“ก้าวหน้าขึ้นอีกก้าว…หรือ?” เฟิงอวิ๋นเซิงพึมพำ ทวนคำของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถไปถึงระดับนั้น ผู้ใดยินยอมย่ำอยู่กับที่ ไม่มุ่งไปหาทิวทัศน์ที่อยู่สูงกว่า?
“ไม่ใช่แค่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเท่านั้น” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างแช่มช้า “เซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลในปัจจุบันของโถงเซียนถึงจะหายไปสี่คน แต่ก็ยังมีอยู่ พวกเขาได้รับประโยชน์เพราะเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ แม้การฝ่าภัยพิบัติฟ้ากำเนิดจะดูเหมือนจะได้ผลประโยชน์มากมาย แต่เส้นทางที่พวกเขาจะเดินต่อสมควรทำอย่างไร?”
“ยอดฝีมือของแดนสุขาวดีที่เทียบได้กับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าเรา ควรจะทำอย่างไร?”
เยี่ยนจ้าวเกอสายตาล้ำลึก “พวกเขาไม่เหมือนกับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสำนักเต๋าสายหลักของพวกเรา หรือว่าเหมือนกับตอนที่พระศากยมุณีพุทธเจ้ายังคงอยู่ ที่พระพุทธเจ้าจากศาสนาพุทธสายหลักไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง อายุขัยเสมอฟ้า”
“พวกเขามีขีดจำกัดทางอายุขัยเหมือนกับจ้าวสวรรค์ในสามพิสุทธิ์สายหลักของพวกเรา”
เฟิงอวิ๋นเซิงใคร่ครวญเล็กน้อย เอ่ยว่า “การคาดเดามากมาย เมื่อไม่อาจพิสูจน์เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงได้ แม้พูดให้คนจากเส้นทางนอกรีตฟัง ก็ยากจะโยกคลอนความคิดของพวกเขา”
“ไม่ว่าจะเป็นแผนการและความพยายามของตัวเองก็ดี หรือว่าเป็นโชคลาภวาสนาจากภายนอกก็ดี” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “หากต้องการชัยชนะ พูดง่ายๆ คือมีสองทาง ถ้าไม่ทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอ ก็ต้องเพิ่มระดับให้ตัวเอง”
“ปัจจุบันผู้อาวุโสสั่วชิงโอกาสพัฒนาให้แก่พวกเรา การเปรียบพลังระหว่างเส้นทางนอกรีตสูญเสียสมดุล กำลังจะเกิดสงครามรุนแรง ไม่มีเวลาว่างมาสร้างปัญหาให้พวกเราอีก เป็นโอกาสที่พวกเราต้องพยายามสั่งสมและเพิ่มระดับ”
เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้า “นี่ย่อมแน่นอน”
สำหรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว เวลาไม่คอยท่า คุณค่าของเวลาล้ำค่าเป็นพิเศษ
เวลาที่มอบให้เขาล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า
แต่ความย้อนแย้งอยู่ที่ พวกเขาใช่ว่าจะมีเวลามากพอขนาดนั้น
คู่ต่อสู้จะต้องไม่ยอมให้พวกเขาเติบโต การกลุ้มรุมและการกดดันล้วนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ดังนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงจำเป็นต้องวางแผนให้ละเอียดกว่าเดิม รู้จักใช้โอกาสเพื่อเพิ่มโอกาสชนะให้แก่ฝ่ายตัวเอง
หลังจากเห็นว่าเฟิงอวิ๋นเซิงนั่งขัดสมาธิในมิติจักรวาลด้านในตำหนักโอสถ สูดลมหายใจทำสมาธิ ฟื้นฟูตัวเองแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็นั่งตรงข้ามนาง
กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เริ่มฝึกฝนในทันที
เขาดวงตาล่องลอยอยู่บ้าง กวาดมองรอบๆ มองดูจักรวาลอันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดในตำหนัก
อดีตตำหนักโอสถของวังเทพ ปัจจุบันได้ตกมาอยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว
แต่ว่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับเทียนซูวิญญาณตำหนัก ในตอนที่เพิ่งได้ตำหนักโอสถมา เวลานี้ได้ปรากฏขึ้นในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เขาทบทวนถึงเรื่องราวของตนเองก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ความทรงจำตอนยังอยู่ในหอเก็บหนังสือวังเทพ
การได้พบจักรพรรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์โกวเฉิน รวมถึงจ้าวสวรรค์จ้าว ล้วนสะเทือนอารมณ์ของเขา
เพียงเสียดายที่เขาไม่อาจสนทนากับคนเหล่านี้ต่อหน้าได้ ดังนั้นความสงสัยมากมายในใจ จึงได้แต่ต้องติดค้างอยู่ในส่วนลึกของจิตใจต่อไป
พวกจ้าวสวรรค์จ้าว และเทพสีครามจ้าวฝีดาษยังพอทำเนา จักรพรรดิโกวเฉินกลับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดที่มีไม่กี่คนในวังเทพ
ความสงสัยจำนวนไม่น้อยของเยี่ยนจ้าวเกอ บางทีอาจหาคำตอบได้จากเขา
คนที่คล้ายกับเขายังมีจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เทียบกับจักรพรรดิโกวเฉินแล้ว ยังเป็นตัวตนที่เก่าแก่ยิ่งกว่า
ผู้สืบทอดของบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์ที่แท้จริง ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ไม่กี่คนที่ได้เข้าสูวังเทพ ซึ่งไม่ได้อยู่ในทำเนียบเซียน
หลังจากผ่านยุคสถาปนาเทพเจ้า ยุคไซอิ๋ว มาจนถึงยุคปัจจุบัน ข้อมูลที่เขามีอยู่ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมากกว่าจักรพรรดิโกวเฉิน
“ฟู่ว….” เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจยาว สะสางความคิดที่ยุ่งเหยิง จิตใจค่อยๆ สงบลง
เขาละสายตากลับมา ไม่ซึมเซาเลื่อนลอยอีก เริ่มต้นการฝึกฝน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี