เทวกษัตริย์เต๋าสายเอกพิสุทธิ์ที่ได้หลุดพ้นไปแล้ว ไฉนยังคงอยู่ในโลกนี้?
เรื่องที่ย้อนแย้งกันเช่นนี้ย่อมสร้างความสงสัยให้แก่คนจำนวนมาก
นี่เป็นหนึ่งในกลุ่มก้อนปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนประวัติสาสตร์โลกในตอนนี้
เลศนัยที่อยู่ด้านใน ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่า ไท่ซ่างเหล่าจวินที่โผล่มาในยุคไซอิ๋ว และอยู่ที่ตำหนักดุสิตบนสวรรค์ชั้นหลีเฮิ่น สุดท้ายแล้วเป็นเทวกษัตริย์เต๋าแห่งสายเอกพิสุทธิ์ที่แท้จริงหรือไม่?
ความสงสัยของทุกคนต่อบุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ย่อมถูกฝังอยู่ในส่วนลึกจิตใจ ไม่กล้ากล่าวออกมา
ทว่าหลังจากยุคไซอิ๋ว เข้าสู่ยุคสมัยปัจจุบัน เหล่าจวินก็ไม่โผล่มาอีก ไม่มีข่าวคราวใด
ดังนั้นจิตใจของทุกคนยิ่งสับสนกว่าเดิม
ข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอได้สัมผัสตอนที่อยู่ในวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่บอกว่า เคยมียอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ไปพบเหล่าจวินที่ตำหนักดุสิต พิสูจน์ว่าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เหล่าจวินยังคงอยู่
แต่วาวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เป็นเหตุให้สำนักเต๋าสายหลักเสื่อมโทรมลง
เหล่าจวินจะยังอยู่หรือไม่ ยิ่งมายิ่งมีคนสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอเคยสงสัยเช่นกัน ส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางไม่เชื่อ
เรื่องเล่าในประวัติศาสตร์บนโลกใบนี้ หลายสิ่งหลายอย่างเหมือนจริงแต่ก็แปลกปลอม ยากจะแยกแยะ ผู้ใดเอาแต่เชื่อโดยไม่คิดสงสัย รังแต่จะทำให้ตัวเองต้องตาย
เยี่ยนจ้าวเกอมักเตือนสติตัวเองว่า อย่างมากสุดเพียงพิจารณาข่าวสารเทพนิยายจำนวนมากในความทรงจำก่อนหน้า แต่ห้ามเอามาใช้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอนของโลกฝั่งนี้ ไม่อย่างนั้นแนวคิดประจักษ์นิยมก็จะสร้างความเสียหายได้จริงๆ
มีออยู่ช่วงหนึ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอเคยสงสัยว่า เหล่าจวินในยุคไซอิ๋วความจริงไม่ได้มีตัวตน แต่มีคนสวมรอย
ทว่าชนชั้นเหล่าจวิน เกรงว่าไม่อาจใช้หลักการตรรกะทั่วไปมาหยั่งคาดได้
ตอนนี้พอจะมองออกผ่านการกระทำของโถงเซียน และแดนสุขาวดีบัวขาว ไปจนถึงแดนสุขาวดีตะวันตก กับเขาดาราทะเลดวงดาวว่า ถ้าไม่มีความคิดอื่นใดเป็นพิเศษ พวกเขาก็มีข้อกริ่งเกรงในการทำลายการสืบทอดของสำนักเต๋าสายหลักโดยสิ้นเชิงจริงๆ
ทว่าตัวตนที่ทำให้พวกเขาหวั่นเกรง เยี่ยนจ้าวเกอคิดไปคิดมา ก็มีได้แค่คนเดียว
เทวกษัตริย์เต๋าแห่งสายเอกพิสุทธิ์!
ไท่ซ่างเหล่าจวิน!
‘ความวุ่นวายภายในของวังเทพเมื่อครั้งกระโน้น บางทีอาจไม่ได้รวบรัดขนาดนั้น’ เยี่ยนจ้าวเกอคิดในแง่ร้ายอยู่บ้าง
ความคิดของเหล่าจวินยากคาดเดา สูงสุดคือการไม่แทรกแซง หลายๆ ครั้งเพียงมองอยู่ด้านข้างอย่างเป็นกลาง
แต่ถ้าคนอื่นๆ ฝืนสะกดสำนักเต๋าสายหลักที่ตอนนั้นยังไม่เสื่อมโทรม บางทีอาจทำให้เหล่าจวินเปลี่ยนแปลงความคิด?
ทว่าถ้าเป็นปัญหาภายในของสำนักเต๋าเอง เช่นนั้นความเป็นไปที่ที่เหล่าจวินจะให้ความสนใจก็ลดต่ำลงมาก
เพียงไม่ทราบว่าไฉนตอนสุดท้ายสภาพการณ์จึงขยายใหญ่ขึ้น จนถึงขั้นที่มหาจักรวาลแหลกสลาย
เยี่ยนจ้าวเกอเรียบเรียงเบาะแสในมือ คิดเชื่อมโยงในใจ เกิดการคาดเดามากมาย
กระนั้นเขาก็หยุดการคาดเดาเหล่านี้ไว้ก่อน เผชิญหน้ากับกษัตริยืเถาด้วยความสงบ “พวกเรายากทำความเข้าใจความคิดของเหล่าจวิน ปัจจุบันแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจต่างเผยโฉมออกมาใหม่ ไม่ทราบว่าอมิตตาภพุทธเจ้ายังอยู่หรือไม่ และไม่ทราบว่าเผ่าปีศาจเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่คนไหนควบคุมสถานการณ์ พวกเราจำเป็นต้อง…ระวังตัว”
กษัตริย์เถาสายตาสงบนิ่ง ไม่เห็นความรู้สึกใด
นางย่อมเข้าใจว่า คำว่า ‘ระวังตัว’ ของเยี่ยนจ้าวเกอแตกต่างกับแนวคิดรักษาความสุขุมเยือกเย็นของราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นบนโลกซ้อนโลก
เจี่ยงเซิ่นใคร่ครวญว่าสถานการณ์ไม่ใช่ไม่มีทางเปลี่ยน ที่อดทนชั่วขณะ และรอคอยโอกาสเงียบๆ สาเหตุหลักๆ ความจริงมาจากเหล่าจวิน
นี่เป็นพื้นฐานและเสาค้ำซึ่งทำให้เขาแสดงท่าทีอดกลั้น
ที่ท่าทีของคนส่วนหนึ่งต้องการเป็นฝ่ายรุกและมีความรุนแรงมากกว่า เป็นเพราะยากจะใคร่ครวญถึงท่าทีของเหล่าจวินในปัจจุบันจริงๆ
ตอนเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เหล่าจวินไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยว ทำให้ผู้คนไม่อาจมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ถ้าหากว่าเหล่าจวินมองสามพิสุทธิ์สายหลัก ศาสนาพุทธ เส้นางนอกรีต เผ่าปีศาจ หรือแม้แต่มารร้ายนพยมโลกเท่าเทียมกันด้วยท่าทีหลุดพ้นจริงๆ เช่นนั้นก็นับว่าเป็นข่าวร้ายในระดับหนึ่งสำหรับผู้สืบทอดของสำนักเต๋าสายหลัก
ต่อให้ท่าทีของเหล่าจวินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลาก็ตาม
แต่ไม่ทันไรก็ได้ยินกษัตริย์เถากล่าวต่อ “เรื่องนี้ให้ชิงเสวียนเจ้าจัดการ ไม่จำเป็นต้องคิดถึงข้า เน้นความสะดวกของตัวเองก็พอ”
ทุกคนพอฟังถึงตรงนี้ ต่างรู้สึกไม่ถูกต้อง แตกตื่นพร้อมกัน
“ท่านอาจารย์ ท่าน…” กษัตริย์ลี้ลับดวงตาทอแววเป็นห่วง มองอาจารย์ของตัวเอง
กษัตริย์เถาพยักหน้า “พวกเจ้าติดตามเซียนผู้ถูกเนรเทศไป ข้าไม่ไปแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกังวล มรกตท่องฟ้าเมื่อหลุดออกจากจักรวาลนี้ ข้าเองก็จะไม่ขออยู่ที่นี่อีก จะไปยังมิตินอกเขตแดนด้วยตัวเอง”
จักรพรรดิสัญญะเมฆเกลี้ยกล่อม “ใต้เท้ากษัตริย์เถา สำหรับพวกเราแล้ว ปีศาจร้ายเส้นทางนอกรีตถือเป็นศัตรูร่วมกัน”
“เจ้าพูดถูกต้อง ดังนั้นข้าจึงไม่คัดค้านการไปของพวกเจ้า ทั้งยังสนับสนุน” กษัตริย์เถาเอ่ยอย่างราบเรียบ “แต่หญิงชราเช่นข้าไม่ขอรับผลประโยชน์จากผู้สืบทอดของเยี่ยนซิงถาง”
ว่าแล้วนางก็ผุดลุกขึ้น “แยกย้ายไปเตรียมตัวเสีย ไม่ต้องห่วงข้า”
ขณะมองเงาหลังของกษัตริย์เถาที่ออกไปจากโถงด้านหลังนิวาสสถาน พวกษัตริย์ลี้ลับและจักรพรรดิสัญญะเมฆยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์มองหน้ากัน สีหน้าทอแววอับจนปัญญา
ถึงกษัตริย์เถาจะมีน้ำเสียงเรียบเฉย กลับไม่อนุญาตให้สงสัย เห็นได้ชัดว่ามีการตัดสินใจอยู่แล้ว ไม่อาจโยกคลอนได้
เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้ถึงจุดนี้ จึงไม่ได้กล่าวอะไรมากความ
ครั้งกระโน้น ข่งชิงซีลูกศิษย์ก้นกุฎติของกษัตริย์เถาใช้ถ้อยคำเยาะเย้ยเยี่ยนวิงถางที่ได้ตายไปแล้ว สะกิดโทสะของเยว่เจิ้นเป่ย สองฝ่ายสู้กันเป็นตาย สุดท้ายเป็นข่งชิงซีสิ้นชีพใต้กระบี่ของเยว่เจิ้นเป่ย
นี่ทำให้กษัตริย์เถาที่เดิมทีไม่ชอบใจอยู่แล้ว ไม่ขออยู่ร่วมกับผู้สืบทอดของเขานครหยก
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เยี่ยนจ้าวเกอย่อมยืนอยู่ข้างอาจารย์ลุงของตน
ถึงวันนี้กษัตริย์เถายังคับข้อง แต่ว่าก็อนุญาตเรื่องย้ายมรกตท่องฟ้าแล้ว พวกเกาชิงเสวียนไม่ต้องกระอักกระอ่วนอีกต่อไป
เยี่ยนจ้าวเกอสามารถจัดการได้เต็มที่เช่นกัน
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี