ถึงแม้ทุกฝ่ายจะมีจุดยืนเป็นศัตรู แต่เยี่ยนจ้าวเกอสำนึกตัวว่า หากสมมติให้ตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งของเจี่ยงเซิ่น ก็คงเหนื่อยใจยิ่ง
ยังไม่เอ่ยถึงราชันพระอาทิตย์เกาหาน ครั้งกระโน้นเขาเองก็เป็นฝ่ายตรงข้ามที่อันดับหนึ่งของเจี่ยงเซิ่น
เจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหู ขึ้นชื่อเรื่องการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่สนใจผู้ใด ไม่แน่ว่าจะสร้างข่าวใหญ่ออกมาตอนไหน
ราชันพระจันทร์หลิงชิงปกติไม่แสดงท่าที ดูไว้ใจได้มากกว่าเกาหานกับเจี่ยนซุ่นหวา แต่ก็ว่ากันว่าเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมากคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะร่วมรุกร่วมถอยกับเกาหาน หากแต่ราชันพระอาทิตย์คงไม่กล้าบอกว่าสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวทั้งหมดของนางได้
ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางรักสันโดษ ไปไหนมาไหนคนเดียว แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เป็นคนไม่อะไรกับผู้ใด สนใจการฝึกฝนวรยุทธ์บำเพ็ญเต๋ามากกว่า
เจียนเซิ่นไม่กลัวว่าเขาจะมีแผนการอะไร แต่เทียบกันแล้ว ไม่มีใครสามารถชี้นิ้วบกการสั่วหมิงจางได้
ข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวอาจเป็นราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวง แต่เซ่าจวินหวงกับเจี่ยงเซิ่นมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทิศทางใหญ่
เยี่ยนซิงถางราชันพระศุกร์ยอมหักไม่ยอมงอเหมือนกับกระบี่ บางครั้งถึงขั้นสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่เจี่ยงเซิ่นยิ่งกว่าเกาหานกับเซ่าจวินหวงเสียอีก
เฉินเสวียนจงราชันพระพุธแทบบอกได้ว่าเป็นคนที่มีนิสัยเยือกเย็นที่สุดในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ แต่เป็นเพราะเยือกเย็น ดังนั้นไม่ว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเล็กเขาจึงไม่จดจำใส่ใจ ไม่ได้มีการเอนเอียงทางจุดยืนที่ชัดเจน
ความรุ่งเรืองของสำนักเต๋าสายหลักนับว่าเป็นเรื่องที่เขาค่อนข้างให้ความสนใจ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เอนเอียงไปทางจักรพรรดิโกวเฉินหรือจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
กระนั้นเขาก็ค่อนข้างสนิทกับเยี่ยนซิงถางราชันพระศุกร์ ครั้งกระโน้นได้เข้าร่วมเรื่องการบุกเบิกโลกซ้อนโลก เพราะเยี่ยนซิงถางติดต่อ
ดังนั้นเหมือนกับที่เซ่าจวินหวงมีอิทธิพลต่อสั่วหมิงจาง ในตอนที่มีชีวิตเยี่ยนซิงถางก็มักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเฉินเสวียนจงเช่นกัน
จนกระทั่งเยี่ยนซิงถางเสียชีวิต จุดยืนของเฉินเสวียนจงค่อยเปลี่ยนไปอยู่จุดกึ่งกลางใหม่ เจี่ยงเซิ่นขอให้เขาช่วยเหลือ หากช่วยได้ เฉินเสวียนจงมักลงมือ แต่ว่าหวังให้เขาทำสุดความสามารถ พลีชีพไม่สนใจความตาย กลับยากเย็นยิ่ง
หยางเซ่อราชันพระเกตุยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่า ขอแค่เจียงเซิ่นคิดถึงใต้เท้ากษัตริย์เร้นลับ ก็จะรู้สึกคับข้อง
เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ล้วนเป็นคนโดดเด่น ร่วมกันส่องแสงให้แก่ยุคสมัยหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ กลายเป็นประกายแสงแรกของสำนักเต๋า
แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะยิ่งเก่งกาจเท่าใด ยิ่งมีลักษณะนิสัยเฉพาะตัวมากเท่านั้นหรือไม่ ต่างคนต่างไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน เป็นเหตุให้ตอนสุดท้ายต้องไปตามทางของใครของมัน
ขณะที่ทำให้คนทอดถอนใจ กลับเหมือนเป็นเรื่องที่ร้องเกิด
“คนอย่างราชันพระเสาร์ บางทีอาจนึกทบทวนบ่อยครั้ง แต่ไม่อาจโยกคลอนง่ายๆ” เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “ถึงทุกคนจะเป็นศัตรู แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่า ความมุ่งมั่นด้านจิตใจของคนที่ผ่านมรสุมมากมายขนาดนั้น สุดที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้ ยิ่งเหลือคนเดียวไร้ผู้ช่วยเหลือ กลับอาจแน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม”
อาหู่พอฟังก็หัวเราะอย่างสัตย์ซื่อ “ถูกราชันพระอาทิตย์เล่นงานเช่นนี้ ต่อจากนี้เขาจะเปลี่ยนเป็นหวาดระแวง ไม่เชื่อใครนอกจากตัวเองแล้ว?”
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “นั่นยากจะบอกแล้ว”
หลังจากแต่ละคนพูดคุยหยอกล้อกัน อาหู่กับเสี่ยวอ้ายก็นั่งสมาธิ สูดแก่นของกลิ่นโอสถเพื่อฝึกฝนต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอับกับเฟิงอวิ๋นเซิงทอดน่องอยู่กลางป่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี