้ เป็นสมรภูมิที่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงยิ่งกว่าใช้สู้กัน แต่ตอนนี้กำลังดำเนินตามขั้นตอน ไม่ถึงเวลาเปิดเผยอย่างแท้จริง”
เขาดวงตาเย็นเยียบ “พวกเราก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาส”
เยว่เจิ้นเป่ยมองเยี่ยนจ้าวเกอ เนิ่นนานให้หลังค่อยยิ้มขึ้น กล่าวชมเชย “เจ้ามีความตั้งใจเช่นนี้ ย่อมประเสริฐสุด”
“กระทำเรื่องราวใด ให้แล้วแต่ลิขิตฟ้าเถอะ ต้องพยายามให้สุดความสามารถ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้แผนการขั้นแรกของพวกเราจะสำเร็จแล้ว แต่ว่าต่อจากนี้ยังจำเป็นต้องระวังตัว ไม่อย่างนั้นอาจจะแพ้ทั้งกระดานก็ได้”
เยว่เจิ้นเป่ยมองหอเซียนม่วงรอบๆ “เจ้าคิดจะปล่อยจักรวาลในตำหนักโอสถไว้ด้านนอก ให้กลายเป็นจักรวาลที่สามารถคงอยู่ในมิตินอกเขตแดนได้อย่างมั่นคงและเป็นเอกเทศน์เหมือนจักรวาลสำนักเต๋า เตรียมจะทำอย่างไร?”
อาณาเขตโลกซ้อนโลกที่ถูกดึงออกมา บวกกับแกนหลักด้านในตำหนักโอสถ กลายเป็นโลกใบใหม่
จากนั้นโลกเบื้องล่างเช่นโลกแปดพิภพก็จะสร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับโลกใบใหม่นี้ เหมือนที่เคยเชื่อมต่อกับโลกซ้อนโลก
เขตแดนอันเป็นรูปธรรมภายนอกตำหนักจะเลือนลางและหดเข้าด้านใน จักรวาลในตำหนักกลับขยายออกด้านนอก สร้าง ‘กำแพง’ ไร้รูปร่างขึ้นอีกครั้ง กั้นมิติต่างแดน
เมื่อเป็นแบบนี้ ตำหนักโอสถจะกลายเป็นจักรวาลแห่งใหม่
ขนาดอาณาเขตอาจไม่ใหญ่โตเท่านพยมโลก เขาดาราทะเลดวงดาว แดนสุขาวดี โถงเซียน จักรวาลสำนักเต๋า แต่ก็เป็นมิติเวลาใหม่ที่เป็นเอกเทศ โลกมากมายด้านในดำเนินไปตามขั้นตอน มีระบบของตัวเอง
บทบาทดั้งเดิมส่วนหนึ่งของตำหนักโอสถ อาจจะด้อยลง แต่ว่ายังคงรักษาได้เป็นส่วนใหญ่ สามารถแสดงความสามารถสำคัญได้
พอถึงเวลานั้น โลกที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ตำหนักโอสถสร้างขึ้นให้แก่ผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์ จึงนับว่ามั่นคงอย่างแท้จริง
แน่นอนว่า เงื่อนไขแรกที่ต้องจัดการก็คือ หลีกเลี่ยงหูตาของขุมกำลังต่างๆ เช่นโถงเซียน
เป็นเพราะใช้ตำหนักโอสถเป็นพื้นฐาน ดังนั้นตำแหน่งของจักรวาลนี้ในมิติต่างแดนจึงไม่เสถียร ล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ยากถูกจับตำแหน่ง
แต่ยังจำเป็นต้องระวัง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดตามรอยมาได้
“รอกลิ่นยาที่สั่งสมในตำหนักโอสถสลายหมดสิ้น ก็สมควรพอประมาณแล้ว แต่ยิ่งเป็นเศษหลงเหลือตอนท้าย ก็ยิ่งต้องใช้เวลาที่ยาวนานในการจัดการ”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จิตใจคนสงบเร็วเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น แต่ก็จะรีบร้อนไม่ได้”
จักรวาลในตำหนักขยายออกด้านนอก ถ้าหากมีกลิ่นโอสถและยาหลงเหลือ ก็จะกระจายไปด้วย เป็นเหตุให้เผยร่องรอย
นี่ล้วนเป็นเศษหลงเหลือที่ตำหนักโอสถได้สั่งสมไว้ผ่านกาลเวลานับไม่ถ้วน ถึงขั้นยังมีกลิ่นอายเก่าแก่และความซบเซาอันไร้รูปร่างเกาะติด ราวกับร่องรอยที่สลักบนประวัติศาสตร์และมิติเวลา คิดจะลบทิ้ง ย่อมมีแต่ต้องค่อยๆ กระทำ
กระนั้นตอนนี้คนที่อยู่ในจักรวาลตำหนักโอสถ ความจริงล้วนดูดซับกลิ่นโอสถและยาเหล่านี้ตลอดเวลา ขณะที่เร่งคามเร็วในการกำจัดกลิ่นโอสถที่คงค้างอยู่ ก็ส่งผลดีต่อตัวพวกเขามหาศาล
ถึงแม้เขตมากมายบนโลกซ้อนโลกจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอดึงออกมาเป็นผลสำเร็จ มิหนำซ้ำยังสามารถคืนสภาพเดิมได้ในระยะเวลาอันสั้น
แต่ยังเป็นแค่การรวมกันชั่วคราว ไม่ใช่การสร้างโลกใหม่อย่างแท้จริง โครงสร้างวัฏจักรปราณวิญญาณยังไม่มั่นคง
สำหรับคนธรรมดาทั่วไปไม่มีผลกระทบมาก แต่สำหรับจอมยุธ์ กลับส่งผลมหาศาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี